19 มิ.ย. 2019 เวลา 11:24 • ประวัติศาสตร์
อารยธรรมไอยคุปต์ ยุคทองของเครื่องสำอางความงามของ ชนชาติอียิปต์
Worldwide
ในปัจจุบัน ต้องยอมรับเลยว่าเรามีเครื่องสำอางให้ใช้กัน หลากหลายคอลเล็กชั่น ไม่ว่าจะเป็น สี กลิ่น รส ที่น่าสัมผัส ซึ่งจริงๆแล้วเครื่องสำอางที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ถูกใช้มาก่อนเราตั้งแต่หนึ่งหมื่นปีมาแล้ว อารยธรรมในสมัยก่อนเรื่องความสวยความงาม ถือเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อว่าสามารถไล่สิ่งชั่วร้ายหรือปีศาจได้นั่นเอง และอีกหนึ่งอย่างก็คือสามารถดูแลผิวกายและผิวหน้าให้มีสุขภาพดี และรวมไปถึงสามารถรักษาโรคได้ด้วย อย่าลืมว่า อียิปต์นั้นเป็นประเทศเมืองร้อน อากาศอบอ้าว แห้ง เต็มไปด้วยทะเลทราย ต้องหาอะไรมาให้ความชุ่มชื้นผิว สักนิดนึง
ซึ่งในอียิปตก็มีชื่อเสียงด้านเครื่องสำอางที่โด่งดังตั้งแต่ยุคก่อนคริสตกาล อยู่แล้ว แต่ยุคที่หลงใหล ความสวยความงาม ที่ไม่ได้เป็นแค่ผู้หญิง แต่ผู้ชายในสมัยนั้นก็หลงใหลในเครื่องสำอางเช่นกัน อย่างยุค อารยธรรมไอยคุปต์
ยุคที่รุ่งเรืองมากในเรื่องความงาม
รูปสลักของราโฮเทป(ขวา)และโนเฟรต(ซ้าย)แสดงให้เห็นว่าในยุคไอยคุปต์นั้นบุรุษและสตรีล้วนแต่งองค์ทรงเครื่องทาตาแต่งกน้ากันทั้งคู่ Cr. Pinterest
สังเกตได้จากศิลปะของชาวอียิปต์โบราณที่ปรากฏอยู่ที่ภาพบนผนังของวิหารและสุสานจะพบว่าพวกเขานิยมแต่งหน้า ที่แสดงถึง ความรักสวยรักงามของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด ภาพนั้น ไม่ได้แสดงให้เห็นแค่สุภาพสตรีเท่านั้นที่ เสริมความงาม ใน ผู้ชายก็เริ่มหันมาทาขอบตา เพื่อความหล่อเหลาด้วยเช่นกัน (ความงามแวดวงที่ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงอีกต่อไป)
Cr. Pinterest
เครื่องสำอางที่พบในลุ่มแม่น้ำไนล์ มักจะทำมาจากหินแร่ต่างๆในธรรมชาติ
คนรุ่นใหม่มองว่ามันอาจจะดูอันตรายเพราะ เครื่องสำอางในสมัยก่อน มีสารตะกั่วเป็นจำนวนมากแต่ถ้าให้เปรียบเทียบเครื่องสำอางในอดีต กับปัจจุบัน ในอดีตไม่มีสารเคมีเจือปนในเครื่องสำอางอย่างแน่นอน
และก็มาถึงการยกระดับความงามไปอีกขั้นนั่นก็คือการ “ศัลยกรรมตกแต่ง” ใบหน้า ชาวอียิปต์นั้นถือว่าเป็นอารยธรรมที่ล้ำยุคกว่าอารยธรรมใดๆ ในสมัยนั้น เพราะพวกเขารู้จักการผ่าตัด การเย็บแผลกันแล้ว แต่การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อความสวยความงามแล้วส่วนใหญ่จะอยู่ในหมู่ชนชั้นสูงมากเพราะมีหลักฐานจากมัมมี่หลายๆ ร่างว่าภายในร่างกายนั้นมี “สิ่งแปลกปลอม” ฝังอยู่ ซึ่งเป็นการฝังไว้ในช่วงที่พวกเขานั้นมีชีวิต
Cr. pinterest
ดังเช่นในรายของพระนางเนเฟอร์ตีติพบว่ามีชิ้นกระดูกเล็กๆ ที่เป็นสิ่งแปลกปลอมยัดเข้าตรงที่สันจมูกของพระนางเพื่อทำให้สันจมูกนั้นโด่งขึ้นมา นอกจากนี้ก็ยังพบว่าในผู้ชายก็มีการเสริมด้วยเช่นกัน อย่างจมูกของฟาโรห์ตุตันคาเมนที่พบว่ามีเมล็ดพืชที่มีลักษณะเรียวยาวนั้นฝังไว้บริเวณที่เป็นสันจมูก ซึ่งจากการค้นพบและศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ก็พบว่าชาวอียิปต์ที่จะเสริมจมูกในสมัยนั้นจะใช้วัสดุประเภทกระดูกสัตว์ เมล็ดพืชที่มีลักษณะแข็งหรือแม้กระทั่งหินทรายที่ขัดเป็นรูปแทนซิลิโคนในปัจจุบัน
Reference :www.gypzyworld.com/article/view/1143
โฆษณา