19 มิ.ย. 2019 เวลา 13:09 • บันเทิง
“เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ น่าจะติดเชื้อ HIV จากผม”
Jim Hutton
ความรักของคนสองคนไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเสมอไป ถ้าใครไม่ได้เป็นอย่างผู้ชายสองคนนี้ คงไม่มีวันรู้หรอกว่ารสชาติของ "ชายรักชาย" มันมีความหมายสำหรับพวกเขาเพียงใด...
1
แม้ว่า Jim Hutton (จิม ฮัตตัน) กับ Freddie Mercury (เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่) จะไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งคู่ก็สวมแหวนแต่งงานให้กันเพื่อแสดงความรักและเพื่อเป็นการผูกมัดทางใจให้แก่กัน
1
จิม ฮัตตัน เล่าให้ฟังถึงความหลังเมื่อครั้งที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกว่า เขาจำไม่ได้เลยว่าชายคนที่เขากำลังคุยอยู่ด้วย (หมายถึง เฟรดดี้) เป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ ซึ่งมาเสนอเลี้ยงเครื่องดื่มให้กับเขา แต่จิม ตอบปฏิเสธไป
1
เวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านไปนานร่วมปีเศษโดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้งที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง เฟรดดี้ ก็ยังทำเหมือนเมื่อครั้งที่เคยเจอกัน คือเสนอเลี้ยงเครื่องดื่มจิมเช่นเดิม แต่คราวนี้ เฟรดดี้ได้ผลลัพธ์ที่ต่างไปจากคราวก่อน เมื่อจิม ตอบตกลง
1
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เริ่มออกเดทกัน จนกระทั่ง จิม ฮัตตัน ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของ เฟรดดี้ ที่การ์เดน ลอดจ์
ในช่วงที่คบหากัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนเลย ซึ่งจิมก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด ถึงแม้จะยังอยู่ด้วยกันฉันคนรักใคร่ แต่ใช่ว่าทั้งคู่จะไม่เคยมีปากเสียงกันเลย ทั้งจิม และ เฟรดดี้ ต่างก็มีหัวจิตหัวใจเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วไป มีรัก โลภ โกรธ หลง มีหึง มีทะเลาะ มีงอล มีง้อกัน
“เฟรดดี้ เป็นคนเซนซิทีฟ อ่อนไหว แต่ก็ขี้อาย และมีอารมณ์เหวี่ยงง่าย เวลาไม่สบอารมณ์ เขาชอบที่จะอยู่กับตัวเอง ส่วนตัวผมเป็นคนเงียบและไม่มีคาแรกเตอร์พิเศษอะไร นอกเสียจากว่าจะมีใครมารินเบียร์สักสองแกลลอนให้ผมดื่ม นั่นถึงจะทำให้ผมเปลี่ยนไปได้”
1
เมื่อมีคนถามว่า “เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ติดเชื้อจาก จิม ฮัตตัน หรือ?”
เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ กับ จิม ฮัตตัน
“เฟรดดี้ น่าจะติดเชื้อ HIV จากผม”
จิม ฮัตตัน ตอบอย่างไม่แน่ใจเท่าใดนัก แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมาจากเขา
“เฟรดดี้ คือหนึ่งในชายไม่กี่คนที่ดึงดูดผม”
“เมื่อใดก็ตามที่ เฟรดดี้ มีความต้องการทางเพศ ...ไม่มีใครหยุดเขาได้”
“คืนก่อนวันวาเลนไทน์ เราทะเลาะกันรุนแรงมาก ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ผมจำได้ว่าผมมอบกุหลาบบลูมูนให้เขาจำนวน 36 ดอก”
“ผมพาเขาเข้านอน ที่มือเฟรดดี้ มีน้ำชาและโดนัทสองชิ้น หนึ่งชิ้นสำหรับตัวเขาเอง และสำหรับแมวชื่อ "Delilah" อีกหนึ่งชิ้น”
จิม ฮัตตัน เล่าให้ฟัง
หลังจาก เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเอดส์เมื่อปี 1987 จิม ฮัตตัน ก็ได้ไปตรวจร่างกายด้วย ซึ่งเขาก็ถูกตรวจพบเชื้อ HIV เช่นเดียวกันในปี 1990
“ตอนที่ผมรู้ข่าวนี้ ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า 'อืมม...' มันเหมือนเรื่องตลกเลยนะ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว”
1
จิม ฮัตตัน เป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับเฟรดดี้ มากที่สุดแต่ก็อาจไม่ถึงกับเป็นเงาตามตัว หรือเห็นเฟรดดี้ที่ไหน ต้องเห็นจิมที่นั่น แต่จิม ก็นับว่าโชคดีกว่าใครๆ ที่มีโอกาสได้สัมผัสช่วงเวลาสำคัญของ เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ และวง Queen แบบใกล้ชิดถึงหลายครั้งหลายคราด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการแสดงในโชว์ “Live Aid” (ไลฟ์ เอด) เมื่อปี 1985
1
ฝูงชนเรือนแสนในสนามเวมบลีย์ที่ตอบสนองต่อการแสดงของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ และวง Queen ทำให้จิมทึ่งและประหลาดใจเป็นอย่างมาก
จิม ฮัตตัน ได้เล่าความรู้สึกในครั้งนั้นให้ฟังว่า
“ผมเห็นเฟรดดี้ เอาคนดูนับแสนชีวิตอยู่หมัด ขนผมลุกซู่ไปทั้งตัว ตอนนั้นน้ำตาผมไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว”
หลังการตายของ เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ มีรายงานว่าแมนชั่นในลอนดอนตกเป็นของ แมรี่ ออสติน อดีตแฟนสาวของเฟรดดี้ ส่วน จิม ฮัตตัน ได้รับเงินก้อนหนึ่งและเดินทางกลับไอร์แลนด์บ้านเกิด
เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ กับ แมรี่ ออสติน อดีตแฟนสาว
ก่อนจากโลกนี้ไป จิม ฮัตตัน ได้เขียนหนังสือเล่าถึงความสัมพันธ์ของเขากับเฟรดดี้ ชื่อ “Mercury and Me” โดยที่เขาต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งมาเป็นเวลาหลายปี ก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อปี 2010 ด้วยโรคมะเร็งปอดขณะอายุได้ 60 ปี
“Mercury and Me”
ในขณะที่ใครหลายคนเข้าใจว่าการเสียชีวิตของจิม ฮัตตัน มาจากโรคเอดส์เช่นเดียวกันกับเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่
Rest in Peace
นักล่าผู้บ้าบิ่น
โฆษณา