20 มิ.ย. 2019 เวลา 14:27 • การศึกษา
คนมีรถอย่ามองข้าม 9 สัญญาณไฟ แจ้งเตือนบนหน้าปัดรถ
คนที่ขับรถทั้งหลาย ควรจะทราบสัญญาณไฟที่แจ้งเตือนอยู่บนหน้าปัดรถของคุณ เพราะมันกำลังบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างขึ้นในรถของคุณ เพื่อที่จะได้ทราบและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น เรามาเรียนรู้กันดีกว่า ว่าสัญญาณที่ปรากฏขึ้นแต่ละอย่าง มันบ่งบอกถึงอะไร
เริ่มจากเรียงลำดับตามความสำคัญ สีแดง –> สีเหลือง –> สีเขียว ( สำคัญสุดคือสีแดง ) ซึ่งถ้ามีสัญลักษณ์สีแดงโชว์ขึ้นมานั้น บ่งบอกถึงความผิดปกติของรถที่คุณไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง
ไฟเตือนสีแดง หมายถึง ต้องหยุดใช้รถทันที และ รีบตรวจสอบความผิดปกติตามรูปไฟเตือนที่ปรากฎในทันที
ไฟเตือนสีเหลือง หมายถึง การแจ้งเตือน สามารถใช้งานรถต่อไปได้ แต่ต้องระมัดระวังในการใช้งาน
ไฟเตือนสีเขียว หมายถึง ผู้ขับกำลังใช้งานอุปกรณ์ของรถยนต์ที่ไม่เกิดความเสียหายอยู่
ทีนี้เราลองดูกันว่าไฟเตือนต่างๆเหล่านี้บอกความหมายว่าอย่างไรกันบ้าง
1
1. สัญญาณไฟรูปตู้จ่ายน้ำมันแต่มีจุดๆอยู่ด้านล่าง
เวลาที่เราเห็นสัญญาณนี้แสดงขึ้นมา มันบ่งบอกว่า กรองน้ำมันกำลังมีปัญหา อาจเกิดจากการที่กรองน้ำมันตัน หรือมีน้ำผสมอยู่ในน้ำมันมากเกินไป ควรทำการเช็คตัวกรองให้ดี
2. สัญญาณไฟรูปตู้จ่ายน้ำมัน
สัญลักษณ์แบบนี้คงเป็นที่คุ้นตากันดีสำหรับหลายๆคน เป็นการเตือนว่าน้ำมันกำลังอยู่ในระดับต่ำ ให้เติมน้ำมันก่อนที่จะหมด โดยส่วนใหญ่จะสามารถวิ่งต่อได้อีกประมาณ 40-100 กิโลเมตร ขึ้นอยู่ว่าเป็นรถรุ่นไหน และสัญลักษณ์รูป สามเหลี่ยมเล็กๆ ด้านข้างถังนั้น ช่วยบ่งบอกว่าฝาถังน้ำมันอยู่ด้านไหน เวลาเข้าปั้มเติมน้ำมันจะได้จอดถูกฝั่งจ่ายน้ำมัน
1
3. สัญญาณไฟรูปปรอทมีขีดระดับน้ำ
หากเห็นสัญญาณนี้ปรากฎ ควรจะระวังและตรวจสอบโดยเร็ว ไม่ควรฝืนใช้รถต่อ เพราะอาจจะทำความเสียหายอย่างหนักให้เครื่องยนต์ได้ สัญญาณนี้หมายถึง การเตือนเรื่องความผิดปกติของระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เช่น พัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน น้ำยาหล่อเย็นขาด หรือ รั่ว เป็นต้น
1
4. สัญญาณไฟเครื่องหมายตกใจกลางวงกลม หรือ เบรค
จะปรากฏขึ้นให้เห็นใน 2 กรณีคือ เมื่อมีการดึงเบรกมือ หรือลดเบรกมือยังไม่สุด จะทำให้สัญลักษณ์นี้ติดขึ้นมา แต่ถ้าหากลดเบรกมือแล้วยังไม่ดับ คงต้องตรวจสอบระบบเบรก โดยดูระดับน้ำมันเบรกเป็นสิ่งแรก เพราะส่วนใหญ่แล้วสัญลักษณ์จะแจ้งเมื่อน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับปกติ แต่สำหรับบางรุ่นจะแยกกันระหว่างระบบเบรกกับเบรกมือไว้แยกจากกัน โดยระบบเบรกจะเป็นเครื่องหมายตกใจ ส่วนเบรกมือ จะเป็นตัว P
5. สัญลักษณ์ถุงลมนิรภัย
ปกติสัญลักษณ์นี้จะขึ้นมาค้างประมาณ 5 วินาทีหลังสตาร์ทรถ เป็นการเช็คถุงลมนิรภัยของระบบตัวรถ แต่ถ้าสัญลักษณ์นี้แสดงขึ้นมาค้างหลังจากสตาร์ทเครื่องไปแล้วไม่ยอมดับ ควรจะเอารถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบการทำงาน เพราะถุงลมนิรภัยอาจจะไม่ทำงาน หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา
6. สัญลักษณ์แบตเตอรี่ ขั้วบวก ขั้วลบ
1
หลายคนมักจะเข้าใจว่า หากสัญญาณนี้ปรากฏขึ้นมา คือแบตเตอรี่เสื่อม แต่จริงๆแล้วมันคือ ไดร์ชาร์จทำงานผิดปกติ เช่น ไดร์ชาร์จเสีย ไม่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ หรือ ไม่มีการจ่ายไฟเข้าใช้งานในระบบรถยนต์ เมื่อใช้ไปเรื่อยๆอาจทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในรถยนต์ไม่ทำงาน ดังนั้นควรตรวจเช็ครถให้ดี
7. สัญลักษณ์มีระบุคำว่า ABS
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ระบบเบรค กับ ระบบเบรค ABS นั้นคนละส่วนกัน ตัว ABS คือระบบช่วยไม่ให้ล้อล๊อกเวลาเบรคกระทันหัน จนรถเสียการทรงตัวไถลไปตามพื้นถนน เป็นการช่วยลดโอกาสที่รถจะพลิกคว่ำ หรือ ไถลตกข้างทาง หากมีสัญลักษณ์แบบนี้เตือนขึ้นมา อาจหมายถึงระบบเบรค ABS มีปัญหา ให้นำรถเข้าตรวจสอบกับอู่ทันที แต่ระบบเบรกยังสามารถใช้งานได้ปกติอยู่ แต่เมื่อมีการเหยียบเบรกกะทันหันจนล้อล๊อค ระบบ ABS อาจจะไม่ทำงาน
8. สัญลักษณ์รูปตะเกียงน้ำมันมีน้ำหยด
แสดงว่า น้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์มีต่ำมากจนไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้อย่างทั่วถึง หากฝืนใช้รถต่อไปอาจทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาถึงขั้นพังได้เลย แต่ถ้าหากเช็คแล้วน้ำมันเครื่องยังอยู่ในระดับปกติ แต่มีไฟโชว์ขึ้นมาก็เป็นไปได้ว่า ปั๊มน้ำมันเครื่องอาจมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถปั้มส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ได้อย่างทั่วถึง ก็ต้องเช็คดูอีกทีว่าเกิดปัญหาที่ส่วนใดของรถจริงๆกันแน่
1
9. สัญลักษณ์เครื่องยนต์
ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ครอบจักรวาลของเครื่องยนต์มากๆ เพราะตัวนี้ตัวเดียว อาจแจ้งความผิดปกติหลายอย่าง ถ้าไฟรูปเครื่องโชว์ขึ้นมาแล้วไม่ดับเมื่อไหร่ แสดงว่าการทำงานของเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหาแล้ว ต้องทำการตรวจสอบด้วยเครื่องของทางศูนย์บริการหรืออู่
นี่เป็นเพียงสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งที่ได้นำมาให้ดู ยังมีสัญญาณเตือนอีกมากมาย และมีความแตกต่างกันไปของรถแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ดังนั้นเราควรที่จะศึกษาและเรียนรู้ไว้ หากมีสัญญาณปรากฏขึ้นมา เราจะได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้และถูกจุด ให้คุณสามารถดูแลรักษารถของคุณได้อย่างมประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
1
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : jaideeza
โฆษณา