23 มิ.ย. 2019 เวลา 06:16 • การเมือง
พิภพ ธงชัย เล่าความคิดในคุก:
เรื่อง”คุกศึกษา” กับวิถีชีวิตของพวกเรา ๔ แกนนำกับ ๑ ผู้ประสานงาน (โดยคุณสนธิถูกจองจำในเรือนจำกลางคลองเปรม) ในช่วงอยู่ในคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระยะเวลาสั้นๆ ๘๗ วัน ได้กินได้นอนกับนักโทษเสมอกัน โดยไม่ได้รับความพิเศษใดๆ นอกจากการให้เกียรติซึ่งกันและกันของเพื่อนนักโทษกับผู้คุมทุกระดับ จนถึงอธิบดีกรมราชฑัณฑ์ ด้วยความสำนึกว่าเราไม่ได้เป็น”อาชญากร”ที่”ก่ออาชญากรรม” เราเป็น”นักโทษการเมือง” ที่ไม่ถูกระบุไว้ในกฎหมาย แต่ใช้วิธีจองจำเราด้วยข้อหาในคดีอาญา “บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์”
“คุกศึกษา” เป็นความคิดที่เกิดขึ้นจากการเห็นสภาพของนักโทษที่ต้องคดีต่างๆจากกลไกรัฐที่ส่งต่อๆกันมา ตั้งแต่ตำรวจ อัยการ และผู้พิพากษา และแรงกดดันจากความเหลื่อมล้ำ”ในสังคมที่ปรากฎแบบเดียวกับข้อความในหนังสือ”The Spirit Level” ที่ผมพกฉบับภาษาไทยเข้าไปอ่านในคุกพร้อมกับหนังสือ ”Sapians A Brief History of Humankind”
การได้พูดคุยกับเพื่อนนักโทษและผู้คุม ได้กินได้นอนบนพื้นปูนกับผ้าห่มสามผืน ในห้องนอนชั้น ๒ ที่ร้อนอบอ้าวในตอนหัวค่ำ ได้อาบน้ำในอ่างกลางแจ้งร่วมกัน ได้เข้าห้องน้ำแถวยาวกลางแจ้งร่วมกัน มันซึมซับลึกเข้าไปในจิตสำนึกของผม จนคิดว่าจะหาทางออกด้วยการหาความจริงให้ได้ จากความอยุติธรรมไปสู่ความเป็นธรรมได้อย่างไร
ผมขอเตือนสติสังคม ว่าเรามีมวลมนุษย์ ๔๐๐,๐๐๐ กว่าคนที่ถูกคุมขังอยู่ ด้วยข้อหาต่างๆกัน ถึงแม้หลายคนก็เหมาะสมที่ถูกลงโทษแล้วก็ตาม แต่ท้ายสุดเขาต้องถูกปล่อยตัวออกมาอยู่ในสังคมร่วมกับพวกเรา ถ้าเราไม่สนใจเขา ปฏิเสธเขา ทางเลือกการใช้ชีวิตของเขาก็จะตีบตัน กดดันให้เขาต้องทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และก็พวกเราประชาชนกว่า ๖๐ ล้านคนนั่นเองที่จะได้รับผลกระทบ
ผมจึงบอกกับคุณสุทธิชัย หยุ่นว่า เอาคนเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกัน มาเปิดใจด้วยกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ในระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท ที่เป็นบรรยากาศเสรีภาพของการเรียนรู้ ไม่มีบรรยากาศของอำนาจนิยม หรือบรรยากาศของระบบราชการครอบงำ เพียงแค่ส่งแบบสอบถามและเข้าไปเยี่ยมในคุกที่พวกเราเรียกว่า”ผักชีโรยหน้า”นั้น ควรเลิกได้แล้ว ตอนผมอยู่ในคุก ได้เห็นผักชีหลายต้น ในหลายครั้ง
สิ่งที่พบในคุกคือผู้ที่ไม่ได้รับการประกันตัว ในคดีที่ยังไม่ได้เริ่มกระบวนการสืบพยานในศาล ทำให้สิทธิต่างๆในฐานะจำเลยผู้ต้องคดี จะไม่ได้รับสิทธิอย่างเต็มที่ในการสู้คดี อย่างล่าสุดที่มีการอภัยโทษ ก็ไม่ได้สิทธิ การเลื่อนชั้นที่มี ๖ ขั้น ก็ไม่ขยับ การทำความดีที่จะได้ลดโทษก็หมดไป ทำให้คนเหล่านี้ต้องมาถูกจองจำ จึงต้องพึ่งพิงนักกฎหมายในคุกที่เป็นทนายความ ให้ต้องรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคดีความ นักโทษเรียกคนคนนี้ว่า “เฮียเฉลิม” แกเป็นทนายความที่ต้องคดีปิคนิค
ทุกเช้า “เฮียเหลิม” มีหน้าที่ต้มน้ำร้อนแจกจ่ายนักโทษ หน้าโรงอาหาร เพื่อให้พวกเรานำไปชงกาแฟ หรือต้มมาม่าคับ ต้มโจ๊กคับ เสร็จเรียบร้อยแกก็จะเปิดคลีนิคตรวจวัดความดันหัวใจให้กับคนที่จะไปตรวจโรคที่สถานพยาบาล หรือคนแบบผมที่จะขอดูความดันหัวใจของตัวเองทุกเช้าหลังเดินออกกำลังกาย ๓ กม.ได้ตามสภาพร่างกายของตัวเองถูก
คิวทุกเช้าจะยาวนับสิบคน หลังจากนั้นแกก็นั่งกินอาหาร ดื่มกาแฟในโรงอาหาร อยู่จนถึงบ่าย เพื่อให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และยกร่างคำร้องต่อศาล
ผมเองวัดความดันหัวใจเสร็จก็มานั่งกินมาม่าคับ บางครั้งก็โจ๊กคับ มีขนมปังกับปลาทูน่า ไข่ต้ม ๑ ฟอง หลังจากดื่มนมสด ๑ แก้ว และน้ำมะขือเทศ ตามด้วยกล้วยหอม ๑ ลูก แล้วเอาเปลือกมาทาหน้า ตามคำแนะนำของ”ทอม ดันดี”(ซึ่งโดนมาตรา ๑๑๒) ว่าเปลือกกล้วยหอมมีสารบางตัวที่ทำให้หน้าตาเนียนขึ้น อาจารย์สมเกียรติมาแจมกินอาหารเช้าด้วยกัน ส่วนคุณสมศักดิ์มากินก่อนแล้ว ส่วนยะใส จะนั่งดื่มกาแฟกับมาม่าคับร่วมกับเพื่อนนักโทษที่มาปรึกษาปัญหาครอบครัว และปัญหาอื่นๆที่ลานกลางแจ้ง ใสเป็นคนที่นักโทษเข้าหามากกว่าพวกเรา ด้วยวัยและนิสัยชอบช่วยเหลือผู้คน
ผมดื่มนมก็เพื่อให้ท้องขับถ่ายได้คล่อง อาจารย์สมเกียรติมักใช้ยาขับถ่ายช่วยบ้าง การขับถ่ายของคนคุกต้องพยายามให้ถ่ายในตอนกลางวัน ในส้วมแถวยาวกลางแจ้ง เห็นหน้าเห็นตากัน ผมเองก็จะอ่านหนังสือขณะขับถ่าย ไม่ต้องสบตาใครๆที่เดินผ่านหน้าเราไปมา
มีเรื่องเล่าว่าบางคนปรับตัวไม่ได้ ต้องหาผ้ามาบังหน้า แต่ที่ใช้ผ้าบังตอนเปลี่ยนผ้าอาบน้ำ เห็นมีคนเดียวที่เป็น”ชายสาว” มีนม”ซิลิโคน” ต้องให้เพื่อนใช้ผ้าเป็นฉากบังเพื่อเปลี่ยนเสื้อท่อนบน ถึงเธอเป็นชาย ก็ยังมีความอายในความเป็นสาวของเธออยู่ และอยากมีผัวเพื่อดูแลเธอ พยายามขอย้ายแดนก็ไม่สำเร็จ มาขอให้พวกเราช่วยเจรจากับผู้คุมให้ด้วย
ที่คุมขังแดน ๑ นับว่าเป็นแดนสะอาด ว่ากันว่าหัวหน้าผู้คุมแดน ๑ เป็นคนรักความสะอาด ขยะเก็บเรียบร้อย ห้องน้ำห้องท่าก็ถูกทำความสะอาดทุกเช้าเย็น ห้องน้ำในห้องคุมขังแต่ละห้องก็สะอาด นักโทษที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้คุม ก็รับผิดชอบตามหน้าที่กันดีมาก
เสร็จจากกินข้าวเช้า ผมก็จะถูกตามไปสแกนลายนิ้วมือซื้ออาหารและของกินต่างๆที่ร้านค้าในแดน ที่มีอยู่ทุกแดน ไม่เกิน ๓๐๐ บาทต่อวัน แสดงยอดเงินคงเหลือตัดยอดให้ดูพร้อมใบเสร็จรายการ ถ้าเงินเริ่มร่อยหรอก็ขอให้แอ๊วหรือทนายมิ้นเติมเงินให้ด้วย เดือนหนึ่งใช้ราวหมื่นบาท บางคนก็ใช้หลักพัน บางครั้งผมก็ให้กดซื้อไอศครีมเลี้ยงเด็กหนุ่มวัยรุ่น ที่เห็นมานั่งเหม่อลอยที่ข้างร้าน ถามได้ความว่าเพิ่งเข้ามาในคุกครั้งแรกในคดีลักทรัพย์เล็กๆน้อยๆ แต่ก็อยู่ไม่กี่วันพ่อก็มาประกันตัวออกไป วันออกจากห้องนอนในแดน ๑ แกเดินผ่านหน้าผม วางผ้าห่มยกมือไหว้ลา ได้ประกันตัวออกไปได้ตอนหัวค่ำจากคำสั่งศาลอาญา
ทำให้ผมนึกถึงกำไลข้อเท้า EM ที่ถูกนำมาใช้ ไม่ต้องส่งวัยรุ่นคนนี้เข้ามาในคุก มีการใช้กำไลควบคุมตัวก็ได้ แต่ผมก็เห็นบางคนกลับมาเดินในคุกพร้อมกำไลข้อเท้า EM เพราะไปทำผิดกติกาเข้า
เรื่องนี้ก็คงต้องขยายขอบเขตให้มีการใช้กำไลข้อเท้า EM กับคนสูงวัยแบบผม เพราะอาจจะต้องกลับมาติดคุกได้อีกในวัย ๘๐ ในคดีสนามบิน และคดี คปท. - กปปส.
ชีวิตตอนบั้นปลาย ไม่มีอะไรแน่นอน ถึงแม้เราจะอ้างทำเพื่อชาติก็ตาม
พิภพ ธงไชย
อดีตนักโทษชาย
หมายเลข 0410/621 คดีบุกรุก(ทำเนียบรัฐบาล
193 วัน)และทำให้เสียทรัพย์
เขียนจบบนเครื่องบินขณะเดินทางไปน่าน
๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๒
โฆษณา