24 มิ.ย. 2019 เวลา 08:04 • การศึกษา
เรื่องสั้น : วันที่แดดร้อนจนทอดไข่ได้จริง
ใต้ถุนอาคารเรียนรวมของมหาลัย มักเป็นแหล่งกบดานของเหล่านิสิตนักศึกษายามที่ว่างเว้นจากการเรียน เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ทำกิจกรรมมากมาย และที่สำคัญเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของศาสตร์มากมายหลายแขนง แล้วแต่ว่าใครจะแลกเปลี่ยนกันด้วยเรื่องอะไร วันนี้ก็เช่นกัน...ในวันที่แดดร้อนราวเตาอบ และมีคนทอดไข่โดยวางทิ้งไว้กลางแดดแล้วสุกจริงๆ อย่างไร้ข้อกังขากับคำเปรียบเปรยที่ว่า
ร้อนจนไข่สุก..
ดาวนิสิตปีสองนั่งทำรายงานอยู่ที่โต๊ะไม้ใต้ถุนอาคารเรียนรวมอยู่ลำพัง ซักพัก เกม เพื่อนกลุ่มเดียวกันเดินตากแดดมาจากโรงอาหารที่ไกลออกไป เสื้อผ้าเริ่มเปียกโชกเหงื่อ เดินลิ้นห้อยตรงเข้ามาที่โต๊ะที่ดาวนั่งอยู่..
"ดาว แกไม่ร้อนบ้างเหรอว่ะ นั่งอยู่นี่อยู่ได้ ไม่ไปนั่งห้องสมุดวะแก แอร์เย็นดีนะ ไปม่ะ?" เกมวางกระเป๋าสะพานลงบนโต๊ะจนดาวสะดุ้ง
"ไม่อ่ะ เราชอบนั่งตรงนี้ ใต้ตึกนี่ก็ไม่ได้ร้อนมากนักหรอกนะแก" ดาวยิ้มเล็กๆ ก้มหน้าจรดปากกาลงบนกระดาษอย่างมีสมาธิ
"เดินมาจากโรงอาหาร แดดร้อนชิบเป๋ง ดูดิ แสบผิวไปหมดเลย ไอ้พระอาทิตย์บ้านี่นะ จะร้อนอะไรนักหนา คนจะเป็นบ้ากันหมดแล้วเนี่ย" เกมหยิบสมุดของดาวมาโบกให้คลายร้อนลงบ้าง
"แกจะบ่นทำไม เกม มันไม่ได้เย็นขึ้นหรอก ที่แกบ่นเนี่ย แกลองนั่งๆ นิ่งแล้ว หายใจให้มันช้าๆลง มันช่วยได้นะ เชื่อสิ"
"ถ้าขออะไรได้ตอนนี้นะ จะขอให้พระอาทิตย์ดับไปเลย ให้ตายสิ! อากาศมันร้อนจนทนไม่ไหวแล้ว โอ๊ย ร้อนๆๆๆ"
"เกม แกประสาทหรือเปล่า แกแน่ใจเหรอว่าอยากให้พระอาทิตย์ดับไปจริงๆ จะเอาแบบมืดไปหมดตลอดเวลาเลยงั้นสิ" ดาววางปากกาลงบนโต๊ะเสียงดัง หันไปมองหน้าเกมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
"ก็มันร้อนนี่ มืดๆิสิเย็นดี ดับไปเลยก็ดี จะได้ไม่ร้อนไง" เกมตอบแบบกวนๆ แต่หน้าเริ่มนิ่ว เพราะเห็นสีหน้าของดาว
"เกม แกเห็นแก่ตัวมากอ่ะ แกรู้มั้ยว่าดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงแดดมาให้เราทุกวันนี้น่ะ เขาน่าสงสารขนาดไหน"
"ดวงอาทิตย์เนี่ยนะ ที่น่าสงสาร แกจะบ้าเหรอ ดาว"
"ใช่สิ พอแกร้อนมากๆ แกก็อยากไล่แสงแดดไป ไล่ให้พระอาทิตย์หายไป พอแกหนาวแกก็อยากไปยืนตากแดดอุ่นๆให้หายทรมานจากความหนาว พอแดดร้อนจัด แกก็อยากให้ฝนตก พอฝนตกหนักๆ แกก็อยากให้มีแดดซักทีเพราะผ้าไม่แห้ง แกคิดว่าพระอาทิตย์ชอบเหรอที่มีคนอย่างแกเนี่ย"
"อ้าว ก็มันร้อน ก็แค่อยากให้มันร้อนลดลงบ้าง เอาแบบหน้าหนาวเลยยิ่งดี ฉันชอบหน้าหนาว"
"อืมมม เหรอ....เห็นหนาวที่แล้วก็บ่นอุบ ผิวแตกโน่นนี่นั่น หวัดกินบ้าง ไอบ้าง ขี้เกียจอาบน้ำบ้าง ตกลงแกจะเอามั้ยแดดอุ่นๆเนี่ย"
"แล้วถ้าฉันพอใจจะให้มันไม่มีแดดตลอดไปหล่ะ จะทำไม"
"เกม แกก็จะเป็นคนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้ามากๆ เลยนะ แกเคยได้ยินเรื่องประเทศที่มีค่าเฉลี่ยแสงแดดต่อปีน้อยๆ กลับมีอัตราการป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าประเทศที่มีแดดมากๆมั้ยหล่ะ แกอยากให้คนทั้งโลกเป็นโรคซึมเศร้าเหรอ"
"แล้วไงอีกหล่ะ ว่ามาสิ ว่าแดดร้อนๆมันดีอะไรอีก"
"แกรู้มั้ยหล่ะ ว่าถ้าไม่มีแสงแดดจากดวงอาทิตย์ แค่ไม่กี่วัน โลกก็จะปกคลุมด้วยน้ำแข็ง แล้วทุกชีวิตบนโลกๆ ก็จะค่อยๆ ตายลงไปช้าๆ ทั้งพืช สัตว์ หรือแม้แต่นายเอง ตาเกม!"
"ฉันก็จุดไฟเอาสิ จะได้อุ่นๆ"
"ตลกเนอะ คิดได้ไงอ่ะ"
"โอเคๆ ฉันยอมแกแล้วดาว ฉันไม่ไล่ดวงอาทิตย์ ไม่รังเกียจแสงแดดของแกแล้วก็ได้"
"ไม่นะ เกม ที่ฉันต้องการจะบอกแกคือ คนเราน่ะมักเห็นแก่สิ่งที่เราว่าดี ว่าสะดวก หรือทำให้เราสบายว่ามันดี โดยที่เราลืมไปว่าบางที สิ่งที่เราต้องการหรืออยากให้มันหายไป มันอาจไปกระทบกับคนอื่นอีกมากมาย หรืออาจจะเดือดร้อนไปจนถึงโลกต้องสูญสิ้นอย่างที่แกอยากให้แสงแดดหายไปนั่นหล่ะ" ดาว ถอนหายใจอีกเฮือก
"ก็ล้อเล่นน่า ดวงอาทิตย์จะดับง่ายๆได้ไงเนอะ ไม่ต้องกลัวหรอก แกจะมีแดดร้อนๆ ให้รื่นรมณ์อีกนานแน่ๆ ดาว ฉันมั่นใจ"
"แกไม่รู้เหรอว่ามันเริ่มมีจุดดับบนดวงอาทิตย์แล้ว มันกำลังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันจะต้องดับลงแน่นอน เพียงแต่อาจจะไม่ใช่ช่วงชีวิตของเราหรอก อาจจะเป็นลูกของลูกของลูกไปอีกพันอีกหมื่นรุ่นก็ได้ แต่มันคงจะเกิดขึ้นแน่ๆ แกก็อย่าภาวนาให้มันหมดแสงแดดไปเร็วนักเลย.."
"ดูแกเข้าใจดวงอาทิตย์จังนะ ดาว"
"อืมม ฉันก็เคยเป็นเหมือนแกนั่นล่ะ เคยอยากจะให้แดดร้อนๆ มันหมดไปซักที จนได้ดูสารคดีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเมืองแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา มีภูเขาลูกใหญ่บังแสงแดดจนไม่อาจส่องลงมาถึงหมู่บ้านได้เกือบทั้งปี จนชาวบ้านต่างพากันซึมเศร้า วันรุ่นต่างพากันย้ายออกไปอยู่เมืองอื่น ทิ้งไว้เพียงเด็กๆและคนชรา จนหมู่บ้านเกือบจะล่มสลาย โชคดีมีคนเสนอความคิดเอากระจกเงาขนาดยักษ์ขึ้นไปติดบนยอดเขา แล้วให้สะท้อนแสงลงมายังหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างยินดีและพากันมารวมตัวกันตรงจตุรัสของเมืองเพื่อมาสัมผัสกับแสงแดด แม้เป็นเพียงแสงสะท้อนก็ยังดี เมืองจึงกลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง.." ดาวเล่าพลางอมยิ้มไปด้วยจนหน้ากลับมาสดใสอีกครั้ง
"หูย เรื่องนี้ดูน่าสนใจจัง แสงแดดมีพลังขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ใช่ ตั้งแต่นั้นมา ฉันก็พยายามพอใจกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติของโลกให้มากขึ้น ไม่แค่แสงแดด ดวงอาทิตย์ แต่กับทุกๆอย่างเลย ดิน น้ำ อากาศ และ "คน" อย่างแกเนี่ย ฮา..ฮา.." ดาวหัวเราะคิกคัก เมื่อมองดูหน้าเกมที่กำลังอึ้งอยู่ราวสองวินาที
"โอเค ต่อไปฉันจะบ่นน้อยๆ ลงละกัน แต่ถ้าร้อนมากก็เผลอบ้าง อย่าว่าฉันเลยนะ" เกมตัดพ้อเล็กน้อย พร้อมเอามือดึงคอเสื้อเข้าออกให้ลมผ่านคอเสื้อเข้าไปให้คลายร้อนบ้าง
"ก็ดีที่แกเข้าใจ อย่างดวงอาทิตย์นี่น่าสงสารนะ ไม่เคยได้พักเลย แม้ยามกลางคืนยังฝากแสงมาทางดวงจันทร์ให้พอสว่างเล็กๆในคืนที่มืดมิด ส่วนตัวเองก็ไปส่องสว่างอยู่อีกซีกของโลก ดวงอาทิตย์รู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่โลกไร้แสงแดด เมื่อนั้นทุกชีวิตบนโลกก็จะเดือดร้อนทันที มีบ้างที่ดวงอาทิตย์อยากแอบพักบ้าง ก็ต้องรอเมฆฝนหรือหมอกมาช่วยให้ได้แอบงีบบ้าง มีช่วงที่ได้หยุดบ้างอย่างแถวขั้วโลกใต้ แต่ก็มีทำล่วงเวลาบ้างที่ขั้วโลกเหนือ แต่ฉันก็หวังอย่างเดียวว่าคงจะไม่ไวนักที่ดวงอาทิตย์จะขอพักยาวๆ ไม่ส่องแสงไปอีกซักสามสี่เดือนหรือนานกว่านั้น" ดาวหุบยิ้มลง
"นั่นสิ น่ากลัวเนอะ หึหึหึ" เกมยิ้มแบบสยองเล็กๆ
นั่นสินะ อย่านานนักนะ วันพักผ่อนของแสงแดด
by Deux @ storylog
โฆษณา