[นิทานการกิน] เคยนึกถึงอาหารในความทรงจำแล้วนั่งยิ้มไปพลาง น้ำลายไหลไปพลางบ้างหรือเปล่าครับ ผมมีอาหารอยู่จานนึงที่ทำให้นึกถึงสมัยเด็ก ในตอนที่อะไรก็กินได้แบบไม่ต้องกระอ้อมกระแอ้มตอบหมอเวลาไปตรวจสุขภาพ

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

24 มิ.ย. 2019 เวลา 13:29 • ไลฟ์สไตล์

เคยนึกถึงอาหารในความทรงจำแล้วนั่งยิ้มไปพลาง น้ำลายไหลไปพลางบ้างหรือเปล่าครับ

ผมมีอาหารอยู่จานนึงที่ทำให้นึกถึงสมัยเด็ก ในตอนที่อะไรก็กินได้แบบไม่ต้องกระอ้อมกระแอ้มตอบหมอเวลาไปตรวจสุขภาพ

ไอ้เจ้าเมนูที่ว่านั่นก็คือ "ข้าวคลุกกากหมู" ไงละครับ

ผมไปบ้านแฟนที่ต่างจังหวัดทีไร มักจะได้เจอตลาดนัดยามเช้า อาหารสดจากชาวไร่ส่งตรงมาที่นี่แบบไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

ผ่านเขียงหมูเข้า เห็นว่าเค้าแล่มันหมูติดหนังรอท่าไว้

เสร็จสิครับ

กลับมาถึงบ้าน ผมหั่นมันหมูเป็นชิ้นขนาดหนึ่งนิ้วเอาไว้ตั้งกระทะไฟกลาง เอามันหมูที่เตรียมไว้ใส่ลงไป

น้ำมันไม่ต้องใส่นะครับ

จะเป็นการดูถูกสัตว์ที่เราเรียกว่ามีไขมันเยอะที่สุดได้

จากนั้นเจียวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำมันออกมาจากมันหมูเอง พอฟองเริ่มน้อย น้ำมันเริ่มใส ก็ใช้ไฟอ่อนต่ออีกสักพัก

ตอนนี้เราก็จะได้น้ำมันหมูที่ทำไข่เจียวได้หอมอร่อยกว่าการเจียวด้วยน้ำมันไหนๆ แต่เหล่าคนรักสุขภาพกลัวกันหนักหนา

ตักเอากากหมูออกมาพักไว้ก่อน เทน้ำมันเก็บในหม้อเคลือบหรือโหลแก้วหนาๆ

ระหว่างนี้รอให้กากหมูให้พักฟื้น จนส่วนหนังแข็งขึ้นเงา ตอนนี้ใครกินก็คงลำบาก เพราะมันจะแข็งเกินฟันจะเคี้ยวมาก

สักสองชั่วโมงผ่านไป เอาน้ำมันหมูลงกระทะอีกครั้ง แต่ไม่ต้องมาก เอากากหมูที่พักไว้ลงเจียวซ้ำด้วยไฟกลางเช่นเดิม

คราวนี้กากหมูส่วนหนังจะพองกรอบ เคี้ยวได้สบายอุรา

พอได้พระเอกแล้วก็ซอยหอมแดงรอไว้ เอาพริกขี้หนูมาหั่นเล็กใหญ่ตามชอบ หั่นมะนาวรอไว้สักซีกหนึ่ง

คดข้าวร้อนๆ ใส่จาน

โปรยกากหมู โรยหอมแดงซอย โรยพริกขี้หนูหั่น บีบมะนาวเข้า

ใครมีน้ำปลาดีแค่ไหนก็เอาพรมลงไปบางๆ

แล้วคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน

คุณครับ

บางคนก็มีชีวิตอยู่เพื่อเวลาแบบนี้

ความกรอบของกากหมู เคี้ยวแล้วได้ความหวานของไขมีน เค็มอร่อยจากน้ำปลา เปรี้ยวจางๆ จากมะนาว เผ็ดซ่าจากพริกและหัวหอมซอย

นาทีนี้ ใครหลายคนคงจะไม่ยอมให้เอาอะไรมาแลกแน่นอน

มาสิครับ มานั่งกิน "ข้าวคลุกกากหมู" แล้วรำลึกความหลังไปด้วยกัน

ลืมๆ หน้าหมอไปสักวัน..จะเป็นไรไป

โฆษณา