24 มิ.ย. 2019 เวลา 13:42
ทุกคนคงจะเคยได้ยินชื่อหน่วย​ จู่โจมทำลายใต้น้ำ​ หรือหน่วย​ ซีล​ กัน​ ใช่ไหมครับ
ซึ่งคนที่ได้จบหลักสูตรนี้มา​ ถือได้ว่า​แข็งแกร่ง​ และผ่านการฝึกสุดหฤโหด​ ที่อาจจะเสียชีวิตลงได้ทุกเมื่อ​ เรียกได้ว่าถ้าไม่แน่จริง​ ไม่มีทางจบหลักสูตรนี้มาเด็ดขาด​
วันนี้ผมมีส่วนหนึ่งของ​สุนทรพจน์​ ของพลเรือเอกวิลเลียม เอช. แมคเรเวน ที่พูดในงานรับปริญญาของ มหาวิทยาลัยเทกซัสในปี 2014 มาให้อ่านกันครับ
ในสัปดาห์ที่ 9 ของการฝึก เราเรียกมันว่า สัปดาห์นรก เป็น 6 วันที่ไม่มีการนอนพัก
ร่างกายและจิตใจจะถูกทดสอบอย่างหนัก และมีวันพิเศษวันหนึ่ง ที่บึงโคลนชายฝั่งทะเล เป็นพื้นที่ที่น้ำไหลออกทะเล เลยเกิดเป็นบึงโคลน ที่นั่นโคลนจะท่วมตัวคุณแทบมิด
และในวันพุธของสัปดาห์นรก ที่คุณต้องดิ้นรน อยู่ในบึงโคลนเป็นเวลา 16 ชั่วโมง เพื่อเอาชีวิตรอดจากความหนาวสุดขั้วหัวใจ ลมกรรโชกแรง และคำพูดกดดันจากครูฝึกให้ยอมแพ้
เมื่อพระอาทิตย์ได้ตกในเย็นวันพุธ รุ่นของผมได้ทำผิดกฎบางอย่าง จึงถูกสั่งให้ลงไปแช่ในโคลน
โคลนได้ดูดกลืนพวกเรา ทีละคน ทีละคน จนเหลือเพียงแค่หัวที่มองเห็นได้
ครูฝึกบอกพวกเราว่า จะสั่งเลิกทันที ถ้ามีคนออก 5 นาย 5นาย! เพียงแค่ 5 นายเท่านั้น!!
แล้วทุกคนจะไม่ต้องทรมานกับความหนาวอีก
ผมมองไปรอบๆตัว เห็นหลายๆคนทำท่าจะยอมแพ้
ยังเหลือเวลากว่า 8 ชั่วโมง กว่าพระอาทิตย์จะขึ้น
อีก 8 ชั่วโมง กับความหนาวเข้ากระดูก
เสียงฟันกระทบกัน และเสียงความสั่นเครือ ของผู้เข้าฝึกระงมไปทั่ว จนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย
และจากนั้น มีเสียงใครบางคนดังขึ้นมา
ท่ามกลางความมืด
เสียงนั้นเป็นเสียงร้องเพลง เสียงเพลงที่ไม่มีความไพเราะเลยสักนิด แต่ร้องออกมาด้วยจิตใจอันแรงกล้า
จากหนึ่งเสียงเพิ่มเป็น สอง จากสอง เพิ่มเป็นสาม และไม่นาน พวกเราทั้งรุ่น ก็ร้องเพลงด้วยกัน
ครูฝึกขู่พวกเราว่า จะสั่งให้แช่นานขึ้น ถ้าพวกเรายังร้องเพลงอยู่ แต่เสียงเพลงก็ยังดังต่อไป
แต่พวกเรารู้สึกว่า โคลนที่แช่อยู่ มันอุ่นขึ้น ลมที่พัดใส่ มันเบาลง และเช้าวันใหม่อยู่อีกไม่ไกล
มีบางสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการเดินทางไปทั่วโลก นั่นคือ พลังแห่งความหวัง
พลังของคน 1 คน จอร์จ วอชิงตัน, อับบราฮัม ลินคอร์น, เนลสัน มันเดลา, มหาตมะ คานธี คนหนึ่งคนสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ด้วยการมอบความหวังให้กับทุกคน
"ความหวัง"
ในบางครั้งก็เปรียบเสมือนไฟดวงน้อยๆ​ ที่ส่องท่ามกลางความมืดมิด​ ถึงแม้ว่าจะดูริบหรี่​ และน้อยนิด​ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า​ ใครบางคนยังคงรอคอยไฟดวงน้อยๆดวงนี้อยู่
ในวันที่​ โลกทั้งโลกดูมืดหม่น​ ไม่ได้หมายความว่า​ ไม่มีใครรอให้แสงสว่างเกิดขึ้น​ แต่บางครั้ง​ คนกำลังเฝ้ารอ​ คนที่จะจุดแสงเล็กๆแห่งความหวัง​ให้เกิดขึ้นต่างหาก
ถึงแม้ว่า​ แสงที่เกิดขึ้นจะดับไป​ ถึงแม้ว่าแสงที่เกิดขึ้นจะอยู่ได้ไม่นาน​ แต่รู้ไว้ว่า​ มันได้จุดไฟในใจของผู้พบเห็น​ ให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง​
ผมเชื่อในการส่งต่อความหวัง​
ผมเชื่อว่าสิ่งเล็กๆ​ นั้นมีคุณค่า​และสามารถส่งผลที่ยิ่งใหญ่ได้
ทุกวันนี้​ ผมเขียนบทความ​ แชร์ความรู้ต่างๆ​ ให้คนได้อ่าน​
ถ้าถามว่าสิ่งที่หวังคืออะไร??
คำตอบของผมคือ.... ผมหวังว่าคนที่ได้อ่านบทความของผม​ จะตกตะกอนความคิดอะไรบางอย่างได้​
และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี​
ไม่ต้องเยอะ​
ไม่ต้องมากมาย​
แค่เพียงสักคน​ ผมก็ดีใจมากๆแล้ว
ผม​ ไม่ใช่คนเก่ง​อะไร​ สิ่งที่ผมทำได้​
คงเป็นการ​ จุดไม้ขีดไฟในที่มืดต่อไป​
เพื่อหวังว่าสักวันนึง​ คนที่เห็นดวงไฟดวงน้อยๆนี้​ จะไปจุดไฟในใจของเขาเอง​ ให้ลุกโชติช่วง​ ขึ้นมาอีกครั้ง
โฆษณา