26 มิ.ย. 2019 เวลา 10:00 • ธุรกิจ
ผู้สนับสนุน..
กรณีศึกษาธุรกิจของ Agoda Homes / โดย ลงทุนแมน
หากเราจะเดินทางท่องเที่ยว แล้วต้องการหาที่พัก
หนึ่งในช่องทางหาที่พัก ที่คนไทยนิยมก็คือ “Agoda”
Agoda เป็นบริษัทจัดหาที่พักระดับโลก
มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์
แต่ที่เราอาจยังไม่รู้คือ Agoda มีสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคตั้งอยู่ที่ประเทศไทย
ทุกวันนี้ Agoda ให้บริการจองโรงแรมกว่า 2 ล้านแห่งทั่วโลก
มีรีวิวจากผู้เข้าพักจริงมากกว่า 27 ล้านรีวิว
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Booking Holdings (Nasdaq: BKNG)
หรือชื่อเดิมคือ Priceline Group ที่ปัจจุบันมีมูลค่า 2.4 ล้านล้านบาท
แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากที่พักประเภทโรงแรมในรูปแบบเดิมแล้ว
Agoda ยังสามารถจองที่พักในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เรียกว่า “Agoda Homes”
Agoda Homes คืออะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก
ประเภทที่พักที่มีอัตราเติบโตมากที่สุด ก็คือ “ที่พักส่วนตัวให้เช่าระยะสั้น”
ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีทั้งความสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีที่พักให้เลือกได้หลากหลายรูปแบบ และได้ใกล้ชิดกับคนในท้องถิ่นมากกว่าโรงแรมในรูปแบบเดิม
และยังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนให้เช่าเองด้วย เพราะถือเป็นโอกาสทางธุรกิจอย่างหนึ่ง สำหรับคนที่มีห้องหรือบ้านที่ไม่ได้ใช้อาศัยอยู่ สามารถนำมาสร้างรายได้เสริมได้ โดยเป็นได้ทั้งคนที่ทำงานประจำอยู่ เป็นฟรีแลนซ์ หรือแม้กระทั่งคนที่เกษียณจากงานแล้ว
โดยธุรกิจที่พักส่วนตัวให้เช่านี้ ถือเป็นธุรกิจในกลุ่ม เศรษฐกิจแบ่งปัน หรือที่เราเรียกกันว่า Sharing Economy
1
พูดง่ายๆ ก็คือ ระบบเศรษฐกิจที่เกิดจากการนำทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว หรือไม่ได้ใช้งานอยู่ มาสร้างรายได้เพิ่มเติม โดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในรูปแบบของการปล่อยเช่า หรือให้บริการ เช่น ที่อยู่อาศัย และรถยนต์ เป็นต้น
ซึ่งการเติบโตของ Sharing Economy ในตอนนี้ ทาง PWC ประเมินไว้ว่า มีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 30% ต่อปี
และคาดการณ์ว่า ตลาดนี้จะมีขนาดใหญ่เท่ากับตลาดธุรกิจบริการให้เช่าแบบดั้งเดิม ภายในปี 2025 และคิดเป็นมูลค่าทั่วโลกกว่า 10.5 ล้านล้านบาท
และเมื่อปี 2017 EARNEST ได้ประมาณรายได้เฉลี่ยจากการทำธุรกิจ Sharing Economy ที่สหรัฐอเมริกาไว้ที่ประมาณ 9,400 บาทต่อเดือน โดยธุรกิจที่ทำรายได้มากสุดจากการสำรวจนี้คือ ที่พักส่วนตัวให้เช่าระยะสั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 29,000 บาทต่อเดือน
เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยในปี 2019 ทาง ททท.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามากว่า 42 ล้านคน
ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยนโยบายลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง 55 จังหวัด
ก็คาดว่าตลาดนักท่องเที่ยวไทยจะคึกคักไม่แพ้กัน
ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ Agoda Homes ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบที่พักส่วนตัวให้เช่าระยะสั้น เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพราะถือว่าตอบโจทย์ได้ทั้งลูกค้า ในเรื่องของความสะดวกสบาย
1
และตอบโจทย์ของผู้ให้เช่า ให้สามารถนำที่พักส่วนตัวที่ยังคงว่างอยู่ มาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้พัก
ซึ่งนอกจากจะเป็นช่องทางสำหรับการสร้างรายได้เสริมแล้ว ยังถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักเดินทางจากทั่วโลกอีกด้วย
จุดนี้เอง ก็ทำให้จำนวนที่พักของ Agoda Homes เติบโตขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2016 มี Agoda Homes ทั่วโลกกว่า 423,500 แห่ง
ปี 2018 จำนวนนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 ล้านแห่ง หรือเติบโตขึ้นเป็นเกือบ 3 เท่า
ถ้านับเฉพาะในประเทศไทย
ปี 2016 มีจำนวน 6,020 แห่ง
ปี 2018 เพิ่มขึ้นเป็น 19,180 แห่ง
โดยเมืองท่องเที่ยวของไทยที่มี Agoda Homes มากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบไปด้วย
ภูเก็ต พัทยา กรุงเทพฯ เกาะสมุย และหัวหิน/ชะอำ
สำหรับผู้ที่มีที่พักส่วนตัวว่าง แล้วสนใจแบ่งปันให้เป็น Agoda Homes
สามารถสมัครได้ผ่านทางเว็บไซต์ของ Agoda
โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก
เพียงแค่ลงทะเบียนกับทาง Agoda อัปโหลดรูปภาพของสถานที่ของเรา
และกำหนดราคา และวันเวลาที่พร้อมเปิดให้บริการ
และหากพบปัญหา ก็จะมีทั้งทีมงานจาก Agoda รวมถึง Community ของ Agoda Homes เองคอยให้ความช่วยเหลือตลอด
เพียงเท่านี้ เราก็จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ Agoda Homes
มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่ม และเป็นส่วนเสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางอันล้ำค่า
ให้กับนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก..
โฆษณา