1 ก.ค. 2019 เวลา 13:39 • ประวัติศาสตร์
ยุคบุกเบิกดาราศาสตร์​ไทย
“หากมองผิวเผิน​อาจเป็นเพียงซากโบราณ​สถาน​ เเต่ถ้าเข้าใจ​ถึงความเป็นมา​ จะรู้ว่า​เพียงเเค่ก้อนอิฐ​ผุเก่าก้อนเดียวก็ประมาณค่าไม่ได้”
หอดูดาวสันเปาโล​ หอดูดาวเเห่งเเรกในประเทศ​ไทย​ สร้างในสมัยสมเด็จ​พระนารายณ์​มหาราช​ ท่านทรงเป็นผู้บุกเบิก​นำพาวิชาดาราศาสตร์เข้ามาสู่เเผ่นดินสยามเป็นครั้งเเรก​ ผ่านการมาเยือนของชาวฝรั่งเศส​
ครั้งเมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้ส่งสาสน์ให้ราชทูต​มาเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย​ พร้อมกับคณะทูต​ บาทหลวงคณะเยซูอิต​ หนึ่งในของกำนัลที่มาถวายเเด่สมเด็จพระนารายณ์ฯ​ คือ​กล้องดูดาวที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น​ เป็นจุดเริ่มต้นให้สมเด็จพระนารายณ์​ฯ​ มีความสนพระทัย​วิชาวิทยาศาสตร์​และดาราศาสตร์​ตั้งเเต่บัดนั้นมา
เดือนธันวาคม​ ปี​ พ.ศ.​ 2228 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช​ ทรงทอดพระเนตร​ปรากฏการณ์​จันทรุปราคาผ่านกล้องดูดาว และอีกครั้งในเดือนเมษายน​ ปี​ พ.ศ.​ 2231​ ทรงทอดพระเนตร​ปรากฏการณ์​สุริยุปราคา ผ่านกล้องดูดาวเช่นกัน
ทั้งสองครั้งทรงทอดพระเนตร ณ​ พระที่นั่งไกรสรสีหราช​​ หรือพระที่นั่งเย็น ริมทะเลชุบศร​ พร้อมกับคณะทูต​ คณะบาทหลวง​เเละนักดาราศาสตร์​ชาวฝรั่งเศส​
ทั้งสองเหตุการณ์​ครั้งนั้นถือเป็น​การศึกษาดาราศาสตร์​สมัยใหม่ครั้งเเรกในสยามและได้รับการบันทึกเป็นภาพเขียนโดยบาทหลวงคณะเยซูอิด ภาพเหตุการณ์​จันทรุปราคา​ยังถูกนำมาใช้เป็นตรา​สัญลักษณ์ของสมาคม​ดาราศาสตร์​ไทย​​อีกด้วย
นอกจากนั้นพระองค์ทรงอนุเคราะห์​ เหล่าบาทหลวง นักดาราศาสตร์เเละนักคณิตศาสตร์​ชาวฝรั่งเศส​ ให้ทำการศึกษาวิจัย​ดาราศาสตร์​ในสยามได้​ โดยโปรดให้สร้างหอดูดาวสันเปาโลขึ้น​ มีลักษณะ​เป็นหอสูงสามชั้น​ รูปทรงเเปดเหลี่ยม​ ผสมผสาน​ระหว่างศิลปะ​ไทยกับตะวันตก​​
ย้อนกลับไปเมื่อ​ 77​ ปี​ ก่อนสร้างหอดูดาวสันเปาโล กาลิเลโอได้ค้นพบดวงจันทร์​ของดาวพฤหัสเป็นครั้งเเรก และกาลิเลโอได้เสียชีวิตเมื่อสมเด็จ​พระนารายณ์ฯ​มีพระชนมายุ​​ 32 ชันษา​ ​กล่าวได้ว่า​ สมเด็จ​พระนารายณ์​มหาราช​มีชีวิตอยู่ในช่วงเดียวกับกาลิเลโอ​
หลังจากกาลิเลโอเสียชีวิตไปเพียง​ 45 ปี​ หอดูดาวสันเปาโลจึงได้รับการสร้างขึ้น​ เเล้วเสร็จในปี​ พ.ศ.​ 2230 กลายเป็นหอดูดาวเเห่งเเรกในเอเชียอาคเนย์
ในยุคสมัยนั้นดาราศาสตร์​แบบตะวันตกถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนทั่วไป ยังไม่มีคนเข้าใจและไม่เป็นที่สนใจ หลังจากสมเด็จพระนารายณ์​มหาราช​ สวรรคตในเดือนกรกฎา​คม​ ปี​ พ.ศ.​​ 2231​ หอดูดาวเเห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างเก่าทรุดโทรม​ ผุพังไปตามกาลเวลา​ กลายเป็นโบราณสถาน ที่มีอายุ​ 332 ​ปี ตั้งอยู่ที่จังหวัดลพบุรี
หอดูดาวสันเปาโลยังคงตั้งตระหง่าน​เป็นอนุสรณ์​สถาน​ ประจักษ์​คู่เเผ่นดินไทย​ เเละภายในปี​ 2564​ นี้​ ประเทศไทย​กำลังจะมีกล้องโทรทรรศน์​วิทยุ​เเห่งเเรก​ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง​ 40​ เมตร​ ตั้งอยู่ที่​ จ.เชียงใหม่​​​ การพัฒนา​วิชาดาราศาสตร์เเละการศึกษาอวกาศ​ในไทย​ ไม่เพียงเพื่อพัฒนา​ประเทศ​ เเต่เพื่อพัฒนา​บุคลากร​ของคนในชาติด้วย​
Cover Picture Cr: Wikipedia (https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Wat_San_Paolo_Plan.jpg)
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภาพวาดโดย ทองวรรณ ชัยวงค์
สมเด็จพระนารายณ์ฯทรงทอดพระเนตรจันทรุปราคาเมื่อ 11 ธันวาคม พศ.๒๒๒๘ Cr: Wikipedia (https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Narai_observatory.jpg)
สมเด็จพระนารายณ์ฯทรงทอดพระเนตรสุริยุปราคาเมื่อ ๓๐ เมษายน พศ.๒๒๓๑ Cr: Narit (https://www.facebook.com/NARITpage/photos/pcb.1772771139453159/1772769269453346/?type=3&theater)
หอดดูดาววัดสันเปาโล ในปัจจุบัน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี Cr: ทองวรรณ ชัยวงค์
โฆษณา