Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทบทวน
•
ติดตาม
2 ก.ค. 2019 เวลา 04:49 • ความคิดเห็น
Talkative Or Gossip
ขอบคุณภาพจาก:www.pinterest.com
เคยได้ยินประโยคแบบนี้ไหม
“เรื่องราวของตัวเราจะเป็นเช่นไร ขึ้นอยู่กับคนเล่า”
ในประโยคนี้ประกอบไปด้วยคน 3 คน
-คนเล่า(คนเม้าส์) - คนฟัง - คนถูกเล่า
และประโยคนี้มันตัดสินใคร...ลองนึกดู
ในความคิดเห็นของฉัน.....In My Opinion
มันตัดสิน...”คนฟัง”.
เพราะอะไรทำไมยังไงอย่างไร!!!....!!!
คนฟัง....ประเภทที่ 1....รับฟังแต่ไม่ตัดสินใคร......ถ้าเค้าสงสัยตอบโต้ถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่นำพาเรื่องขัดข้องใจมา เพราะเค้าคิดว่า..ฟังความข้างเดียวหาดีไม่...ก็จะเกิดการซักถามที่มาที่ไป..นำมาประกอบคำพูด...แต่ไม่ตัดสิน..ไม่ให้นำ้หนักนำ้คำที่ฟังจากคนอื่น....เพื่อมาใช้ตัดสินใคร...คนฟังสถานการณ์นี้คือผู้ที่มีวุฒิภาวะ...เจริญสติ...เจริญปัญญา..เพราะเค้าเข้าใจว่า...เหตุที่เกิดขึ้นมา..ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเค้าเลยนะ...หากเค้าตัดสินไปทั้งๆที่ตัวเค้าไม่ได้ประสบ...ตัวเค้าจะต่างอะไรกับตอไม้...ยืนเบื้อใบ้...ให้ใครใส่ความคิดอะไรมาง่ายๆ และมันจะส่งผลทำให้ตัวเค้าเอง ไม่ต่างอะไรกับควาย...ที่ถูกสนตะพายไว้กับจมูก..ลากไปซ้ายทีขวาที..จะลากจะจูงไปทางไหนก็ไป
คนฟัง....ประเภทที่ 2...เป็นแค่คนฟังไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์....ทำตัวเป็นขุนพลอยพยักนอกจากช่างหาเรื่องฟังแล้ว...เค้าก็จะทำตัวเป็นคนช่างเม้าส์ด้วย เรื่องราวเป็นแบบไหน...คนถูกเม้าส์จะเป็นคนแบบไหน...เท็จจริงประการใด...หาได้สนใจ...ได้แต่ทำตัวเป็นลูกคู่ที่ดี...จนลืมคิดไป..หาใช่เรื่องตัวเราไม่..แต่ก็ไม่สนใจสนองปากตัวเองต่อไป..แต่มากกว่าสิ่งใด..ใจที่เกิดอคติ..จากคำพูดคนอื่น เข้ามาทำให้จิตใจของตัวเองเกิดอคติ คิดร้ายกับคนถูกเม้าส์..ทั้งๆที่ไม่เคยเสวนาศึกษากัน..เพียงแค่รับฟังอคติคนอื่นมา..ช่างน่าสงสาร
คนเม้าส์....เค้าแค่คิดถึงแต่ตัวเอง ทำตัวเป็นศูนย์กลางโลก..หากใครไม่เข้าวงโคจร ทำตามความต้องการตัวเอง ก็ไม่พอใจ เลยแค่ระบายความไม่พอใจไปตามสันดาน....ผิดชอบชั่วดีคิดไม่เป็น...คิดแต่จะพร่ำพูดถึงคนอื่นแบบเสียๆหายๆ ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองแบบไม่กลั่นกรอง ว่า....คำพูดร้ายๆๆของตนเองจะส่งผลกับชีวิตใคร
คนถูกเล่า...ประเภทที่ 1....
ถ้าเค้าแคร์คำพูดคนอื่น...เค้าก็จะตีอกชกลมโวยวายด้วยความเจ็บปวด..หาหนทางที่จะแก้ต่างให้ตัว...คร่ำเครงเคร่งเครียด..วกวนอยู่กับคำเม้าส์ของคนอื่น..เสียเวลาชีวิตหมกมุ่นแต่กับเรื่องที่ถูกเม้าส์...เสาะหาที่มา..จนลืมตัวว่า..น่าเสียดายเวลาที่จะใช้แสวงหาความสุขที่เค้ามีอยู่ตรงหน้าจนไม่ไขว้คว้ามันมาชื่นชม
คนถูกเล่า...ประเภทที่ 2....
เค้าไม่แคร์ไม่สนคำพูดคำเม้าส์คนอื่น....เค้าก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตา...ดำเนินชีวิตของเค้าต่อไปอย่างอิสระ มุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป...ดำเนินชีวิตไปตามครรลองที่ถูกที่ควร......มุ่งมั่นหาแต่ความสุข ....เพราะเค้าคิดว่าความจริงคือความจริง...ในโลกนี้ไม่มีความลับ...และที่สำคัญกว่าเหตุผลใดใดคือ ...เค้ารู้ว่าคนฟังย่อมรู้จักสันดานคนเม้าส์ดีว่าเป็นเยี่ยงไร
.....เพราะคนเม้าส์กับคนฟัง(ประเภทที่2) ตามหลักธรรมชาติเค้าเกิดมาคู่กัน...คนฟังก็อยากฟังเรื่องที่เม้าส์....ส่วนคนเล่าอยากเม้าส์เรื่องให้ฟัง. ....เพราะเค้าสองคนสันดานเดียวกัน..เค้าเกิดมาเพื่อเป็นลูกคู่กัน
เราเชื่อว่า...สถานการณ์จะนำพาตัวเราเข้าไป...
แต่มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะทำตัวเป็นคนแบบไหน..เพราะสิ่งที่เราเลือกคือสิ่งที่เราเป็น
ขอบคุณภาพจาก:www.pinterest.com
1 บันทึก
5
4
1
1
5
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย