Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กางหนังสือ
•
ติดตาม
3 ก.ค. 2019 เวลา 08:38 • การศึกษา
Burn out Syndrome หรือภาวะการหมดไฟในการทำงาน 🕣🕜🕘
ในปีนี้ที่ทุกคนหันมาสนใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้ามากขึ้น เนื่องจากเราได้ข่าวสารทั้งจากในสื่อและคนใกล้ตัวถึงความอันตรายของโรคซึมเศร้า รวมถึงข่าวการจากไปของผู้คนที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า โรคที่ดูเหมือนจะไม่รุนแรงแต่กลับส่งผลร้ายต่อผู้ป่วยและคนใกล้ตัวอย่างมาก
ปีนี้องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้กำหนดให้มีโรคอีกชนิดนึงที่เรียกว่า โรคภาวะการหมดไฟในการทำงาน หรือ Burn out Syndrome โรคนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นโรคซึมเศร้า แต่ถ้าไม่รักษาให้ถูกวิธี อาจจะทำให้คนที่มีอาการสามารถต่อยอดไปจนการกลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าได้
Burn out Syndrome เป็นอาการของความรู้สึกแย่ หดหู่ เครียด ขาดสมาธิและแรงจูงใจในการทำงาน รู้สึกหมดพลัง หมดไฟในการทำงาน ความกดดันในตัวเองที่มากเกินไป ความท้อแท้จากการทำงานไม่สำเร็จ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการทำงานลดลง จนบางคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า
สาเหตุหนึ่งเป็นทำให้เกิดอาการภาวะหมดไฟในการทำงาน ก็คือ ความเครียดสะสม หลายคนอาจจะเข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้เช่น มือไม้สั่นหรือเปียก อาการปวดหัว อาเจียน แต่จริงๆแล้วอาการความเครียดมันมีมากนั้น ความเครียดส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายในและค่อยๆสะสมโดยที่เราไม่รู้สึกตัว
การรักษาอาการภาวะหมดไฟในการทำงานนั้น เราต้องเริ่มจากว่าเรารู้ตัวและยอมรับว่าเรามีอาการดังกล่าวอยู่ และเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง
เหล่านี้เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดอาการของภาวะการหมดไฟในการทำงาน
-เราต้องจัดลำดับความสำคัญของทุกอย่างใหม่ เราอาจจะไม่ต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง เราต้องมีการแบ่งงานให้คนอื่น วางแผนการทำงาน ใช้เวลาทำงานให้น้อยลงแต่งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-สร้างสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานใหม่ๆ เปลี่ยนอะไรที่เดิมๆ ซ้ำซากจำเจออกไปบ้าง
-เอาตัวเองออกจากโลกโซเชี่ยลบ้าง ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่การเล่นเฟสบุคหรือไอจีเท่านั้น ยังรวมไปถึงการใช้อีเมล์ในแต่ละวันด้วย คนบางคนหมดเวลาไปกีบการตอบอีเมล์จนทำให้ตัวเองรู้สึกว่าเวลาหมดไปอย่างไม่คุ้มค่าในแต่ละวัน ลองเปลี่ยนใหม่เป็นใช้เวลาในการตอบอีเมล์เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน และอ่านเฉพาะอันที่สำคัญสำหรับตัวเองเท่านั้นพอ และที่สำคัญช่วงเวลาก่อนนอนเป็นช่วงที่เราควรหยุดให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดด้วย
-ใช้เวลาในโลกโซเชี่ยลให้น้อยลง และใช้เวลาในโลกความเป็นจะมากขึ้น เราจะมีเวลาในการทำงานให้สำเร็จเร็วขึ้น และเผลอๆยังมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นอีกด้วย
-หาเวลาพักผ่อน ไปเที่ยว ให้รางวัลกับตัวเองและใช้เวลากับที่คนเรารักและครอบครัวให้มากขึ้น
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายช่วยให้เราหลั่งสารแห่งความสุข
-งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-ทำงานให้น้อยลง และใช้ชีวิตให้มีความสุขและมีความหมายมากขึ้น ลองทำอะไรใหม่ๆที่อยากทำ ใช้ชีวิตแบบที่อยากเป็น
ภาวะการหมดไฟในการทำงานนั้นรักษาได้ไม่ยาก ขอแค่เราลองทำดูแล้วชีวิตเราจะมีความสุขขึ้น กลับมามีความรักในงานความรักในชีวิตที่เราเป็นอยู่มากขึ้นอย่างแน่นอน
ที่มา :
http://www.who.int
http://www.livechantic.com
2 บันทึก
2
3
2
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย