Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักเล่านิทรา
•
ติดตาม
9 ก.ค. 2019 เวลา 04:50 • ศิลปะ & ออกแบบ
หลวงพ่อพระขาวของชาวนครปฐม ที่ควรทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง
เรื่องนี้ขอเอ่ยก่อนว่าผมได้รับความรู้มาจากท่านชายนำ Chainum Pavavimol ผู้รอบรู้เรื่องศิลปะ พระบูชาและพระเครื่องที่ได้กรุณาเล่าความรู้เรื่องพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครปฐมองค์หนึ่งที่เราเรียกกันติดปากว่า "หลวงพ่อพระขาว" นั้นจริงๆ มีอยู่ด้วยกัน 5 องค์ กระจายอยู่ในนครปฐม กรุงเทพมหานครและอยุธยา ทำให้สนใจและหาข้อมูลจนพอได้รู้ และเห็นว่าใกล้วันเข้าพรรษาแบบนี้อยากแนะนำให้หลายๆ คนได้รู้จักและทราบข้อมูลประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองตนเอง
1
หลวงพ่อพระขาว หรือจะให้เรียกตามศิลปะคือพระพุทธรูปศิลาขาวศิลปะทวารวดี ซึ่งเท่าที่พบส่วนใหญ่เป็นปางประทานพร จัดสร้างในยุคทวารวดี ราวปี พ.ศ.1000-1200 ยุคเดียวกับความเจริญรุ่งเรืองของบุโรพุทโธที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งที่นั้นเองค้นพบพระพุทธรูปศิลาขาวอีก 1 องค์ เรียกได้ว่าเมื่อรวมทั่วโลกแล้วค้นพบเพียง 6 องค์เท่านั้น ที่น่าจะถูกสร้างในช่วงเวลานั้นในศิลปะคล้ายคลึง
3
โดยเฉพาะในเมืองไทยนั้น ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดนครปฐม 2 องค์ คือ
1.หลวงพ่อศิลาขาว พระประธานโบสถ์วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ในระเบียงรายรอบองค์พระปฐมเจดีย์
2.หลวงพ่อพระขาว (ตามความเข้าใจคนนครปฐม) หรือพระพุทธนรเชษฐ์ฯ ตั้งอยู่ที่บันไดลดวิหารรายรอบองค์พระปฐมดีย์ฝั่งหลังพระ
3
3.พระพุทธรูปศิลาขาว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ
4.พระพุทธรูปศิลาขาว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา พระนครศรีอยุธยา
5.พระพุทธรูปศิลาเขียว พระประธานโบสถ์วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
โดยทั้งหมดนั้นเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นในยุคไล่เลี่ยกัน แต่เดิมมีการค้นพบบันทึกว่าขุดพบที่โบราณสถานวัดทุ่งพระเมรุ จังหวัดนครปฐม ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือขุนหลวงพระงั่ว กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาลำดับที่ 3 (ครองราช พ.ศ. 1913-1931) โดยได้ขุดพบองค์พระที่สมบูรณ์ 4 องค์ และชิ้นส่วนพระจำนวนหนึ่ง จึงได้มีการชักลากไปยังพระนครศรีอยุธยา ณ วัดพระยากง ตำบลสำเภาล่ม จนเกือบสำเร็จครบ 3 องค์ (การนำไปใช้วิธีแยกส่วนแล้วนำไปต่ออีกครั้งเมื่อถึงที่หมาย) ทิ้งไว้เพียง 1 องค์ และชิ้นส่วนบางส่วนเท่านั้น
1
1.หลวงพ่อศิลาขาว พระประธานโบสถ์วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ในระเบียงรายรอบองค์พระปฐมเจดีย์
เป็นพระพุทธรูปองค์ที่สมบูรณ์ที่สุดและถูกทิ้งไว้ที่เดิมคือวัดทุ่งพระเมรุ จังหวัดนครปฐมในสมัยขุนหลวงพะงั่ว และอยู่ที่เดิมเรื่องมาจนกระทั่งรัชกาลที่ 4 ได้ อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานโบสถ์วัดพระปฐมเจดีย์ฯ และคงอยู่ประดิษฐานอยู่เรื่อยมาก โดยที่สมบูรณ์ที่สุดเพราะไม่ได้ถูกตัดแยกเพื่อขนย้ายในสมัยขุนหลวงพะงั่ว ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงทิ้งไว้ยังสถานที่ค้นพบเช่นเดิม
2.หลวงพ่อพระขาว (ตามความเข้าใจคนนครปฐม) หรือพระพุทธนรเชษฐ์ฯ ตั้งอยู่ที่บันไดลดวิหารรายรอบองค์พระปฐมดีย์ฝั่งหลังพระ
2
เป็นชิ้นส่วนที่เหลือซึ่งมิได้ชักลากไปในสมัยขุนหลวงพะงั่ว ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้นำชิ้นส่วนเหล่านี้มาต่อกัน แล้วนำมาประดิษฐาน ณ บันไดลดวิหารรายรอบองค์พระปฐมเจดีย์ฝั่งหลังพระ
ต่อมามีการพบเศียรพระศิลาขาวจากวัดพระยากงที่ถูกตัดมาขายให้ร้านขายของเก่าที่เวิ้งนครเกษม เมื่อนำไปต่อกับชิ้นส่วนที่พระนครศรีอยุธยาแล้วไม่เข้ากันดี จึงได้นำชิ้นส่วนของพระทั้งหมดจำนวน 3 องค์ ที่ไม่สมบูรณ์ดี (ที่อยุธยา 2 องค์ และหลวงพ่อพระขาวฝั่งใต้) มาถอดส่วนแล้วประกอบกันใหม่ จึงเห็นว่าเข้ากันได้พอดี และบูรณะสำเร็จเป็นพระจำนวน 3 องค์
1
โดยองค์ที่บูรณะแล้ว แยกกันเก็บตามสถานที่ต่างกัน องค์หนึ่งนั้นประดิษฐานไว้ที่เดิม คือที่องค์พระปฐมเจดีย์นั้นเอง ต่อมาพระสนิทสมณคุณ (พระอาจารย์แก้ว) เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ในขณะนั้น ให้ชื่อพระองค์นี้ว่า “พระพุทธนรเชษฐ์ เศวตอัศมมัยมุนี ศรีทวารวดีปูชนียบพิตร”
3.พระพุทธรูปศิลาขาว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ
1
เป็นพระที่ได้รับการบูรณะจากรมศิลปากรพร้อมกับพระพุทธนรเชษฐ์ฯ โดยค้นพบเป็นเพียงชิ้นส่วนที่ถูกทำลายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งแม้จะอัญเชิญไปจากนครปฐม 3 องค์ แต่ได้มีการอัญเชิญต่อภายในอยุธยา ย้ายไปไว้ยังวัดขุนพรหม จำนวน 1 องค์ อีก 2 องค์ ถูกทิ้งไว้ที่วัดพระยากง ต่อมาได้ถูกคนทุบทำลายเมื่อตัดเศียรไปขาย จนนำมาสู่การตามยึดและบูรณะสำเร็จ 1 ใน 3 องค์ที่บุรณะได้อัญเชิญมาไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพ
1
4.พระพุทธรูปศิลาขาว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา พระนครศรีอยุธยา
แต่เดิมถูกชักลากมายังกรุงศรีอยุธยาพร้อมกัน และถูกทุบทำลายลงไปขณะประดิษฐานอยู่ที่วัดพระยากง เมื่อบูรณะสำเร็จแล้วได้นำไปประดิษฐานไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา พระนครศรีอยุธยา
ปล. ฉากหลังจะคล้านกัน เพราะบูรณะพร้อมกันเมื่อนำไปแยกประดิษฐานได้ทำบัลลังก์ในลักษณะเดียวกัน อีกทั้งเชื่อว่าแต่เดิมทั้ง 4 องค์ประดิษฐานร่วมกันอยู่ที่วิหารราย 4 ทิศวัดทุ่งพระเมรุ นครปฐม
2
5.พระพุทธรูปศิลาเขียว พระประธานโบสถ์วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
1
เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่สร้างด้วยศิลาเขียว ปางปฐมเทศนา และถูกชักลากไปจากนครปฐมในสมัยขุนหลวงพะงั่ว แต่ไม่สมบูรณ์นัก เพราะเมื่อภายหลัง ได้มีการขุดค้นโบราณสถานวัดทุ่งพระเมรุนครปฐม ได้พบประภามณฑลแล้วต่อเข้ากันได้พอดีกับพระศิลาเขียว จึงได้นำไปรวมกันให้สมบูรณ์ โดยเมื่อถูกนำไปประดิษฐานยังวัดขุนพรหมแล้วจึงรอดพ้นการทุบทำลายของหัวขโมยตัดเศียรพระ และต่อมาได้ย้ายไปวัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยาเพื่อเป็นพระประธานในโบสถ์ และคงอยู่ที่นั่นเรื่อยมา
2
6.พระศิลาขาวขนาดใหญ่ วัดเมนดุต ใกล้บูโรพุทโธ จังหวัดยอร์คยัลกาก้า อินโดนีเซีย
เป็นพระพุทธรูปศิลาขาวนั่งห้อยพระบาทองค์สุดท้ายในโลกที่สร้างในสมัยทวารวดี และเป็นองค์เดียวที่อยู่นอกประเทศไทย โดยอยู่ในประเทศอินเดีย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จไปสักการะในปี 2503
2
14 บันทึก
64
22
29
14
64
22
29
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย