20 ก.ค. 2019 เวลา 12:19
อย่าเอาหูไปรองเกี๊ยะ
ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com
ย้อนไปเมื่อครั้งหลวงปู่บุดดา ถาวโร
แห่งวัดกลางชูศรีเจริญสุข พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ยังมีชีวิตอยู่
มีครั้งนึง หลวงปู่ท่านได้รับกิจนิมนต์ไปงานทำบุญบ้านซึ่งบ้านนั้นเป็นลักษณะตึกแถวชั้นเดียวหลาย ๆ คูหา
ในช่วงนั้นหลวงปู่มีอาการอาพาธอยู่เป็นเนือง ๆ เนื่องด้วยมีอายุมากแล้ว
แต่เพื่อไม่ให้เป็นการขัดศรัทธาญาติโยม หลวงปู่ก็ยังไปสวดมนต์ และทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้อยู่
หลังจากเสร็จพิธี ทางเจ้าภาพเห็นว่าหลวงปู่ดูเหนื่อยมาก จึงบอกลูกศิษย์ว่า ให้หลวงปู่นอนพักที่บ้านก่อนสักสองสามชั่วโมง แล้วค่อยเดินทางกลับวัดจะดีกว่า
ลูกศิษย์เห็นด้วย จึงนิมนต์หลวงปู่ ไปพักผ่อนที่ห้องข้าง ๆ ที่ทางเจ้าภาพได้จัดที่นอนพักผ่อนไว้ให้
1
พลันที่หลวงปู่นอนลงยังไม่ทันได้หลับ ลูกศิษย์และญาติเจ้าภาพที่คอยดูแลอยู่ในห้องนั้น พากันได้ยินเสียงรองเท้าเกี๊ยะ เดินไปเดินมา จากห้องแถวที่อยู่ติดกัน ไม่รู้จักหยุดสักที
ลูกศิษย์และญาติเจ้าภาพจึงกระซิบ กระซาบปรึกษากันว่า จะไปต่อว่า
อาม่าข้างห้องซะหน่อย ที่ไม่รู้จักหยุดเดิน ไม่รู้เหรอว่า มีพระผู้ใหญ่ นอนพักผ่อนอยู่ตรงนี้
ยังไม่ทันที่ลูกศิษย์จะลุกออกไป ก็มีเสียงพูดออกมาจากหลวงปู่บุดดาว่า..
" โยมทั้งสอง ไม่ต้องไปหรอก เสียงเกี๊ยะมันก็ดังอยู่ตรงนั้นของมัน ถ้าเราไม่เอาหูเราไปรองเกี๊ยะ เสียงมันก็ไม่ทำให้เรารำคาญได้ "
เพียงคำสอนสั้น ๆ ง่ายๆ เพียงเท่านี้ ทั้งลูกศิษย์และญาติของเจ้าภาพที่กำลังรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ เตรียมจะไปต่อว่าอาม่าข้างห้องแถว ก็ต่างพากันสงบใจลง และกลับไม่รู้สึกโกรธเสียงเกี๊ยะนั้นขึ้นมาเฉย ๆ
เราอยู่ที่ใด ก็ไม่อาจบังคับให้ สิ่งรอบ ๆ ตัวเรา เป็นอย่างที่เราต้องการได้บางคนมีเพื่อนบ้านไม่ดี บางคนมีเพื่อนร่วมงานไม่ดี บางคนคนในบ้านไม่ดี เพียงแค่เราไม่เอาใจไปรองรับทุกเรื่องของเขา เราก็สามารถอยู่ได้ทุกที่ บนโลกใบนี้ อย่างมีความสุขพอสมควร
#กราบนมัสการในคำสอนของหลวงปู่บุดดา ถาวโร และขออนุโมทนาบุญกับผู้อ่านทุกท่าน
โฆษณา