12 ก.ค. 2019 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar) รัฐบุรุษแห่งกรุงโรม ตอนที่ 17 (ตอนจบ)
1
อวสานเผด็จการ
จูเลียสได้เดินทางผ่านตะวันออกกลาง เขาได้ทำการเก็บภาษี รวมถึงหยุดการกบฎที่ปรากฎตลอดทาง
1
ภายหลังจากบดขยี้ทัพกบฎทัพหนึ่ง จูเลียสได้กล่าวประโยคที่โด่งดังในเวลาต่อมา
“Veni Vidi Vici” แปลว่า “ข้ามา ข้าเห็น ข้าพิชิต”
ภายหลังกลับมาถึงกรุงโรม จูเลียสก็ได้เริ่มตอบแทนเหล่าทหารผู้ซื่อสัตย์ของเขา เหล่าทหารได้รับสมบัติตอบแทน รวมถึงได้รับมอบที่ดินรอบๆ สาธารณรัฐ ทหารบางนายก็ได้รับโอกาสเข้าสภา
ได้มีการจัดงานต้อนรับจูเลียสอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ประชาชนโรมต่างตื่นเต้นกับสมบัติจำนวนมากที่จูเลียสนำกลับมา รวมถึงยังมีสัตว์แปลกๆ ที่จับกลับมาด้วย เช่น ยีราฟ ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
จูเลียสจัดการให้นำศัตรูของเขาที่โดนคุมขัง แห่ประจานไปทั่วกรุงโรม ก่อนนำตัวไปประหาร
1
ได้มีทาสมากระซิบที่ข้างหูจูเลียส
“จำไว้นะ ท่านนั้นยิ่งใหญ่ ร้ายกาจยิ่งกว่าผู้ใด”
ดูเหมือนว่าจูเลียสจะรู้สึกว่าตนนั้นเปรียบเสมือนเทพเจ้า เขาคว้าชัยชนะมาตลอด เขาได้แต่งตั้งตนเองเป็นเผด็จการไปอีก 10 ปี อีกไม่นานจะมีการเลือกกงสุล แต่จูเลียสจะได้เป็นคนพูดในสภาเป็นคนแรก และแน่นอน คำพูดของเขาคือกฎหมาย
ดูเหมือนจะไม่มีอะไรหยุดเขาได้แล้ว
จูเลียสได้ออกเดินทางจากโรมอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังสเปนเพื่อปราบเหล่าผู้สนับสนุนปอมเปย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอีกตามเคย
ในเวลานี้ จูเลียสยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่ว่าสภาเองก็ยังเกรงเขา สภาถึงกับต้องมอบบัลลังก์ที่ทำจากทองคำให้จูเลียส
และในเวลานี้ จูเลียสก็ได้แต่งตั้งตนเองเป็นเผด็จการ แต่เป็นเผด็จการตลอดชีพ
1
จูเลียสถึงกับกล่าวว่า
“สาธารณรัฐนั้นไม่ได้มีอะไรเลย ก็แค่ชื่อที่ไม่ได้มีสาระหรือรูปแบบอะไรเลย”
ดูเหมือนสาธารณรัฐโรมันซึ่งมีอายุกว่า 500 ปี ได้ตกเป็นของจูเลียสแล้ว
ภาพจากภาพยนตร์
แต่ถึงอย่างนั้น จูเลียสก็ได้สร้างความเจริญให้กับโรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคลองหรือท่าเรือ รวมถึงยังออกสัญชาติและสิทธิต่างๆ ให้กับประชาชนในอาณาเขตของโรม
นอกจากนั้นเขายังสร้างอาณานิคมใหม่ๆ อีกมากมาย รวมถึงยังริเริ่มโครงการที่จะรวบรวมกฎหมายไว้ในที่เดียวกัน
แต่ความบ้าอำนาจของจูเลียสก็ทำให้หลายฝ่ายอึดอัด
จูเลียสให้เหรียญตรานั้นมีรูปของเขาอยู่ เขาจัดให้รูปปั้นของตนวางคู่กับรูปปั้นเทพเจ้า และตอนนี้หลายฝ่ายก็เกรงว่าจูเลียสจะยกพระนางคลีโอพัตราเป็นราชินีและขึ้นเป็นกษัตริย์ ปกครองดินแดนตั้งแต่โรมถึงอียิปต์
44 ปีก่อนคริสตศักราช กลุ่มสมาชิกสภากลุ่มหนึ่งได้แอบประชุมกันอย่างลับๆ เรื่องของจูเลียส
พวกเขาเรียกตนเองว่า “ผู้กอบกู้ (The Liberators)”
หนึ่งในผู้กอบกู้คือ “มาร์คัส บรูตัส (Marcus Brutus)” เด็กที่จูเลียสรู้จักมาตั้งแต่ยังแบเบาะ
มาร์คัส บรูตัส (Marcus Brutus)
เหล่าผู้กอบกู้เห็นตรงกันว่าวิธีเดียวที่จะช่วยสาธารณรัฐได้ก็คือการสังหารจูเลียส
เช้าวันที่ 15 มีนาคม คัลเพอร์เนีย (Calpurnia) หนึ่งในภรรยาของจูเลียสได้ฝันร้ายและตื่นขึ้นมา
เธอฝันว่ากำลังกอดร่างไร้วิญญาณของจูเลียส ซึ่งเธอก็ได้อ้อนวอนให้จูเลียสอยู่บ้าน แต่จูเลียสปฏิเสธ ซึ่งที่จริง ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ก็ได้มีหมอดูทำนายว่าวันที่ 15 มีนาคมจะเกิดเหตุร้าย
ขณะจูเลียสเดินเข้าที่ประชุม ได้มีชายคนหนึ่งซึ่งทำงานให้บรูตัส เกิดไปได้ยินแผนสังหารจูเลียส จึงหาทางเตือนจูเลียสโดยการเขียนลงกระดาษและแอบสอดใส่มือของจูเลียส
แต่จูเลียสกำลังรีบ เขาจึงโยนกระดาษที่ผู้หวังดีเขียนมาเตือนลงไปกองรวมกับกระดาษแผ่นอื่นๆ ที่เขาถืออยู่
1
ระหว่างทาง จูเลียสได้พบกับหมอดูที่ทำนายว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น เขาได้หัวเราะเยาะหมอดูพร้อมกล่าวว่า นี่ก็ถึงวันที่บอกแล้ว เขายังปกติ ไม่ได้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้น
แต่หมอดูกล่าวว่านี่ยังไม่หมดวัน
ขณะที่จูเลียสขึ้นมายังห้องประชุมสภา ก็ได้มีสมาชิกสภาซึ่งพี่น้องของเขาได้ถูกจูเลียสเนรเทศ ได้ตรงเข้ามาขอให้จูเลียสมีเมตตาต่อพี่น้องของเขา ยกโทษให้พี่น้องของเขาด้วย พร้อมกับจับชายเสื้อของจูเลียส
นี่คือสัญญาณให้ลงมือ
ผู้ลงมือสังหารคนแรกได้แทงจูเลียส แต่แทงถูกที่ลำคอ ซึ่งจูเลียสก็ได้ใช้ปากกาแทงกลับไปที่แขน จากนั้นคนอื่นๆ ก็รุมแทงจูเลียสอีกกว่า 22 แผล
จูเลียสสู้เต็มที่ จนจูเลียสเห็นบรูตัส เด็กที่เขาให้การดูแลมาตั้งแต่เด็ก เงื้อมีดขึ้นแทงเขา
“เจ้าเองก็ด้วยหรือ ลูกข้า” คือคำกล่าวของจูเลียสขณะใกล้สิ้นลม
ขณะกำลังจะขาดใจ จูเลียสก็ยังไม่ยอมให้ใครเห็นเขาตาย จูเลียสได้นำเสื้อของเขาคลุมหัวตนเอง ก่อนจะขาดใจ
จูเลียสอายุ 55 ปี
ภายหลังการเสียชีวิตของจูเลียส กรุงโรมก็ได้เกิดจลาจลและมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นอีก
2
แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อของจูเลียส ซีซาร์ก็ยังคงเป็นที่หนึ่งของกรุงโรมและเป็นที่เลื่องลือมานับพันปีจนถึงปัจจุบัน
ผมขอลงฉากสังหารจูเลียสจากภาพยนตร์ให้ลองชมดูนะครับ
จบลงแล้วนะครับสำหรับซีรีย์ชุดนี้ สำหรับพรุ่งนี้ซีรีย์เรื่องใหม่ “ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin) นักแสดงตลกผู้เปลี่ยนวงการภาพยนตร์โลก” ฝากติดตามด้วยนะครับ
โฆษณา