12 ก.ค. 2019 เวลา 11:59 • การศึกษา
นักบินรู้ได้ยังไงว่าต้องบินไปทางไหน บนฟ้ามีถนนมั้ยน้อ?
มองขึ้นไปบนฟ้าก็เห็นแต่ฟ้าโล่งๆ กับเมฆเยอะบ้างน้อยบ้าง แล้วนักบินเขารู้ได้ยังไงว่าต้องบินไปทางไหน?
เป็นคำถามที่มีคนถามมีเดี้ยมบ่อยๆ ทั้งญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนๆ วันนี้พอมีเวลาขอมาเล่าให้ฟังสั้นๆ นะงับ
สมัยแรกๆ เครื่องบินยังบินได้ไม่สูงมาก นักบินก็อาศัยการมองพื้นดินเป็นหลัก บวกกับใช้แผนที่ทั่วๆ ไปช่วยนำทาง เวลาบินไปเห็นอะไรก็วาดลงเพิ่มเติมเป็นแลนด์มาร์ค เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ สะพาน ภูเขา แท้งค์น้ำ เป็นต้น
คุ้นๆ นะรูปนี้
และก็มีนักบินผู้หนึ่ง นามว่า Elrey Borge Jeppesen เป็นนักบินของสายการบิน Varney Airlines ซึ่งภายหลังได้รวมกับสายการบิน United Airlines
Pic from WikiVividly
แรกเริ่มนายเจพเพอเซน วาดบันทึกแผนที่ซึ่งเรียกกันว่า aeronautical charts ไว้ใช้ส่วนตัวเท่านั้น ภายหลังมีคนเห็นชาร์ทของเจพเพอเซนแล้วอยากได้บ้าง เจพเพอเซนจึงได้ทำออกขายชุดละ 10 ดอลลาร์
และเมื่อใครมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ก็จะจดและวาดมาส่งให้เจพเพอเซนอัพเดทลงในชาร์ท ชาร์ทของเขาจึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักบิน
หลังจากสายการบิน Varney Airlines ได้รวมตัวกับสายการบิน United Airlines ก็ได้นำเอาชาร์ทของเจพเพอเซน มาใช้ภายในบริษัทอย่างเป็นทางการ
เมื่อธุรกิจการบินเริ่มเติบโต ความต้องการชาร์ทของเจพเพอเซนก็โตตาม เขาจึงได้ลาออกจากการเป็นกัปตันเพื่อมาทำชาร์ทการบินเพียงอย่างเดียว นี่คือที่มาของชาร์ท Jeppesen ที่วงการการบินใช้กันอย่างแพร่หลาย
ตัวอย่างชาร์ทสำหรับร่อนลงสนามบินดอนเมือง
การบินในยุคแรกนั้น บินที่ความสูงไม่มากนัก และหากวันไหนมีเมฆมาก หรือทัศนวิสัยต่ำ ยิ่งทำให้การบินมีความเสี่ยงสูง
ภายหลังเทคโนโลยีทางด้านการบินพัฒนาขึ้น ก็เริ่มมีการใช้สถานีภาคพื้นดินมาช่วยในการเดินอากาศ ซึ่งจะใช้คลื่นวิทยุส่งออกไปให้ตัวรับบนเครื่องบิน
แต่ละสถานีก็จะใช้คลื่นคนละความถี่ ทำให้นักบินสามารถไปถึงจุดหมายได้โดยไม่หลง และไม่ต้องพึ่งพาแลนด์มาร์คเพียงอย่างเดียว
แต่ละสถานีก็ใช้คลื่นความถี่คนละคลื่น
เมื่อมีสถานีภาคพื้นช่วยนำทางมากขึ้น เครื่องบินก็บินไปที่หมายได้อย่างถูกต้อง
จึงเป็นการเปิดศักราชแห่งการบินโดยใช้เครื่องวัดประกอบการบิน หรือเรียกว่า Instrument Flight Rules (IFR) ซึ่งช่วยให้ทำการบินได้ปลอดภัยแม้ในวันที่มีทัศนวิสัยต่ำ
เมื่อมีจำนวนเครื่องบินมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงต้องมีการกำหนดเส้นทางการบิน เพื่อป้องการการสับสนซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุการเฉี่ยว หรือชนกันกลางอากาศได้
เส้นทางการบินในยุคแรกก็จะเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างสถานีภาคพื้นต่าง ๆ พอเริ่มมีการใช้ดาวเทียมเพื่อมานำทาง การบินจึงได้มีการใช้ GPS มานำทางเครื่องบินด้วยเช่นกัน ซึ่งเส้นทางการบินจะเรียกกันว่า airway หรือ air route
Airway ก็เหมือนกับถนนบนฟ้า ตั้งชื่อโดยใช้อักษรภาษาอังกฤษ 1 ตัว ตามด้วยตัวเลข 1-3 ตัว และจะมีจุดบน airway ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็นจุดที่ใช้เลี้ยว หรือทางแยกโดยจะมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ 5 ตัวอักษร
ในบางครั้ง Air Traffic Controller (ATC) หรือนักบินก็จะขอทำการบินตรงไปที่จุดนั้นๆ อาจจะเพื่อหลบสภาพอากาศหรือเพื่อเป็นทางลัดประหยัดเวลาและน้ำมัน
ถนนบนฟ้าของประเทศไทย
สรุปก็คือ บนฟ้ามีถนนเช่นกัน แต่เครื่องบินนั้นสามารถบินบนถนนเส้นเดียวกันได้ บางครั้งบินไปทางเดียวกัน บางครั้งก็บินสวนกัน โดยใช้ความสูงที่ต่างกันจ้า
จบจ้า
โฆษณา