17 ก.ค. 2019 เวลา 23:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ชีวิตจะเป็นยังไง ถ้าไม่รู้สึกเจ็บปวด
ทำไมต้องเจ็บ ถ้าเราไม่เจ็บ ชีวิตจะดีกว่ามั้ย
แล้วอะไรบ้างที่ทำให้หายเจ็บได้
ตอนนี้กระแสกัญชามาแบบยืนหนึ่ง ข่าวทั้งหลายไม่รู้จริงเท็จยังไง บรรยายสรรพคุณกัญชาซะไม่เห็นหัวยาตัวอื่นกันเลย
โฆษณากัญชากันซะแบบเป็นยาครอบจักรวาล แต่วันนี้ขอหยิบมาเล่าเพียงสรรพคุณหนึ่งของกัญชา ที่พอจะดูเป็นไปได้มากที่สุดคือ ลดอาการปวด
ขอเล่าย้อนอดีต ออกทะเลกันซักตอน
อาการปวดนี่อยู่คู่กับคนเราตั้งแต่เริ่มต้นชีวิต จริงๆความรู้สึกเจ็บ ปวดทั้งหลายไม่ใช่สัญญาณที่ไม่ดี
แต่มันเป็นสัญญาณเตือนขั้นสุดท้ายแล้ว ที่สมองพยายามจะบอกร่างกายว่า
แกอย่าไปทำอะไรโง่ๆแบบนั้น หยุดเหอะ
ทำทำไมน่ะ
ลองนึกภาพเด็กน้อยอายุหลักเดือนกำลังเรียนรู้โลกใบใหญ่ในบ้านหลังเล็ก คลานต้วมเตี้ยมไปมา เอาหัวไปโขกกำแพง โป๊กๆ เจ็บจัง ร้องไห้งอแง
หรือ เด็กหัดเดิน เดินไม่ดูทาง สะดุดล้มหัวทิ่ม
ปากกระแทกพื้น ปากแตกเจ็บสุดในชีวิตร้องไห้ไปหาแม่
สิ่งที่ทำให้เด็กน้อย เรียนรู้โลกใบนี้ได้ โดยไม่ตายด้วยความไม่รู้ไปซะก่อน ก็คือความเจ็บปวด ที่สมองพยายามจะป้องกัน เมื่อใดที่ร่างกายเราโดนกระแทก โดนความร้อน โดนของมีคมบาด
เส้นประสาทแถวๆนั้นจะส่งสัญญาณไปหาสมอง
สมองก็จะตีความ ละบอกร่างกายว่า
เจ็บโว้ยยย หยุดดด
ไม่รู้ล้มหรือหลับ
เด็กน้อยก็จะเกิดการเรียนรู้แบบ Trial and Error ว่า เออ ถ้าทำแบบนี้อีก ก็เจ็บอีก สงสัยจะเลือกผิดทาง ต้องปรับตัว ปรับพฤติกรรม ไปเรื่อยๆจนเรียนรู้ว่าเดินยังไงแล้วไม่ล้ม จะได้ไม่เจ็บซ้ำ
มีโรคหายากที่พบได้น้อยมากๆ ที่ทำให้เด็กน้อยไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดตั้งแต่เกิดมา ไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือเจ็บ แต่ยังรู้สึกสัมผัสได้ปกติ
มีชื่อด้วยว่า Congenital analgesia ( congenital = ตั้งแต่กำเนิด, analgesia = ไม่เจ็บ )
แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเด็กน้อยที่ยังไม่รู้ความโหดร้ายของโลกนี้ เมื่อไม่รู้สึกเจ็บ การกระทำทุกอย่างไม่มีตัวเบรคว่าอะไรดีหรือไม่ดี
จะคลานตกบันไดจนกระดูกซี่โครงหักก็ยังลุกมาคลานต่อได้ ฟันที่ค่อยๆขึ้นก็จะงับมั่วไปเรื่อยจน กัดลิ้นกัดปากตัวเอง เป็นแผลเต็มปาก
เกิดมีอะไรเข้าตาก็ไม่รู้สึก หรือเป็นแผลก็ไม่สนใจ สุดท้ายอาจจะมองไม่เห็นเลยก็ได้
ไม่เพียงแค่นั้น ความรู้สึกร้อนก็ไม่ทำให้เจ็บ ร้อนแล้วไง ใครแคร์ เดินเอามือไปจับหลอดไฟ โดนน้ำร้อน ไม่เจ็บซักนิด แต่มือนี่โดนไหม้ไปแล้ว
ทำให้เด็กที่เป็นโรคนี้ต้องได้รับการดูแลจากพ่อแม่ใกล้ชิดมากๆ คลาดสายตาไม่ได้เลย
คนที่โตมาเป็นผู้ใหญ่ พอรู้เรื่องบ้าง ก็จะใช้ชีวิตง่ายขึ้นครับ แต่อาการไม่ได้หายไป บางคนเข้ารับการผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดเลย หรือบางคนก็สามารถคลอดลูกได้แบบไม่เจ็บซักนิด ฟังเหมือนจะเป็นเรื่องดี ???
แต่นอกจากความเจ็บ ยังมีรายงานว่าบางคน ไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามที่เข้ามา เช่นไม่รู้สึกว่าคนที่คุยด้วยกำลังโกรธ ไม่มีความรู้สึกกลัวอะไรทั้งหลาย แถมบางคนแผลที่เป็นยังหายเร็วกว่าคนปกติอีกตะหาก (อันนี้ดี)
ได้เวลากลับเข้าฝั่ง ออกทะเลไปแล้ว
ทีนี้เรารู้แล้วว่าความเจ็บจริงๆเป็นด้านดีนะ แต่บางทีมันก็มากเกินพอดี มีดบาดนิดเดียว เจ็บไปหลายวัน ทำการทำงานไม่ได้เลย
จริงๆร่างกายก็พยายามจะบอกว่า แกๆมีแผลที่นิ้วอ่ะ พักหน่อยมั้ย แต่ความจนมันน่ากลัว ถ้ายังมีมือก็ต้องมาทำงาน
ทั้งปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดแผลหลังผ่าตัด ปวดจากก้อนมะเร็ง และอีกหลายอย่าง ทุกอย่างที่กระตุ้นการปวดมากไปจนไม่เป็นอันทำงาน ไม่ค่อยดีแล้ว
ยาแก้ปวด ( Analgesic ) ก็จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้เอง
ยาแก้ปวด ทำงานได้หลากหลายกลไก บางทีก็ไม่รู้ว่าทำงานยังไงแต่มันหายปวดก็คือโอเค จะไล่ระดับไปจากแก้ปวดน้อยไปมากละกันครับ
Paracetamol : ยาสามัญประจำบ้าน เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี กินมากๆตับพังนะเออ เป็นยาที่กลไลยังไม่แน่ชัด แต่มันแก้ปวดได้จริงอ่ะ
ผลข้างเคียงน้อยมากถ้าไม่ไปกินเกินขนาด แต่ถึงแม้จะกินเกินขนาดก็ยังไม่เป็นอะไรมากนัก
ใช้แก้ปวดในระดับ 1-5 (เต็ม 10) ถือว่าหาง่าย ใช้ง่าย แก้ปวดนิดๆหน่อยๆได้ดี ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดแผลใช้ได้หมด ลดไข้ได้ด้วย ละไม่ค่อยมีผลข้างเคียง
หมอเลยชอบสั่งกันเป็นขนม เป้าหมายเพื่อที่จะได้ใช้ยาแก้ปวดตัวที่มีผลข้างเคียงมากกว่านี้น้อยลง
แต่ยังไงก็ตาม ยาบางชนิดเป็นยาผสมมี Paracetamol อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปกินซ้ำ เดี๋ยวเกินขนาดเอา
NSAID (Nonsteroidal anti-inflammatory drug) : ชื่อดูยาก แต่จริงๆเป็นยาแก้อักเสบที่คุ้นเคย
Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan (Mefenamic acid) สรรพคุณหลากหลาย ลดอาการอักเสบ ลดปวด ลดไข้
Aspirin (ไม่ค่อยใช้แก้ปวดกันแล้ว ใช้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่า)
ความแรงนี่ลดอาการปวดได้ค่อนข้างดี แนะนำคนที่ปวดในระดับมากกว่า 3 แต่แลกมาด้วยผลข้างเคียงที่มากกว่า Para และถ้ากินเกินขนาดอันตรายกว่าพอควร
ด้วยกลไกของมัน ทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่นที่เจอบ่อยคือ กระเพาะอักเสบ แผลในกระเพาะอาการ ไตวายเฉียบพลัน (มักจะเจอในคนไข้ไตเสื่อม คนปกติไม่ค่อยมีปัญหา)
โดยเฉพาะคนที่กินติดต่อกันนานๆ เช่นคนที่ปวดหลัง ปวดเข่าเรื้อรัง ปวดหัวเรื้อรัง ทำให้ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ควรใช้เป็นเวลานานๆ บางคนกินมาเป็นปีๆก็มี รู้ตัวอีกทีคือกระเพาะทะลุ ปวดท้อง อ้วกออกมาเป็นเลือดเลย
เรื่องจริง เจอบ่อยมากครับ
ถ้าใช้ในระดับปกติ กิน 5 วัน 7 วัน ก็ไม่ค่อยพบปัญหาอะไร ถ้าใครใช้อยู่อย่ากินติดต่อกันนานนะครับ
แต่ก็มียาชนิดใหม่ๆ ในกลุ่ม NSAID ที่จะพยายามมุ่งเป้าไปที่ลดปวดอย่างเดียว โดยจะลดผลข้างเคียงเรื่องของ กระเพาะอักเสบ
กลุ่มนี้จะเรียกว่า Selective COX-II Inhibitor (รู้ไว้เท่ๆ) ที่คุ้นเคยจะมีอยู่ 2 ตัวคือ Celebrex (Celecoxib) กับ Arcoxia (Etoricoxib) [ไม่ได้ค่าโฆษณานะ 555]
แต่ยังไงก็ตาม ปัญหาเรื่องไตวายไม่ได้หายไป แถมมีรายงานว่ามีโอกาสเกิดโรคหัวใจสูงขึ้นอีกตะหาก ไม่มีอะไรดีทั้งหมดจริงๆ ข้อเสียสุดท้ายคือแพงจริงอะไรจริง
เริ่มเยอะเกิน เดี๋ยวอ่านไม่จบ
นานๆเขียนที ลากยาวไปหน่อย
เหลืออีกตอนนึง เดี๋ยวมาต่อให้ครับ
ขอปั่นแปปนะครับ
โฆษณา