ฮีโร่ที่ไม่มีวันตายไปจากใจของผม
หลายคนอาจนึกถึงซุปเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์ของฝรั่ง
แต่สำหรับผม
อากงอาม่าคือฮีโร่ที่ไม่มีวันตายไปจากใจผมเลยครับ
อากงเป็นชาวจีนในประเทศกัมพูชาครับ เติบโตที่กัมพูชา จ.พระตะบอง และได้ย้ายมาอยู่ที่ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.ปราจีนบุรี (ปัจจุบันคือจ.สระแก้ว) มาในสภาพเสื้อ1ตัว กางเกง1ตัว ไม่มีบ้าน ไม่มีที่ทางในประเทศไทย มาตัวคนเดียวตั้งแต่อายุ16 มารู้จักเพื่อนๆในประเทศไทยที่เป็นคนจีนอพยพมาในรุ่นๆเดียวกันที่อ.อรัญประเทศ อากงเล่าให้ผมฟังว่า ตอนนั้นอากงรับจ้างแบกหินสร้างทางรถไฟ ได้ค่าแรงวันละ16สตางค์ สำหรับในสมัยนั้นค่าแรง16สตางค์ถือว่าเยอะพอควร
อากงมาพบรักกับอาม่าที่อ.อรัญประเทศครับ ตอนที่เจอกัน เพราะเหตุการณ์ฝนตก อากงแอบมาอยู่ข้างบ้านอาม่า โดยเอาเข่งเก่าๆข้างบ้านอาม่าคุมตัวเองไว้ เพื่อให้โดนฝนน้อยที่สุด หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ได้รักกันและอยู่กินด้วยกัน ชีวิตของอากงก็เริ่มๆดีขึ้น จากเคยผัดก้อนกรวดกิน ก็เริ่มมีเนื้อสัตว์ให้กินกัน ( อาม่าเคยเอาก้อนกรวดมาให้ผมดูด้วยนะครับ แกเก็บไว้เป็นที่ระลึก ) เริ่มมีลูกคนแรกคือคุณพ่อผม ต่อมาน้องๆคุณพ่อผมก็ทะยอยกันออกมา รวมเบ็ดเสร็จ ก็7พี่น้อง มีชาย4 หญิง3
ชีวิตอากงจากคนไม่มีอะไรเลย จนกลายเป็นคหบดีคนหนึ่งในจ.ปราจีนบุรีในขณะนั้น
ผมยังเคยเห็นร่องรอยความยากจนตามเนื้อตามตัวของอากง เช่นเล็บนิ้วมือที่หักงอ เล็บนิ้วเท้าที่ดูบิดเบี้ยว เคยถามว่าเล็บอากงไปโดนอะไรมาครับ แกก็ไม่ตอบ ได้แต่หัวเราะและก็ไล่ให้ไปทานข้าว
สิ่งที่ผมทึ่งมากคือ คนรุ่นอากงแต่ละคนล้วนผ่านชีวิตที่ยากจนกันมาจนร่ำรวยมีเงินมีทองมีทรัพย์สิน คนรุ่นนี้เขาเก่งนะครับ แล้วจะไม่ให้อากงอาม่าเป็นฮีโร่ในใจผมได้ยังไง
รักอากงอาม่าที่สุดครับ