ติดเชื้อ HIV ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันสามารถอยู่กับเราได้ไปตลอดชีวิต !!!
📌เชื้อ HIV เป็นเชื้อที่จะไปทำลายภูมิคุ้มกันของเราให้บกพร่องไป เลยเรียกคนที่ติดเชื้อนี้ว่า “เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง”
ซึ่งการได้รับเชื้อเข้าไป เชื้อจะค่อยๆไปทำลายภูมิคุ้มกันของเราไปทีละนิดๆ แน่นอนต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าจะไปทำลายภูมิให้ลดลง
จนไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ (ขึ้นกับแต่ละคนด้วย)
📌ภูมิคุ้มกัน ก็เหมือนทหารที่คอยสู้รบ ป้องกันศัตรู ไม่ให้มาทำลายประเทศร่างกายของเรา
👉🏻ภูมิคุ้มกันลดลง 👉🏻ตัวป้องกันเราจากเชื้อโรคก็ลดลง👉🏻 เราก็จะติดเชื้อต่างๆได้ง่ายขึ้น👉🏻 ส่งผลให้แสดงอาการต่างๆตามมา หรือติดโรคต่างๆตามมา
เช่น เป็นผื่นตามผิวหนัง เพราะภูมิคุ้มกันบนผิวหนังลดลงจนสู้กับเชื้อโรคไม่ไหว
ติดเชื้อในปอด เป็นฝ้าในปาก เพราะติดเชื้อรา หรืออื่นๆ ก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน
📌ปัจจุบันมียาต้านเชื้อ หลากหลายชนิด ซึ่งมีผลในการควบคุม ไม่ให้เชื้อเข้าไปทำลายภูมิคุ้มกันให้ลดลงไปกว่าเดิม นับตั้งแต่วันที่เราได้ทานยา
แต่ไม่ใช่ยาทุกชนิด จะเหมาะกับแต่ละคน ก็ต้องทดลองกันไป ผลข้างเคียงจากการใช้ยา ก็มีมาก ขึ้นกับคนไข้แต่ละคน ว่าจะรับยาตัวไหนได้
ถ้าตรวจพบว่าติดเชื้อ หมอจะตรวจภูมิคุ้มกัน (CD4) ในตัวเราก่อนว่า เหลืออยู่เท่าไหร่ หมอจึงเริ่มให้ยา และนัดกลับมาตรวจใหม่
ถ้า CD4 ยังลดลงอย่างเป็นนัยยะ แสดงว่ายาใช้ไม่ได้ผล ก็ต้องเปลี่ยนยา จนกว่าจะเจอยาที่ไปยับยั้งไม่ให้เชื้อไปทำลาย CD4 ของคนไข้รายนั้นๆได้ ซึ่งถ้าเจอยาที่เหมาะ คนไข้ก็ต้องทานยาทุกวันไปตลอดชีวิต และสามารถอยู่กับเชื้อไปได้ตลอดชีวิตเช่นกัน
ทั้งนี้ขึ้นกับอาการตั้งต้นที่ตรวจพบ และภูมิคุ้มกันที่เหลืออยู่ก่อนเริ่มได้รับยาด้วย
📌📌ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าภูมิคุ้มกัน เต็ม 10 สมมติว่า ระดับที่สามารถต้านเชื้อได้คือ 6
ถ้าเหลือ 5 คนไข้จะเริ่มมีอาการ ติดเชื้อที่ผิวหนัง
ถ้าเหลือ 3 คนไข้อาจติดเชื้อหลายๆอย่างพร้อมๆกัน เป็นหลายโรค
ถ้าตรวจเจอตอนที่ภูมิคุ้มกันคนไข้เหลือ 5 ยาต้านก็จะไปช่วยให้ภูมิ ยังคงเหลือ 5 อยู่ ไม่ลดลงไปกว่านี้ คนไข้ก็ยังสามารถติดเชื้อที่ผิวหนังได้อยู่
แต่ถ้าเจอเร็ว ภูมิยังเหลือ 7-9 คนไข้ยังไม่มีอาการ กินยาต้าน ก็จะรักษาระดับภูมิคุ้มกันนี้ได้ไปยาวๆ ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ไปตลอดเลย
📌คือปกติ การตรวจหาเชื้อ HIV ห้องแลป เราจะตรวจซ้ำ 3ครั้ง ด้วย3วิธีการตรวจ และคนละหลักการกัน
หมอถึงคอมเฟิร์มได้ว่าเราติดเชื้อ HIV จริงๆ = reactive 😭
📌ถ้าสมมติว่าตรวจแล้วเป็นจริงๆ ต้องรีบพาแฟนไปตรวจด้วย โดย รพ จะมีทีมที่ปรึกษาสำหรับการวางแผนครอบครัวโดยเฉพาะนะคะ สำหรับคนที่ติดเชื้อนี้ ซึ่งแฟน มีโอกาสที่จะติด หรือไม่ติดจากเราก็ได้ คือบอกไม่ได้เลย นอกจากตรวจเท่านั้น🧐
📌ซึ่งถ้าผลปรากฎว่า ติดเชื้อทั้งสองคน ต้องได้รับยาต้านเชื้อ ซึ่งต้องกินทุกวัน ตรงเวลา เพื่อไม่ให้เชื้อทำลายภูมิคุ้มกันของเรา เหมือนบล็อกมันไว้ให้อยู่แค่นั้น และเราสามารถอยู่กับเชื้อไปแบบปกติ โดยที่เราจะไม่แสดงอาการอะไรไปตลอดชีวิตค่ะ ถ้าเราทานยาต้านเชื้อไปตลอด แต่ถ้าคุณเป็น แต่แฟนไม่เป็น ทีมที่ปรึกษาใน รพ จะช่วยวางแผน และป้องกันสำหรับการใช้ชีวิตคู่แบบปกติ ได้ต่อไป รวมถึงการดูแลลูกด้วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ปล. ถ้าติดเชื้อ ควรรีบทานยาต้านให้เร็วที่สุดนะคะ จำไว้นะคะ เชื้อไม่สามารถทำลายเราได้ ตราบใดที่เราทานยาต้านได้ทันเวลาค่ะ
พิมยาวม๊ากกกกกกกกก เพราะฟังแล้วรู้สึกหดหู่ อยากให้ทุกคนมีความรู้เรื่องนี้ ไม่รู้สิ มันอิน
#จากใจนักเทคนิคการแพทย์
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
