อยากได้กันไหม "ยันต์กันท้อ"
TIDKIB
ถ้าคุณ กำลังตกอยู่ในสภาวะนี้
" ท้อง่าย แกล้งตายบ่อย นิดหน่อยก็ยอมแพ้ "
แวะมาอ่านบทความของเราสักนิด พิชิตความท้อ
ความท้อนี่เกิดจากอะไรกันแน่ ?
ความท้อเกิดจากเราเอาจิตไปคาดหวัง นำใจไปวางไว้ที่ผลลัพธ์
วิธีแก้จะให้ไม่ท้อได้คือ การทำเหตุให้เกิด ปล่อยวางผลลัพธ์ ถ้าเราใช้หลักอิทธิบาท 4 มี passion ในการทำงาน หลงใหล มุ่งมั่น สนุกกับงานที่ทำ ความท้อจะหายไป
"คนมีpassionจะมีความสุขกับการทำเหตุ คนที่มีกิเลสจะสุขเมื่อได้เห็นผล"
เรามีหน้าที่พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น ทำงานให้เยอะขึ้น มีความสนุกในการงาน
มีคำกล่าวไว้ว่า "เมื่อโอกาสมาถึงคนที่เตรียมพร้อมเท่านั้นจึงจะได้โอกาสนั้นไป"
ดังนั้นเราต้องฝึกฝนตัวเองให้พร้อมเมื่อโอกาสยังไม่มา และที่สำคัญคือแข่งขันกับตัวเองเท่านั้น ไม่มีจิตอิจฉาริษยาใครแม้เค้าจะได้ดีกว่ามากเพียงใด โฟกัสที่จะชนะตัวเอง
ซึ่งความจริงแล้วเรามีสัญชาตญาณแห่งนักสู้มาตั้งเกิด เราคือสเปิร์มตัวที่ชนะ และในช่วงที่เราพุ่งทะยานเข้าสู่แม่ของเรานั้น สเปิร์มอย่างเราไม่เคยหันไปดูสเปริมตัวข้างๆ หรือแกล้งดึงหางตัวอื่น เราทำแค่วิ่งไปให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะเข้าไปถึงไข่เป็นตัวแรกเท่านั้น
นั่นหมายความว่าธรรมชาติสอนให้เราแข่งกับตัวเองมาตั้งแต่เกิด
บางครั้งเหตุผลที่เราท้อเพราะเราทำผิดธรรมชาติ เราคาดหวังที่ผลลัพธ์เราเปรียบเทียบกับตัวเองกับคนอื่นมากเกินไป การทำเช่นนั้นเป็นการสะสมความผิดหวังลงไปในจิตใจเราวันละนิด ทุกๆวัน เมื่อผิดหวังบ่อยครั้งเข้า ก็จะเกิดความท้อ
แต่หน้าที่ของเราคือมีความสุขในการทำเหตุ แก้ปัญหาหน้างานที่เกิด ยกตัวอย่างเช่น เราปลูกดอกไม้หน้าที่เราคือรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช หน้าที่ผลิดอกออกผลเป็นหน้าที่ของต้นไม้ไม่ใช่เราอย่าไปแจ๋(อิอิ) อย่าไปก้าวก่ายหน้าที่ของดอกไม้ ถ้าเรารีบร้อนที่ผลลัพธ์ เราจะทุกข์ รดน้ำ1วัน 2วัน 3วันก็แล้ว ทำไมดอกไม้ไม่โตขึ้น ทำไมไม่ออกดอก ผิดหวังทุกวันซ้ำๆ ทนไม่ได้ก็ดึงต้นให้สูงขึ้นจนรากขาดก็ต้องเริ่มปลูกใหม่ ... "ดอกไม้จะสวยงามเพราะผ่านเวลา ความสำเร็จจะมีค่าเมื่อผ่านความอดทน"
หลุดออกมาจากความคาดหวังลมๆแล้งๆ ทำเหตุที่ควรจะทำให้เกิดขึ้น เรียนรู้ความผิดพลาด ก้าวข้ามไป สะสมเหตุให้เกิดขึ้นวันละนิด ก้าวข้ามผ่านวันที่ยากในทุกๆวัน
อีกเหตุผลที่ทำให้เราท้อเพราะเราตั้งเป้าหมายเล็กเกินไปและมีเป้าหมายแค่ตัวเอง
ตัวอย่างเช่น เราตั้งใจลดน้ำหนักเพราะอยากสวยเหมือนดาราอยากใส่ชุดสวย แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นคุณค่าของชีวิตเราจริงๆ เมื่อลดไปหลายวันเข้าน้ำหนักยังคงนิ่ง สมองก็นึกถึงของกินที่ชอบ หรือมีเค้กแสนอร่อยมาตั้งอยู่ตรงหน้าเราก็จะหลุดจากความฝันของเราได้ง่าย แต่ถ้าวันนี้การลดน้ำหนักของเราแนบไปกับการมีวินัยในตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ดีให้คนในครอบครัว ใช้การลดน้ำหนักเพื่อเป็นการสร้างขันติและบารมีให้ตนเอง มันเป็นสัจจะกับตัวเอง ในวันที่เราอยากกินขนมมากๆ เราก็จะมองเห็นถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเราให้คุณค่าและความสำคัญไปในสิ่งที่เหนือกว่า ทำให้อยู่กับคนที่รักได้ยาวนาน หรือลองคิดว่า ถ้าเรื่องแค่นี้เรายังยอมแพ้ เราจะทำสิ่งยิ่งใหญ่กว่านี้ได้อย่างไร แบบนี้คงทำให้เรามีแรงฮึดมากขึ้นความท้อก็คงจะหายไป
ในกรณีเดียวกันวันที่เราทำงานเหนื่อยมากๆ ถ้าเรามีเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปกว่าตัวเอง เราจะมีแรงฮึดที่จะตั้งใจทำต่อไปได้
หากท้อแล้วสุขใจท้อไปเถิด..
ท้อแล้วเกิดความฝันอันยิ่งใหญ่
ท้อแล้วเกิดความหวังพลังใจ
ท้อต่อไปให้สุดสุดอย่าหยุดท้อ
หากท้อแล้วกลับเฉื่อยยิ่งเหนื่อยหน่าย
ชีวิตไร้ความหมายอย่างนี้หนอ
ต้องทนฝืนกลืนกล้ำน้ำตาคลอ
รู้อย่างนี้ก็อย่าท้ออีกต่อไป..
- 24
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
