Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลูกปัดไดอารี่
•
ติดตาม
27 ก.ค. 2019 เวลา 14:05 • ความคิดเห็น
"ฮาชิโกะ"
วันนี้เราย้อนไปดูหนังเรื่องนี้อีกครั้ง
เราคิดว่าคงจะเป็นหนังในดวงใจของใครหลายคน
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ"ความรักที่ซื่อสัตย์ และการรอคอยที่ไม่มีวันกลับมา"
---
ถ้าใครอยากอ่านสรุปเลื่อนไปอ่านข้างล่างได้เลยนะคะ
---
ฮาชิโกะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสายใยรักของศาสตราอาจารย์ท่านหนึ่งที่มอบให้กับฮาชิ สุนัขพันธุ์อากิตะ
โดยศาสตราจารย์พบฮาชิอยู่เพียงลำพังที่สถานีรถไฟ ซึ่งตอนนั้นฮาชิยังเด็กมาก
เขาจึงนำกลับไปดูแลที่บ้านเพื่อรอเจ้าของ แต่ก็ไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย เขาก็เลยตัดสินใจรับเลี้ยงฮาชิไว้
เนื่องจากเขาไม่มีลูก จึงใช้เวลาอย่างเต็มที่ โดยในเวลาว่างจากการทำงานจะคอยเป็นเพื่อนซี้ เล่นด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน
และบ่อยครั้งที่ศาสตราจารย์พูดคุยกับฮาชิราวกับทั้งสองสามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าอกเข้าใจกัน
เหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนบริเวณสถานนีรถไฟ รู้สึกรักใคร่และเอ็นดูฮาชิ ก็คือ ทุกเช้าฮาชิจะวิ่งตามศาสตราจารย์เพื่อมาส่งเขาไปทำงาน และในเวลาเดิมของทุกเย็น ฮาชิจะมานั่งรอศาสตราจารย์ที่หน้าสถานีรถไฟเสมอ
แต่ในวันที่ 21 พฤษภาคม 1925 ฮาชิก็วิ่งออกมาจากบ้านอย่างที่เคยทำทุกวัน ผู้คนข้างทางที่รักและเอ็นดูฮาชิ กล่าวทักทายเหมือนเจอเพื่อนซี้ขาประจำ
ฮาชิมองตามเสียงเรียกขานนั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจ ฮาชิวิ่งต่อไปอย่างแน่วแน่และนั่งประจำที่ สายตาจับจ้องไปที่บานประตู รอคอยศาสตราจารย์กลับมา
"แต่ทว่าวันนั้นกลับเป็นวันสุดท้ายที่ฮาชิจะได้พบเจอศาสตราจารย์"
ย้อนกลับไปในช่วงเช้าวันนั้น ฮาชิดูเหมือนไม่อยากไปส่งศาสตราจารย์ที่สถานี ราวกับฮาชิรับรู้ได้ว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่ทั้งคู่จะได้เจอกัน
ฮาชิทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อเวลาให้ศาสตราจารย์ยังคงอยู่ให้นานที่สุด ยอมแม้กระทั่งเล่นคาบลูกบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮาชิไม่เคยทำมาก่อน
เพื่อนของศาสตราจารย์บอกไว้ว่า "ที่มันไม่เล่นคาบบอลเหมือนสุนัขทั่วไป เพราะมันไม่รู้จะทำไปทำไม แต่หากวันไหนมันเล่นคาบบอลขึ้นมา มันคงมีความหมายอะไรพิเศษแน่ๆ"
เช้าวันนั้นฮาชิเล่นคาบบอลเป็นครั้งแรก ศาสตราจารย์ดีใจและมีความสุขที่สุด เพราะในที่สุดฮาชิก็ยอมไปเก็บบอลมาให้เขาแล้ว
แต่แล้วอาจารย์ก็ต้องหันหลังกลับไปขึ้นรถไฟ ไม่ว่าสิ่งที่ฮาชิกำลังทำจะมีความหมายมากมายแค่ไหนก็ตาม...
หลังจากศาสตราจารย์จากไปด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก
ฮาชิยังคงมารอศาสตราจารย์เหมือนเช่นเคย ไม่ว่าหิมะจะตกลงมาแรงแค่ไหน ฮาชิก็ยังคงรอ ศาสตราจารย์อุเอโนะ ที่ไม่มีวันกลับมา..
10 ปีผ่านไป คือในวันที่ 8 มีนาคม 1935 มีคนพบฮาชิโกะนอนตายอย่างโดดเดี่ยวบนถนนแคบๆ บ้างก็เล่าว่าฮาชิคงอยากจะไปที่สุสานฝังศพของศาสตราจารย์ บ้างก็เล่าว่า ฮาชิอาจจะอยากสิ้นใจเพียงลำพัง
ไม่ว่าอย่างไร ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรื่องราวของ"ฮาชิโกะ" ได้ถูกเล่าขานไปทั่วดินแดนญี่ปุ่น ทำให้ในวันที่ 9 มีนาคม 1935
มีผู้คนนับพันแห่กันมาที่สถานนีรถไฟนี้อีกครั้ง เพื่อนำดอกไม้มาวางประดับให้แก่ฮาชิโกะ
ปัจจุบันร่างของฮาชิโกะ ถูกเก็บรักษาไว้ด้วยการสตัฟฟ์ ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว
มีป้ายอนุสรณ์ของฮาชิโกะตั้งอยู่ในสุสานอะโอะยะมะ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บศพของศาสตราจารย์อุเอโนะ และยังมีอนุสาวรีย์ซึ่งเป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์อยู่ที่หน้าสถานีรถไฟชิบุยะ ตรงจุดที่ฮาชิโกะเคยนั่งรอศาสตราจารย์เป็นประจำ
ฮาจิโกะ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญูและจงรักภักดีตราบจนถึงทุกวันนี้...
เล่าโดยย่อ
1.ฮาชิเกิดในปี ค.ศ.1923 ที่โรงนาแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของญี่ปุ่น
2.ศาสตราจารย์ผู้รับเลี้ยง ชื่อว่า ฮิเดะซะบุโระ อุเอโนะ เป็นศาสตราจารย์ภาควิชาการเกษตรกรรมของมหาวิทยาลัยโตเกียวอิมพีเรียล
3.ศาสตราจารย์เลี้ยงดูเหมือนเพื่อนที่เข้าใจกัน โดยฮาชิวิ่งมาส่งเขาที่สถานีทุกเช้า และทุกเย็นจะมารับตรงเวลาเสมอ
4.ฮาชิโกะเดิมมีชื่อว่า ฮาชิ แต่หลังจากผู้คนเริ่มรู้จักจึงได้เพิ่มคำว่า "โกะ" ต่อท้าย ซึ่งแปลว่า "เจ้าชาย"
5.ศาสตราจารย์เสียชีวิตในวันที่ 21 พฤษภาคม 1925 ด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้ไม่สามารถมาเจอฮาชิโกะในเย็นวันนั้นได้
6.หลังจากการเสียชีวิตของศาสตราจารย์ ฮาชิยังคงมารอเขาทุกวัน เป็นเวลา 10 ปี และสิ้นใจลงใน วันที่ 8 มีนาคม 1935
7.คนญี่ปุ่นยกย่องให้ฮาชิโกะ เป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญูและจงรักภักดีตราบจนถึงทุกวันนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://themomentum.co/hachiko/
ความรักที่ซื่อสัตย์
"หากเรารักใครจริง
เราจะยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่กับเขาให้นานที่สุด แม้สิ่งที่ทำอาจดูไม่มีเหตุผลเลยก็ตาม"
เหมือนฮาชิโกะที่ยอมเล่นคาบลูกบอล กับศาสตราจารย์เพื่อที่จะอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด
ทั้งๆที่ไม่เคยยอมเล่นมาก่อนเลย
แต่สุดท้ายธรรมชาติก็พรากศาสตราจารย์อุเอโนะไปจากฮาชิโกะอยู่ดี
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย