30 ก.ค. 2019 เวลา 14:12 • บันเทิง
กับดัก
05.30 น.
เหม่อมองฟ้า ค่ำคืนนี้
ไม่มีดาวบ้างเลยหรือไร
เหมือนลึกลึกในใจ
ที่ฉันไม่มีใครเลยสักคน
ก็เพิ่งจะรู้ ว่าบนฟ้า
ในเวลาที่ฟ้าไร้ดาว
ฟ้าก็ดูหมองเศร้า
เงียบเหงาเหมือนใจเราเอง 🎶
ผมฮัมเพลงด้วยความรู้สึกปล่อยวาง ลิซ่านอนหลับอย่างอ่อนเพลียอยู่ข้างกายผม
ผมได้ยินเสียงไก่ขันราวกับมันหัวเราะเยาะเย้ยที่ผมติดอยู่ในกับดักนี้
ท้องฟ้าเริ่มสว่าง
เต๊าะ แต๊ะ เต๊าะ แต๊ะ เสียงรองเท้าแตะดังเข้ามาใกล้จนผมต้องปลุกลิซ่ามาช่วยยืนยันว่าผมไม่ได้หูแว่วไปเอง
"ตื่นเร็ว ลิซ่า ได้ยินเสียงอะไรไม๊"
"อือ ฮือ เสียงรองเท้าแตะเหรอ" ลิซ่าตอบน้ำเสียงงัวเงีย
"เราคิดว่างั้นเหมือนกัน รีบหาที่ซ่อนเร็ว บ้าเอ๊ย จะซ่อนที่ไหนได้วะ" ผมกระวนกระวายใจอย่างที่สุด
คนสร้างกับดักนี่แน่ ๆ มันคงมาดูผลงานของมัน แล้วมันจะทำอะไรกับเรา
ผมจะปกป้องลิซ่าและหนีไปจากที่นี่ให้ได้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตของผมก็ตาม
03.20 น.
บ้าน (ต้อง) สาป
ตำนานที่ยังคงอยู่ถึงตอนนี้ ลักษณะบ้านเป็นเรือนยาว หน้าต่างและประตูเปิดตลอดสามารถมองเห็นภายในบ้านได้อย่างชัดเจน
ใครก็ตามที่เข้าไปในนั้นเหมือนถูกสะกดให้ขยับไม่ได้ และวันรุ่งขึ้นก็จะหายไป เหลือเพียงบ้านที่ว่างเปล่าราวกับเป็นกับดักที่รอเหยื่อหลงเข้าไปเป็นอาหาร
ที่น่ากลัวคือบ้านหลังนั้นอยู่ในตลาดที่มีผู้คนจับจ่ายซื้อของคึกคัก แปลกไหม
สมัยที่ผมยังเด็ก วันหนึ่งผมวิ่งเล่นแถวนั้นเพลินจนพลบค่ำ ผมเผลอมองเข้าไปในบ้านที่คุณก็รู้ว่าหลังไหน
ผมเห็นชาวต่างชาติ ทำไมผมถึงมั่นใจว่าเป็นชาวต่างชาติ เพราะสีผิวที่ค่อนข้างดำ มีหนวดยาว ซึ่งผมไม่เคยเห็นมาก่อน ร่างนั้นไม่ไหวติง ผมกลัวมากจึงรีบวิ่งหนีจากตรงนั้น
วันต่อมาบ้านก็ว่างเปล่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเหมือนกับที่ร่ำลือกันไม่มีผิด
ประสบการณ์ตรงที่ฝังลึกในจิตใจ สาบานว่าผมจะไม่เข้าไปในบ้านหลังนั้นเด็ดขาด
05.25 น.
ผมมองขึ้นไปยังทางออกทางเดียวของเรา ในทุกคืนผมจะเห็นดวงดาวพร่างพราย
ยกเว้นคืนนี้มีเพียงไฟสลัว ๆ จากที่ไหนสักแห่งเท่านั้น
02.30 น.
"โก้ทำอะไรอยู่ข้างล่างน่ะ" เสียงเล็กแหลมของลิซ่าดังเข้ามาในหูผม
ผมแหงนมองหาเจ้าของเสียงแล้วรีบตะโกน "อย่าลงมา"
ตุ่บ! เธอตัวเล็กกว่าผมพอควรเสียงกระแทกพื้นเลยเบาไปหนึ่งระดับ
สายไปแล้ว เธออยู่ข้างหน้าผม ช่างโง่อะไรอย่างนี้ ผมคิดพร้อมยกมือกุมหัว
"โก้เป็นอะไรรึเปล่า หายไปนานมาก" ลิซ่าถามผมอย่างห่วง ๆ
"จบกัน ความช่วยเหลือแรก" ลิซ่าดูงงงงกับคำพูดผม
"ทำไมเธอไม่ปีนขึ้นไปล่ะ หรือเธอได้รับบาดเจ็บ" น้ำเสียงน่าเขกกระโหลกมาก ดีที่ผมเอามือกุมหัวไว้แน่น
ใช่ ผมกับลิซ่าเป็นนักปีนผา ผนังแค่นี้มันเตี้ยเหี้ย ๆ ตึกสูง 20-30 เมตรผมกับลิซ่าก็ผ่านมาแล้ว
"ก็ลองดูสิ" ผมท้าเธอ
ผมมองดูเธอวิ่งพร่านราวกับคลุ้มคลั่ง
"ปีนไม่ได้ มันลื่น" ลิซ่าพูดเสียงดังซ้ำ ๆ จนผมรำคาญ
สักพักเธอเดินมาหาผมช้า ๆ คงจะใช้พลังหมดแล้ว
“เราว่าร้านขายแมลงทอดต้องมีเอี่ยวกับกับดักนี่แน่ ๆ เธอลองดมกลิ่นน้ำมันที่ผนังสิ” ผมตั้งสมมติฐาน
“กลิ่นน้ำมันทอดแมลงจริงด้วย ป้าอ้วนเคยแบ่งแมลงทอดให้กินบ่อย ๆ พูดถึงป้าอ้วน โก้รู้เรื่องที่ป้าแกเข้าไปในบ้านหลังนั้นยัง”
“บ้านหลังนั้นน่ะนะ” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ใช่ เมื่อตอนบ่ายลูกชายแกหลงเข้าไป แกรีบวิ่งไปช่วย ชั้นก็เห็นนะ ป้ากับลูกแกขยับตัวไม่ได้ แต่ชั้นไม่กล้า...” ลิซ่าหยุดกลืนน้ำลายนิดหนึ่ง
“จากนั้นไม่นาน ชั้นเห็นบ้านลอยขึ้นไปบนฟ้าลิบ ๆ แล้วค่อย ๆ ลอยลงมาที่เดิม แต่ข้างในว่างเปล่า ชั้นรีบวิ่งหนีสุดชีวิตเลย” ผมฟังด้วยความตื่นเต้นนี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับผม
ผมนึกถึงตำนานของบ้านหลังนั้นในทันที
00.45 น.
นรก 6 เมตร
ตุ้บ!! ผมรู้สึกจุกนิดหน่อย พยายามรวบรวมกำลังแหงนหน้าขึ้นไปข้างบน
มันสูงมาก เทียบกับตัวผมก็น่าจะราว ๆ 6 เมตร
ผมมองไปรอบ ๆ แสงไฟสลัว ๆ ทำให้ทัศนวิสัยไม่ค่อยดีนัก ผมจึงต้องเดินสำรวจช้า ๆ
มือผมโดนอะไรบางอย่าง มันเป็นผนังสัมผัสลื่น ๆ หอมกลิ่นอาหาร กลิ่นที่ผมคุ้นเคย
คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ ๆ ป้าอ้วนที่ตลาดยื่นให้ผมลิ้มรสทุกครั้งที่ผมไปวิ่งเล่นแถวนั้น
ความกรอบ เค็มปะแล่ม และกลิ่นหอม ๆ ยังติดตรึง
"แมลงทอด ผนังถูกทาด้วยน้ำมันทอดแมลงใช้แล้ว" ผมพูดกับตัวเองเบา ๆ
ผมค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปตามผนังพลางลูบไล้บนบนล่างล่างซ้ายขวาซ้ายขวา
"เรียบสนิท ลื่นทุกสัมผัส ไร้เหลี่ยม ไร้มุม" ผมรำพึงอย่างสิ้นหวัง
ผมละจากผนังเดินเข้ามาตรงกลางพื้นที่ ณ จุดจุดนี้มีอาหารและน้ำวางไว้
คงไม่ต้องบอกว่าอาหารนั้นคืออะไร ชัดเจนว่ามันมีความเกี่ยวข้องกัน
คนที่สร้างกับดักคงอยากให้ผมอยู่นาน ๆ หน่อย เพื่ออะไรสักอย่าง
ผมตั้งสติ พยายามใช้สมองประมวลผลข้อมูล
มันเป็นห้องทรงกระบอกไม่มีหลังคา และนั่นคือทางหนีเดียวของผมที่ไม่มีวันเป็นไปได้
กับดักนี้สมบูรณ์แบบ
ผมคงต้องรอความช่วยเหลือสินะ ผมนึกถึงลิซ่า หวังว่าเธอจะตามหาผม
00.20 น.
เลยเที่ยงคืนแล้ว ผมมีนัดกับลิซ่า เมื่อเช้าผมเจอเธอ เราคุยกันว่าจะมากินมื้อดึกด้วยกัน
ระหว่างวันถ้าเจอของอร่อยให้ติดมือมาด้วย ต้องเป็นค่ำคืนที่สนุกแน่ ๆ
แต่ด้วยความที่ผมเผลอหลับยาวช่วงบ่ายเลยต้องมาเดินหาของอร่อยเอาป่านนี้
เอ๊ะ จมูกผมได้กลิ่นหอม ๆ ชวนกิน ผมเดินล่องลอยไปตามกลิ่นเหมือนตกอยู่ในภวังค์
เท้าผมลื่น เกิ ด อ ะ ไ ร ขึ้ น น น .....
20.20 น.
เต๊าะ แต๊ะ เต๊าะ แต๊ะ
“ลูกอย่าเดินลากรองเท้าแตะสิคะ แม่สอนหลายครั้งแล้วนะ” แม่ดุเบา ๆ
“ค่า คุณแม่คะหนูมีอะไรมาอวดด้วย แต่น แต๊น” เด็กน้อยเสียงใสกังวาน
“นี่ไงคะ ถังขยะทาด้วยน้ำมันที่คุณแม่เททิ้งในปี๊บ เอาแมลงทอดที่หล่นพื้นมาวางไว้ตรงกลาง พอจิ้งจกลงไปกินก็ปีนขึ้นไม่ได้แล้ว หนูดูจากยูทูป หนูใส่น้ำไปด้วย เผื่อเค้าติดคอ”
เด็กน้อยพูดเจื้อยแจ้วอย่างภูมิใจในความเก่งของตัวเอง
“เมื่อตอนบ่ายหนูเอาบ้านแมลงสาปไปเปลี่ยนด้วยค่ะ มีจิ้งจกติดอยู่ในนั้น 2 ตัว หนูสงสารมัน เลยเอาไปปล่อยหลังวัด”
“จ้า ลูกแม่เก่งมาก ใจดีด้วย เอาถังไปวางแล้วรีบนอน พรุ่งนี้มาดูกันนะว่ากับดักของหนูจะได้ผลหรือเปล่า”
“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
คุยกัน :
เพลงนี้เข้ากับชื่อที่ผมใช้ใน Blockdit ครับ ละอองดาวหรือ Stardust นั่นเอง ส่วนผมก็ Lifedust แปลเป็นไทยสวย ๆ เลียนแบบกันก็ละอองชีวิต หรือสวย ๆ อีกแบบก็ธุลีชีวิต มันเป็นความรู้สึกในตอนที่ผมเพิ่งรู้จัก Blockdit ใหม่ ๆ
เสียงไก่ขันนี่ตัวขโมยซีนจริง ๆ 😂
กับดักจิ้งจกนี่ผมดักไปได้หลายตัวแล้ว แต่มันคงเล่าขานกันปากต่อปากเลยไม่ค่อยมาติดละ 😁
โฆษณา