3 ส.ค. 2019 เวลา 15:14 • ประวัติศาสตร์
ตำนานการแหกคุกที่ทรงพลังมากที่สุดครั้งหนึ่ง ที่ประวัติศาสตร์โลกเคยบันทึกไว้ (EP.1)
เหตุการณ์แหกคุกอัลคาทราซของ Frank Morris และสองพี่น้อง John & Clarence Anglin
เมื่อกลุ่มนักโทษ 4 คน ค้นหาวิธีแหกคุกอัลคาทราซ โดยใช้เวลาวางแผน และเตรียมการนานถึง 15 เดือน
Credit : en.wikipedia.org
ย้อนไปในปี 1934 “The Rock” หรือคุก อัลคาทราซ เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก มันตั้งอยู่บนที่ดินหาค่าไม่ได้ บนเกาะใจกลางอ่าวซานฟรานซิสโก
มันเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุดที่ถูกออกแบบไว้เป็นที่พักสุดท้ายของนักโทษเดนตายที่เลวร้ายที่สุดของอเมริกา
Credit : GetyourGuide
บรรยากาศที่อัลคาทราซนั้นมันช่างโดดเดี่ยว หนาวเย็น และน่ากลัว นักโทษจะต้องเผชิญกับความเงียบ ความอับชื้น หมอกที่ปกคลุมรอบๆเกาะ และเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้
4
มันจึงมีการกล่าวขานในหมู่นักโทษว่าที่นี่ คือ เฮลล์คาทราซ หรือ นรกอัลคาทราซนั่นเอง
ก่อนปี 1962 มีรายงานการพยายามแหกคุกอัลคาทราซ 12 ครั้ง แต่ล้มเหลวทั้งหมด The Rock จึงกลายเป็นคุกที่ดูเหมือนจะหนีออกไปไม่ได้ (หลังปี 1962 มีการหลบหนีเพิ่มอีก 2 ครั้ง รวมทั้งหมด 14 ครั้ง)
ในปี 1961 อาชญากร 4 คน ประกอบไปด้วย Frank Morris (นักโทษคดีปล้นธนาคาร) สองพี่น้อง John & Clarence Anglin (นักโทษคดีปล้นธนาคาร) และ Allen West (นักโทษคดีขโมยรถยนต์ และพยายามแหกคุกที่ฟลอริด้า)
ทั้ง 4 คน พบกันเป็นครั้งแรกในเรือนจำที่ฟลอริด้า ก่อนทั้งหมดจะถูกส่งตัวมาที่อัลคาทราซ
เมื่อพวกเขาถูกส่งตัวมาที่อัลคาทราซ อาชญากรทั้ง 4 คน จึงคิดหาทางให้ได้มาซึ่งอิสรภาพ นั่นก็คือการแหกคุก โดยใช้เวลาวางแผน และเตรียมการถึง 1 ปีเศษ (15 เดือน) พวกเขามั่นใจว่าแผนของพวกเขาจะสามารถฝ่าด่าน The Rock ออกไปได้
เดือนธันวาคม ปี 1961 นักโทษ Frank Morris ,John & Clarence Anglin และ Allen West เริ่มวางแผนหลบหนี จากสถานที่ ที่ไม่น่าจะหนีได้อย่างเรือนจำกลางอัลคาทราซ
ทั้ง 4 คน มีทักษะความสามารถที่แตกต่างกัน
Frank Morris มีเทคนิค ไหวพริบที่ฉลาดรอบตัว เขาสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่กดดันได้ดี
Allen West เขาเป็นคนชอบงัดแงะ ช่างสังเกต และมีความรู้เกี่ยวกับระบบอาคาร
John & Clarence Anglin มีความสามารถทำงานได้หลากหลาย ทั้ง 2 คือ มือดีที่เก่งเรื่องการลงมือปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อพวกเขาทั้ง 4 คน มารวมทีมกัน การที่มีทั้งสายบู๊ และสายบุ๋นอยู่ในทีม มันจึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว
ไม่นานหลังจากนั้นแผนแหกคุกของพวกเขาเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อได้ข้อมูลลับจาก Clarence Carnes เพื่อนนักโทษที่อยู่ในอัลคาทราซมานานกว่า 18 ปี
1
Credit : en.wikipedia.org
Carnes พูดถึงทางลับที่เชื่อมไปยังหลังคาเรือนจำ ด้วยช่องระบายอากาศที่พาดผ่านหลังกำแพงห้องขัง มันเป็นช่องยาวที่เชื่อมต่อไปยังปล่องระบายอากาศที่อยู่บนหลังคาเรือนจำ
หลังกำแพงห้องขังแต่ละห้อง จะมีตะแกรงเหล็กช่องลมขนาด 6x10 นิ้ว ที่สามารถเปิดไปสู่ช่องระบายอากาศที่พาดผ่านหลังห้องขังได้
แต่มีปัญหาเล็กๆอยู่อย่างหนึ่งก็คือ รูช่องลมที่กำแพงหลังห้องขังนั้น มันเล็กเกินกว่าที่ผู้ชายตัวโตๆจะลอดผ่านเข้าไปได้ ทำให้พวกเขาต้องคิดหาวิธีกระเทาะช่องปูนบริเวณช่องลมให้มีขนาดที่กว้างพอ
Credit : Alcatraz history
หลังสำรวจ และเก็บข้อมูลอย่างใกล้ชิด พวกนักโทษทั้ง 4 พบว่า แม้อัลคาทราซจะตั้งอยู่บนทำเลที่ดี แต่มันก็ทำลายตัวเองด้วยเช่นกัน
การที่อัลคาทราซตั้งตระหง่านอยู่ใกล้น้ำทะเลมานานนับสิบๆปี มันส่งผลเสียต่อกำแพงคอนกรีตของเรือนจำ
ไอเค็มจากน้ำทะเลจะกัดกร่อนเหล็กในเนื้อปูนจนขึ้นสนิม และส่งผลทำให้คุณสมบัติการยึดเกาะของเนื้อปูนเสื่อมสภาพลง ซึ่งถ้าหากมีอุปกรณ์ที่มีความแข็งในระดับหนึ่ง และมีความเหมาะสมโดยไม่ผิดสังเกต ใครๆก็สามารถกระเทาะปูนที่เสื่อมสภาพให้แตกได้ง่ายๆ
Clarence Anglin เป็นคนแรกที่ทำอุปกรณ์กระเทาะปูนที่เหมาะสมได้สำเร็จ เขาทำสิ่วจากวัสดุธรรมดาที่สุด ซึ่งมันถูกเตรียมไว้ให้นักโทษทุกคน ทุกวัน และทุกมื้อ มันก็คือช้อนทานข้าวนั่นเอง
1
นอกจากการทำสิ่วจากช้อนแล้ว พวกเขาก็ยังจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเครื่องมืออื่นๆเพิ่ม เพื่อกระเทาะกำแพงปูนบริเวณช่องลมระบายอากาศ เพื่อให้ทันในเวลาที่จำกัด
ต่อมาพวกเขาได้แท่งโลหะที่เพื่อนนักโทษนำมามอบให้ และได้ส้นรองเท้ามาเป็นเครื่องมือในการตอก และกระทุ้งรูกำแพงหนา 8 นิ้ว ภายในห้องขัง ซึ่งมันมีรอยร้าวจากการกระเทาะอยู่ก่อนแล้ว ให้หลุดร่วงลงมาทีละนิด
ส้นรองเท้าเป็นวัสดุที่ดีเลยทีเดียว มันไม่ทำให้เกิดเสียงดังเหมือนเหล็ก และไม่เป็นที่ผิดสังเกต
เมื่อพวกเขาขยายรูของช่องลมระบายอากาศหลังห้องขังได้กว้างขึ้น พวกเขาก็ขยับเข้าใกล้ช่องระบายอากาศที่พาดผ่านหลังห้องขังเข้าไปมากทุกที
แต่ทว่าเครื่องมือที่ทั้ง 4 หามาได้ก่อนหน้านี้ พาพวกเขาไปได้แค่นั้น เมื่อพวกเขาพบเข้ากับโครงเหล็กอีกชั้นที่หุ้มรอบช่องลม
1
แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก Clarence Carnes นักโทษที่มีเส้นสายมากที่สุดในอัลคาทราซ ทำให้พวกเขาได้ใบเลื่อยตัดโลหะมาใช้ในการตัดโครงเหล็กที่หุ้มรอบช่องลม
Credit : en.wikipedia.org
มันเป็นใบเลื่อยที่ได้มาจากการพยายามแหกคุกแล้วแผนการเกิดล้มเหลว และผู้คุมเองก็ยังไม่เคยพบเห็นใบเลื่อยนี้ Clarence Carnes จึงนำมันมาซ่อนไว้ในครอบครอง
ก่อนที่จะตัดสินใจนำมามอบให้นักโทษทั้ง 4 คน นั่นเท่ากับว่าถ้าหากพวกเขาหลบหนีไปได้ Frank Morris ,John & Clarence Anglin และ Allen West จะเป็นหนี้บุญคุณต่อ Clarence Carnes อย่างใหญ่หลวงในทันที
พวกเขาค่อยๆตัดโครงเหล็กที่หุ้มรอบช่องลมไปทีละนิดอย่างระมัดระวัง โดยใช้เวลาตัดยาวนานต่อเนื่องถึง 9 เดือนก็ยังไม่สำเร็จ
1
พวกเขาระมัดระวังเพื่อให้มั่นใจว่า มันจะไม่เกิดเสียงตัดเหล็กดังจนผิดสังเกต แต่ขั้นตอนนั้นก็เป็นไปอย่างล่าช้าเพราะมีผู้คุมเดินตรวจเป็นระยะ
แต่ทว่าพวกเขาก็พบทางออกที่จะช่วยแก้ปัญหาความล่าช้านี้ได้ เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ปลายปี 1960 ทางเรือนจำอนุญาตให้นักโทษเล่นเครื่องดนตรีได้ เพื่อให้นักโทษคลายความเครียด และฟื้นฟูสภาพจิตใจ ซึ่งจะทำให้มีเสียงดนตรีดังปนเปกันไปในแดนขังนักโทษ
เมื่อมองเห็นโอกาส พวกเขาก็ปรับเปลี่ยนเวลาในการตัดโครงเหล็กที่หุ้มรอบช่องลม โดยรอให้ถึงช่วงเวลาที่นักโทษเล่นดนตรี
เสียงดนตรีที่เกิดขึ้นดังพอที่จะช่วยกลบเสียงที่เกิดจากการเลื่อยตัดเหล็กได้อย่างพอเหมาะ
1
เมื่อทั้ง 4 โล่งอกจากการหาทางออกในการกลบเกลื่อนเสียงตัดเหล็กได้แล้ว Frank Morris สองพี่น้อง John & Clarence Anglin และ Allen West ไม่รอช้าที่จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาคิดแผนการล่วงหน้าไว้ในกรณีที่หนีออกมาจากอาคารเรือนจำ และลงมาที่ริมทะเลได้ แผนของพวกเขาไม่ใช่การว่ายน้ำหนี แต่พวกเขาจะล่องเรือหนีจากอัลคาทราซด้วยแพที่ทำขึ้นมาเอง
Credit : en.wikipedia.org
แต่เมื่อทั้ง 4 เริ่มลงมือสร้างแพ ก็มีปัญหาใหม่โผล่ขึ้นมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ....พวกเขาจะซ่อนมันที่ไหนให้เพื่อให้พ้นสายตาผู้คุม
หลังจากที่คิดไม่ตกมาหลายวัน จู่ๆโชคก็เข้าข้าง เมื่อพวกเขาทั้ง 4 ได้รับการมอบหมายจากผู้คุมให้ทำงานทาสีที่ชั้นบนของแดน B
Allen West ได้โน้มน้าวผู้คุมว่าพวกเขาจำเป็นต้องทำที่ขึงผ้าห่ม เพื่อป้องกันไม่ให้สี และฝุ่น หยด และหล่นลงไปที่พื้นอาคารด้านล่าง ซึ่งผู้คุมก็อนุมัติให้พวกเขาทำที่ขึงผ้าห่มได้
เมื่อทุกอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างราบรื่น Allen West ก็ลงมือทำที่แขวนผ้าห่มเพื่อใช้เป็นที่ทำงานลับสำหรับภารกิจหลบหนี
ตลอด 6 สัปดาห์ ที่นี่กลายเป็นสำนักงานของพวกเขา มันเป็นที่ประชุมวางแผนในแต่ละวัน และใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการแหกคุก
ในตอนต่อไป EP.2 แอดมินขอตั้งชื่อให้กับตอนนี้ว่า “The Mechanics” เราจะมาติดตามดูกลยุทธ์ และเทคนิคที่อาชญากรทั้ง 4 คน ใช้ในการวางแผนแหกคุกอย่างแยบยล ซึ่งมันมาพร้อมกับความโชคดี และโอกาสที่เป็นใจ ...ในตอนต่อไปจะมีอะไรให้ลุ้นกันบ้างนั้น อย่าพลาดติดตามกันนะครับ
อ้างอิงโดย :
เรียบเรียงโดย : Inspire Story
ถ้าหากเรื่องราวนี้ ช่วยสร้างแรงบัลดาลใจ หรือ สร้างความน่าสนใจให้กับท่านผู้อ่าน สามารถกดแชร์ และติดตาม Inspire Story เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ
โฆษณา