10 ส.ค. 2019 เวลา 00:00 • ไลฟ์สไตล์
Power nap การนอนระหว่างวัน และ 5 คำแนะนำเพิ่มเติม
การนอนหลับพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายมีอาการเหนื่อยล้า ไม่สดชื่น เครียด หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น และไม่สามารถทำงานได้ยาวนาน
จนทำให้เกิดการง่วงนอนขณะทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ จึงต้องมีการงีบระหว่างวันหรือที่เรียกกันว่า power nap เกิดขึ้น
เวลาที่เหมาะสมที่ควรงีบระหว่างวัน
นอนหลับ 10 – 20 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานและคืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองโปร่ง เพราะอยู่ในช่วง non – rapid eye movement (NREM)
นอนหลับ 30 นาที เป็นเวลานอนที่ไม่เป็นผลดีกับร่างกาย เพราะจะยังคงรู้สึกง่วง มึนงง เหมือนกับนอนไม่พอ และยังคงไม่พร้อมที่จะทำงาน ซึ่งกว่าอาการนี้จะหายไปก็ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีต่อมา
นอนหลับ 60 นาที เป็นช่วงที่ดีต่อความจำ ซึ่งเรียกว่าอยู่ในช่วง Slow – wave sleep เป็นการหลับลึกที่ยังคงความง่วง แต่สมองสามารถเสริมความจำดีไว้ได้
นอนหลับ 90 นาที เป็นการนอนที่ครบรอบ กล่าวคือ มีหลับลึกและไม่ลึกมากนัก อาจมีการฝันบ้าง ช่วยให้อารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่งัวเงียเหมือนช่วง 30 – 60 นาที
จากผลวิจัยพบว่าการใช้เวลางีบระหว่างวันเกินกว่า 30 – 45 นาที หรือการงีบช่วง 11.00 น. นอกจากจะไม่ส่งผลดีกับร่างกายแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียตามมาอย่างเช่นทำให้ช่วงกลางคืนนอนไม่หลับ และอาจมีปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย
ดังนั้นการงีบระหว่างวันควรอยู่ในช่วงบ่าย 15.00 – 18.00 น. โดยใช้เวลาหลับแค่เพียง 10 นาทีเท่านั้น จะสามารถตื่นตัวพร้อมที่จะทำงานต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมง
และยังพบว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการนอนหลับนาน
30 นาที - 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ประสิทธิภาพของร่างกายแต่ละคนก็มีผลถึงความต้องการการงีบระหว่างวัน
บางคนไม่จำเป็น บางคนก็ต้องการเพียงเล็กน้อยหรือต้องการหลับไปนานๆ เลยก็มีเช่นกัน
ข้อดีของการงีบระหว่างวัน
Power nap
ก่อให้เกิดการตื่นตัวทั้งด้านสมองและร่างกายในการทำงาน มีความกระตือรือร้น อาการร่วงโรยต่างๆ จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ลดความเครียดหรือความหงุดหงิด เป็นการผ่อนคลายสมอง เพราะการหลับจะช่วยลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดได้
ทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการจำได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น
การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า 40% การทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์จะทำได้ดีและมีความพร้อมมากขึ้น
สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากการงีบระหว่างวันจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
5 คำแนะนำ สำหรับการ power nap
1.การงีบหลับไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน
สำหรับการงีบระหว่างวัน คนที่ไม่ควรงีบหลับ คือคนที่เป็นโรคนอนไม่หลับหรือมีปัญหาในการนอนตอนกลางคืน
ซึ่งการงีบหลับอาจเป็นความคิดที่ไม่ดี มันอาจสร้างความสับสนให้กับนาฬิกาของร่างกาย 1ทำลายกิจวัตรประจำวันที่ผิดปกติไป
2 .ระยะเวลาเป็นสิ่งสำคัญ
กุญแจสำคัญในการงีบหลับที่ประสบความสำเร็จคือระยะเวลา มากเกินไปจะนำคุณเข้าสู่โหมดทำให้คุณเหนื่อยล้าและสับสนหลังจากนั้นมีน้อยเกินไปแต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ผู้เชี่ยวชาญบอกเราว่าการชาร์จพลังในระหว่างการงีบหลับนั้นทำได้โดยเริ่มจากการนอนหลับในระยะที่ 1 (ความรู้สึกล่องลอย) ไปจนถึงขั้นที่ 2 (การทำงานของสมองช้าลง)
ไม่แนะนำให้นอนไปจนถึงขั้นต่อไป ดังนั้นกทรนอนควรใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ในคนส่วนใหญ่ ซึ่งนั้นเป็นเวลาที่เหมาะ
3.การจับเวลาเป็นทุกอย่าง
เวลาในการงีบหลับของคุณนั้นสำคัญมากดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องเท่านั้นที่เราปรึกษากับคนที่ทำได้ดีที่สุด
“Siesta” เป็นคำเรียก วัฒนธรรมการงีบหลังเที่ยงที่มีมายาวนานในหลายประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน
“Siesta” ภาพจาก https://barcelonaexclusiveprivatetours.com/blog/a-brief-history-of-the-spanish-siesta
นั้นหมายถึงเวลาที่เหมาะช่วงเที่ยงหลังอาหารกลางวันและก่อน 15.00 น. จากการหมดพลังหลังอาหารกลางวัน
อย่าปล่อยให้นานเกินไป การหลับหลังจาก 15.00 น.
อาจส่งผลเสียต่อการนอนหลับตอนกลางคืนของคุณ
4.ค้นหาสถานที่ที่เหมาะของคุณ
เราไม่สามารถทนความง่วงได้ แต่ในการป้องกันเรา
การเลือกสถานที่เหมาะกับการงีบเป็นสิ่งที่จริงจัง
ควรหาสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกรบกวนน้อยกว่า
หากคุณสามารถนอนราบได้จะดีกว่าการงีบบนเก้าอี้
แม้แต่เก้าอี้ทำงานที่ปรับเอนได้ก็สามารถทำงานได้เช่นกัน และควรหาหูฟังลดเสียงรบกวน มันสามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างดี ไม่จำเป็นต้องแบบครอบหูก็ได้
5.ทิ้งความวุ่นวายให้หมดไป
ก่อนที่คุณจะงีบหลับกำจัดสิ่งรบกวนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปิดแล็ปท็อปหรือมือถือของคุณ ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคุณมีโทรศัพท์บ้านก็ควรโอนสายหรือพักสาย
หากคุณมีผู้ช่วยหรือเลขาบอกพวกเขาว่าคุณอยู่ในช่วง
"ห้ามรบกวน" เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนเวลานอนของคุณ
เพิ่มเติมการ Napuchino
สิ่งที่คุณอาจจะไม่เชื่อ การดื่มกาแฟก่อนงีบหลับฟังดูเป็นความคิดที่แปลก ไม่เข้ากันอย่างไรก็ตามมีเหตุผลทางสรีรวิทยาที่ทำให้มันสมบูรณ์แบบ
คาเฟอีนไม่ได้ทำงานทันทีแต่จะใช้เวลาประมาณ 20-45 นาทีในการเริ่มทำงาน
ดังนั้นหากคุณดื่มกาแฟก่อนที่จะงีบหลับ ตอนช่วงกาแฟเริ่มทำงานมันจะปลุกตัวคุณให้ตื่นขึ้น และคุณจะรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น
ถ้าชอบอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะไม่พลาด content ที่น่าสนใจต่อไป
โฆษณา