6 ส.ค. 2019 เวลา 04:15 • ธุรกิจ
ปัญหาของฮ่องกงที่เกิดการประท้วงครั้งใหญ่
ถึงแม้เรื่องกฏหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนถูกหยิบยกมาเป็นชนวน แต่ลึกๆแล้ว ปัญหาที่แท้จริงคือ สภาวะเศรษฐกิจ สภาพความเป็นอยู่ การแข่งขันในการทำงาน
สมัยเด็ก 30 ปีก่อน ผมเคยไปฮ่องกง ยุคนั้นผู้คนก็ยังดูปกติเหมือนๆย่านเยาวราช การค้าการขายก็ดูไม่ต่างจากบ้านเรา เรียกว่า บ้านๆ ญาติผมเป็นครอบครัวก็อยู่แฟลตแออัดกัน 7-8 คน
แต่ด้วยความที่ฮ่องกงถูกวางเป็นศูนย์กลางการค้าภูมิภาคเอเชีย ผู้คนจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้าไปซื้อขายกันที่ฮ่องกง เนื่องจากภาษีนำเข้าส่งออกถูก ญาติผมที่ทำการค้าก็รวยขึ้นมากันหมดแค่ไม่กี่ปี
ใครทำการค้าต่างประเทศที่ฮ่องกงยุคนั้น ผมเห็นรวยกันระดับ 100 ล้านบาทอัพๆ กันหมด (100 ล้าน 25 ปีก่อนนี่สมัยนี้ไม่รู้เท่าไหร่)
ยิ่งช่วงที่จีนเริ่มกลายเป็นโรงงานของโลก เศรษฐกิจฮ่องกงก็ดูคึกคักกลายเป็นเกทเวย์ไปสู่เมืองจีน ด้วยนโยบายของจีนที่ให้นำสินค้าออกได้แต่ห้ามนำเงินออก ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นตลาดซื้อขายทั้งขาวทั้งดำเยอะแยะไปหมด ผมเองยังเคยเข้าใจว่าคนฮ่องกงทุกคนรวยกันหมด เพราะญาติที่ฮ่องกงมาไทยแจกเงินกันว่าเล่น
แต่พอปี 1997 ที่ฮ่องกงคืนจีน เศรษฐีฮ่องกง ต่างขนเงินย้ายไปต่างประเทศเพื่อดูท่าทีรัฐบาลจีน ส่วนใหญ่ไปอยู่แคนาดา ส่วนคนฮ่องกงที่ยังไม่รวยก็ติดอยู่ที่ฮ่องกง
แต่รัฐบาลจีนไม่ได้ยึดฮ่องกงแต่ใช้ระบบ 1 ประเทศ 2 ระบอบ ทำให้ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่จีนเริ่มผงาดเป็นโรงงานโลก เม็ดเงินการลงทุนยิ่งหลั่งไหลเข้าฮ่องกง เศรษฐีต่างๆ ก็เลยทยอยกลับฮ่องกงกัน ทำให้เศรษฐกิจร้อนแรงมาก ค่าแรงคนมีความรู้ก็กระโดดสูงมากๆ เป็นเรทฝรั่งกันหมด ซึ่งมันดูเหมือนดีมากๆ
2
แต่ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ เพราะค่าแรงขั้นต่ำฮ่องกง ยังอยู่ที่แค่ 25,000 - 30,000 บาท ในขณะที่ต่างประเทศแห่กันเข้ามาจ้างคนเงินเดือนหลักแสนถึงหลายแสน ในอาชีพด้านการเงิน กฏหมาย การค้า รวมทั้งแห่กันมาตั้งถิ่นฐานในฮ่องกง ทั้งจาก ญี่ปุ่น ยุโรป เมกา กลายเป็นศูนย์รวมชาวโลกอย่างรวดเร็ว
1
ช่องว่างรายได้ตรงนี้ถ่างจนทำให้สินค้าและบริการในฮ่องกงแพงขึ้นๆ แต่ที่แพงกว่าคือปัจจัยพื้นฐานเช่น "ที่อยู่อาศัย"
ถึงแม้ว่าค่าแรงคนฮ่องกงจะถูกปรับเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันเกือบ 4 หมื่นบาทต่อเดือน แต่บ้านกลับแพงขึ้นมากๆ เพราะคนรวยนั้นมีเครดิตและเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกว่า 2% ทำให้เศรษฐีซื้อบ้านมาปล่อยเช่ากินส่วนต่างอย่างสบายๆ โดยค่าเช่าบ้านฮ่องกง เริ่มต้นที่เดือนละ 40,000 - 100,000++ นี่คือห้องคอนโดธรรมดาขนาดไม่เกิน 30 ตรม. ด้วยค่าเช่าที่แพงขนาดนี้ ปริมาณที่จำกัด ทำให้ราคาบ้านฮ่องกงพุ่งไม่หยุด ห้อง 30 ตรม.นี่ราคา 50 ล้านบาทยังเอาไม่อยู่เลย
ทาวเฮ้าส์ 20 ตรว.แบบบ้านเราในย่านดีๆ นี่ราคาพุ่งไป 500 ล้านครับ (หืมมม ตอนญาติพาไปดูเล่นๆ ผมยังไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์เรายอมจ่ายเงิน 500 ล้านเพื่อบ้านเท่ารูหนูแบบนี้)
ซ้ำร้ายเศรษฐกิจจีนที่ร้อนแรงก็ทำให้คนจีนแห่เข้ามาค้าขายในฮ่องกงทุกรูปแบบ และแรงงานก็หลั่งไหลเข้ามาอยู่อาศัยแย่งงานชั้นล่างอีก ทำให้คนรุ่นใหม่ของฮ่องกงหางานทำยากกก
งานระดับบนก็เจอชาวต่างชาติแย่ง ระดับล่างเจอจีนแย่ง ค้าขายเล็กๆ ก็สู้ชาวจีนเสิ่นเจิ้นไม่ได้ ถึงแม้โชคดีได้ทำงานแรงงานขั้นต่ำจนตายก็แทบจะไม่มีปัญญาซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เต็มที่ก็ซื้อคอนโด นำห้องที่ซื้อคอนโด 30 ตรม มาซอยเป็น 6 ห้องขายให้ ก็ยังไม่รู้จะซื้อได้รึเปล่าเลย ส่วนชนชั้นกลางเงินเดือนหลักแสนจะซื้อคอนโด 50 ล้านก็ไม่มีปัญญาซื้อ ต้องเงินเดือนหลักสามแสนขึ้นถึงพอจะซื้อที่อยู่อาศัยได้ คนส่วนใหญ่จึงเช่าอยู่เอาแทน
ความแตกต่างระดับนี้ผมว่าฮ่องกงเป็นกรณีศึกษาที่แรกๆ ของโลกที่มันต่างจนแทบจะสวรรค์กับนรก แต่มันไม่ใช่ความต่างของคนจนกับคนรวย แต่เป็นความต่างของคนโคตรรวยกับคนชั้นกลาง ซึ่งอนาถกว่า
คือถึงมึงจะขยันทำงาน มีความรู้ แต่ก็ยังมีชีวิตที่ดีไม่ได้ง่ายๆ เลย
ช่วงหลังผมไปฮ่องกง รถหรูเต็มไปหมด น่าสงสัยว่าบรรดารถหรูเหล่านี้คนฮ่องกงเป็นเจ้าของสักกี่เปอร์เซ็นต์
ความเชื่อผมที่ว่าคนฮ่องกงรวยทุกคน พอไปเห็นที่อยู่อาศัยที่คนอาศัยกัน ถึงรู้ว่าคนฮ่องกงที่จนก็เยอะมากๆ ถึงแม้คนรวยจากยุคเฟื่องฟูจะเยอะก็เถอะ
ในขณะที่คนหนุ่มสาวทั่วไปดันซวยที่แค่เกิดมาทีหลังก็แทบจะไม่เหลือโอกาสให้มีปัจจัยพื้นฐานง่ายๆ อย่าง"ที่อยู่อาศัย"เลย นอกจากคุณเก่งจริงๆ ถ้าทำงานแค่ค่าแรงขั่นต่ำ คุณอาจจะต้องไปแชร์ห้องกรงหมารวมกับคนอื่นแทน
ในทางตรงข้ามลูกหลานของคนฮ่องกงที่รวยแล้วนั้น เขาสามารถหาเงินได้ง่ายจากต้นทุนการเงินที่ต่ำเรี่ยดิน ได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าคนชั้นกลางอีก
กระแสความไม่พอใจรัฐบาล ความไม่พอใจจีน จึงรวมสะสมมาเป็นสิบปีในช่วงที่ฮ่องกงก้าวกระโดด และวันนี้มันแค่ระเบิดออกมาเพราะชนวนมันเข้ามือพอดี เราจึงเห็นภาพคนเป็นล้านเข้าร่วมชุมนุม จากประชากร 7 ล้านคนทั้งเกาะ ซึ่งผู้เข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่อัดอั้นตันใจจากสภาวะชีวิตแสนยากลำบากในฮ่องกง ไม่ว่าเหตุผลคืออะไร ฮ่องกงจะไม่สงบง่ายๆอีกแล้ว
1
ฮ่องกงก็เป็นอีกตัวอย่างของการล่มสลายของทุนนิยม -- ชนชั้นกลางก็ไปไม่รอด
1
เพราะ assets อยู่ในมือคนรวยหมด ชนชั้นกลางเข้าไม่ถึงบ้านคอนโดที่ราคาสูงลิบลิ่ว เพราะการปั่นราคาของเงินที่สร้างขึ้นมาอย่างไม่จำกัด ค่าเช่าคอนโดอย่างเดียวก็ตายแล้ว”
พวกเราอ่านแล้วมองเห็นอะไรบ้าง และจะป้องกันอย่างไรมิให้บ้านเรากลายเป็นแบบนั้นในอนาคต
ข้าพเจ้าคิดว่ารัฐบาลควรมองเรื่องอย่างนี้ให้มากด้วย เพราะขณะที่เราเปิดประเทศต้อนรับคนต่างชาตินั้น มีอะไรที่จะทำร้ายคนไทยทั้งในวันนี้และวันหน้าไทยบ้าง และควรป้องกัน แก้ไขวรวรรณ
โฆษณา