Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Krisin Indy
•
ติดตาม
6 ส.ค. 2019 เวลา 11:29 • การศึกษา
กรณีศึกษาการขอพร ของ พระนางผุสดี กับพระเวสสันดร
เวสสันดรชาดกเป็นหนึ่งในทศชาติ(10ชาติ)ว่าด้วยการบำเพ็ญทานบารมีของพระเวสสันดร ซึ่งเป็นชาติสุดท้ายก่อนจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า
เนื้อความของเวสสันดรชาดก กล่าวถึงการบริจาคทานของพระเวสสันดร จนในที่สุดต้องถูกไล่ออกจากพระราชวัง
ไปอยู่ป่าและในที่นั้นพระองค์ก็ได้บริจากพระโอรสและพระธิดาแก่พราหมณ์และบริจากพระชายาแก่พระอินทร์ อันเป็นการบำเพ็ญทานที่ทำได้ยากยิ่ง และเป็นที่มาของคติโพธิสัตว์ที่ว่า
ถ้าหากจะบำเพ็ญเพียรเพื่อความเป็นพระโพธิสัตว์ต้องสามารถสละได้ทุกสิ่งโดยไม่เว้นแม้กระทั้งชีวิตของตนเอง
ก็ให้ได้
แต่ที่ผมสนในมากๆเป็นกรณีพิเศษคือการอธิษฐานขอพระนางผุสดีซึ่งเป็นแม่ของพระเวสสันดร
และการอธิษฐานของพระเวสสันดร
เรื่องมีอยู่ว่า
ก่อนพระเวสสันดรจะได้เกิดเป็นมนุษย์แม่ของพระเวสสันดรเป็นเทพธิดาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ชื่อเทพธิดาผุสดี เมื่อหมดบุญจากเทพธิดาบนสวรรค์จะต้องมาเกิดที่เมืองมนุษย์ นางได้ทูลขอพร10 ข้อ จากพระอินทร์
ซึ่งเป็นพระสวามีในขณะนั้น ได้แก่
1. ขอให้ได้ประทับในปราสาท พระเจ้าสีวีราษฎร์
2. ขอให้ดวงเนตรทั้งสองดำมีสีดำ ประดุจลูกตาเนื้อทราย
3. ขอให้พระขนง(คิ้ว)เขียวดุจสร้อยคอนกยูง
4. ขอให้มีนามว่าผุสดี เช่นเดิม
5. ขอให้มีพระโอรสที่ทรงเกียรติยิ่งกว่ากษัตริย์ทั้งหลายและ
มีพระราชศรัทธาในการกุศล
6. ขออย่าให้พระครรภ์ปรากฎนูนดังสตรีสามัญ
7. ขออย่าให้พระถัน(นม)ทั้งคู่ดำในเวลาทรงครรภ์และเมื่อ
ประสูตรแล้วขออย่าหย่อนยาน
8. ขอให้พระเกศดำเป็นมันดุจปีกแมลงค่อมทอง
9. ขอให้มีพระฉวีวรรณละเอียดดั่งทองคำธรรมชาติ
10.ขอให้ทรงมีอำนาจปล่อยนักโทษประหารชีวิตให้พ้นโทษ
พระอินทร์ก็ประทานพร ๑๐ ประการนั้น แก่นาง ตามที่ขอ เมื่อเทพธิดาผุสดีได้รับพรจากองค์อินทร์แล้ว
จึงจุติลงมาบังเกิดในโลกมนุษย์ เป็นราชธิดาของพระเจ้ามัททราช ต่อมาได้รับอภิเษกเป็นมเหสี ของพระเจ้าสญชัยแห่งสีพีรัฐนคร ได้ประสูติพระโอรสองค์หนึ่ง
ซึ่งพระประยูรญาติถวายพระนามว่า พระเวสสันดร
พระเวสสันดรมีอัธยาศัยดีงาม มีน้ำพระทัยมากด้วย เมตตากรุณา บริจาคทานเนืองนิตย์ พระองค์ทรงบริจาคทุกอย่าง
ที่คนขอมา
ครั้นทรงมีพระชนมายุได้ ๑๖ พรรษา ได้อภิเษกสมรสกับพระนางมัทรี พระราชธิดาของราชวงศ์กษัตริย์มัททราช มีพระโอรส ๑ องค์ พระนามว่า ชาลี และพระธิดาอีก ๑ องค์ พระนามว่า กัณหา
ด้วยทรงมีน้ำพระทัยมากไปด้วยเมตตากรุณานี้เอง
ครั้งหนึ่งได้ประทานช้างเผือกคู่บ้านคู่เมือง เหตุเพราะพระมหากษัตริย์ แห่งกาลิงครัฐทรงส่งพราหมณ์มาทูลขอเพื่อนำไปเป็นสิริมงคลแก่เมืองกาลิงคะ ที่ฝนแล้งมานานหลายปี พระเวสสันดรก็ประทานช้างชื่อว่า ช้างปัจจัยนาค ใรหมณ์ม
การบริจาคครั้งนี้ ทำให้ประชาชนเมืองสีพี ไม่พอใจพระองค์อย่างมาก พากันเข้ากราบทูลขอให้พระเจ้าสญขัยขับไล่พระเวสสันดรออกจากบ้านเมืองไปเสีย พระราชบิดาจึงต้องจำพระทัยเนรเทศตามมติของประชาชน
พระนางมัทรี กับชาลี กัณหา พระโอรสธิดาทั้งสองพระองค์ ก็พากันออกจากพระนครไปตามพระเวสสันดรด้วย
แต่ก่อนจะออกจากพระนคร พระเวสสันดรยังทูลขอพระราชทานโอกาสยับยั้งอยู่เพื่อบำเพ็ญสัตตกมหาทาน
คือ การบริจาคสิ่งของเป็นทานใหญ่ 7 อย่าง อย่างละ 700
มี 1.ช้าง 700 ตัว 2.ม้าอาชาไนย 700 ตัว 3.โคนม 700 ตัว 4. ทาสหญิง 700 คน 5. ทาสชาย 700 คน
6. ราชรถ 700 คัน 7. นางสนม(หญิงผู้ดีมีสกุล) 700 นาง
จากนั้นก็ทรงพาพระนางมัทรีไปทูลลาพระชนกและพระชนนี เพื่อออกไปบำเพ็ญพรตเป็นฤาษีและฤาษิณีอยู่เขาวงกต
แม้พระเจ้ากรุงสญชัยจะขอให้พระนางมัทรีกับพระโอรสและพระธิดาอยู่ แต่พระนางมัทรีก็ไม่ทรงยอม ทั้งไม่ทรงยอมให้พระโอรสและพระธิดา อยู่ด้วย
1
ขณะที่พระเวสสันดร พระนางมัทรี พร้อมด้วยพระโอรสและพระธิดาทั้งสอง เสด็จออกพระนครด้วยรถม้าพระที่นั่ง ยังไม่ทันพ้นเขตชานพระนคร
ก็มีพราหมณ์วิ่งตามมาทูลขอรถม้าพระที่นั่ง พระเวสสันดรก็ประทานให้แล้วทั้ง2พระองค์ต่าง ก็ทรงอุ้มพระโอรสพระธิดาเข้าสู่ป่าใหญ่ด้วยพระบาท โดยตั้งพระทัยไปเขาวงกต
ทั้งสี่พระองค์ได้ผนวชเป็นฤาษีและฤาษิณี บำเพ็ญพรตอยู่ในอาศรมเป็นเวลานับได้ ๗ เดือน
ชูชกก็ตามาขอพระโอรสและพระธิดาเพื่อไปเป็นทาสให้กับเมียตัวเอง พระเวสสันดระลึกถึงการบำเพ็ญทานที่ยิ่งใหญ่ก็ยกให้ลูกทั้งสอง ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพระองค์พระองค์แก่ชูชกไป
พร้อมกับทรงตั้งราคาค่าไถ่พระโอรสและพระธิดาไว้สูงมาก เมื่อพระนางมัทรีทราบเรื่องก็ทรงเสียพระทัย เศร้าโศกอย่างมากมายมหาศาลนัก พระเวสสันดรทรงปลอบประโลมให้สร่างโศก
แล้วชี้แจงถึงการบำเพ็ญทานบารมีของพระองค์ พระนางจึงเข้าใจจึงอนุโมทนาการบริจาคที่กระทำได้แสนยากครั้งนี้ด้วย
เมื่อวานให้ทานลูกทั้งสอง ซึ่งเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ และ วันนี้พระอินทร์จำแลง แปลงเพศเป็นพราหมณ์เข้ามาทูลขอพระนางมัทรีกับพระเวสสันดรอีก
ฝ่ายพระเวสสันดรถึงแม้จะทรงรักพระนางมัทรีดังดวงเนตร แต่เพื่อให้การบำเพ็ญบารมี อันเป็นหนทางไปสู่พุทธภูมิสมบูรณ์ จึงยอมสละพระนางมัทรี พระนางมัทรีเองเมื่อเข้าใจเป้าหมายดังกล่าว ก็อนุโมทนาด้วย ถึงแม้จะต้องจากพระสวามีไปก็ตาม
ฝ่ายพระอินทร์แปลงกายรับแล้วก็ถวายพระนางมัทรีคืนแก่พระเวสสันดร เพื่อปรนนิบัติพระองค์ ให้ถึงจุดหมายปลายทาง
แล้วจึงแสดงตนว่าเป็นพระอินทร์ จำแลงแปลงกายมา แล้วอนุญาตให้พระเวสสันดรทูลขอพรได้ตามต้องการ
พระเวสสันดรทูลของพร ๘ ประการจากพระอินทร์ ดังนี้
1. ขอให้พระบิดาหายโกรธ และออกมารับกลับเข้าเมือง
2. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษพ้นจากพันธนาการ
3. ขอให้มีพระราชทรัพย์ เพื่อพระราชทานแก่คนยากจน
4.ขอให้อย่าลุอำนาจสตรี ประพฤติผิดในภรรยาของผู้อื่น
5.ให้มีพระโอรส มีเกียรติยศ ปราบข้าศึกศัตรูให้พ่ายแพ้
ได้ทุกครั้ง
6.ขอให้ฝนแก้ว 7 ประการตกลง ประทานความ อยู่เย็น
เป็นสุขทั่วพระนคร
7.เมื่อสวรรคตแล้ว ขอให้อุบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต จากนั้น
8. ขอให้จุติในโลกมนุษย์ เพื่อบรรลุพระอนุตตรสัมมา.
สัมโพธิญาณในอนาคตกาล
เมื่อพระอินทร์ได้ประทานพรให้ตามพระเวสสันดรแล้วก็เสด็จกลับเทวโลก
ฝ่ายชูชกได้พาพระชาลีกุมารและพระกัณหากุมารี หลงทางเดินแทนที่จะพากลับบ้านกลับกลายเป็นมุ่งหน้าเข้าสู่นครสีพี
พระเจ้ากรุงสญชัยทรงทราบข่าวและรายละเอียดทุกอย่าง จึงสั่งให้เบิกพระราชทรัพย์มาไถ่พระชาลีกุมารและพระกัณหากุมารีตามราคาที่พระเวสสันดรตั้งไว้
พร้อมทั้งพระราชทานทรัพย์อื่น ๆ แก่ชูชกอีกเป็นจำนวมาก ฝ่ายชูชก โลภมาก บริโภคอาหารจนเกินพอดี
ทำให้อาหารไม่ย่อย และสิ้นใจตายในที่สุด
พระเจ้ากรุงสญชัยจึงรับสั่งให้จัดเหล่าโยธากระบวนทัพพาไพร่พลมุ่งไปยังเขาวงกต เพื่ออัญเชิญพระเวสสันดร และ พระนางมัทรีกลับคืนสู่พระนคร
ขณะนั้น ฝ่ายพระเจ้ากาลิงคะก็โปรดให้พราหมณ์นำช้างปัจจัยนาคมาคืน พระเจ้า กรุงสญชัยจึงรับสั่งให้นำช้างปัจจัยนาคเข้ากระบวนทัพด้วย
เมื่อกษัตริย์ทั้งหกพระองค์ คือ พระเจ้ากรุงสญชัย พระนางผุสดี พระเวสสันดร พระนางมัทรี พระชาลีกุมาร และพระกัณหากุมารี พบกันกลางป่าใหญ่
ก็บังเกิดความดีใจและเสียใจพร้อม ๆ กัน ได้ทรงกันแสงจนถึงวิสัญญีภาพ คือสลบไปทุกพระองค์ พระอินทร์จึงทรงดลบันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงในที่ประชุมนั้น ทำให้กษัตริย์ทั้งหกต่างฟื้นคืนสมปฤดีแล้ว
พระเจ้าสญชัยได้พระราชทานอภัยโทษจากพระเวสสันดรและทูลเชิญพระเวสสันดรกลับคืนสู่พระนคร
ในที่สุด พระเวสสันดรและพระนางมัทรี ก็ลาจากผนวชแล้วเสด็จกลับสู่พระนครสีพีด้วยพระเกียรติยศอันยิ่งใหญ่
และต่อมาได้เสด็จเถลิงราชสมบัติปกครองพระนครสีพีโดยทศพิธราชธรรม ทำให้ประชาชนได้รับสันติสุขตลอดพระชนมายุ เมื่อพระเวสสันดรสิ้นพระชนม์แล้วก็ไปบังเกิดเป็น สันดุสิตเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิต
เรื่องพระเวสสันดรจบลงแต่เพียงเท่านี้ แต่ที่ผมสนใจ คือ
1.ทั้งสองแม่ลูก ได้ขอพรจากพระอินทร์องค์เดียวกันหรือไม่
2.การจะได้รับพรตามที่ขอพรนั้น ต้องสร้างบารมีให้ถึงที่สุดก่อนใช่ หรือไม่
3.ในฐานะปุถุชน ผมชอบการขอพรข้อที่ 3 ของพระ.
เวสสันดรมากที่สุด
4. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวว่าของผมเอง ถ้าปรารถนาจะสร้างบารมี ให้สูงขึ้น จะต้อง เด็ดเดี่ยวตั้งใจ อธิษฐานจิต ให้แน่วแน่
จริงๆแล้ว เรื่องการขอพรของพระนางผุสดีและพระเวสสันดรมีแง่มุม ให้พูดถึงกล่าวถึงในหลายๆแง่มุม ก็แล้วแต่ ท่านผู้อ่าน จะมอง
ท่าน สามารถวิเคราะห์แสดงทัศนคติหรือมุมมอง ร่วมกันได้ครับเพื่อที่ผมจะได้ศึกษาไปพร้อมพร้อมกับท่านผู้อ่านด้วย
ขอบคุณภาพต้นฉบับ
http://www.larnbuddhism.com
ขอบคุณ ข้อมูลจาก หนังสือ พระเจ้าสิบชาติ : สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง
www.lc2u.com
1 บันทึก
21
3
5
1
21
3
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย