6 ส.ค. 2019 เวลา 11:33 • ประวัติศาสตร์
ในช่วงเวลาก่อนที่โครงการอะพอลโล 11 จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ช่วงปี 1957-1958 สหรัฐอเมริกาก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้ทางการแข่งขันเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางอวกาศกับสหภาพโซเวียตอย่างต่อเนื่อง
นั่นเพราะในช่วงเวลานั้นไม่เพียงแต่โซเวียตจะสามารถปล่อยดาวเทียมสปุตนิกได้ก่อนเท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถส่งสุนัขอย่างเจ้าไลก้าขึ้นไปบนอวกาศก่อนที่สหรัฐฯ จะสามารถส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นไปได้สำเร็จด้วยซ้ำ
ในปี 1957 ไม่นานหลังจากการปล่อยดาวเทียมสปุตนิกสำเร็จ สหรัฐฯ ก็ปล่อยจรวดแวนการ์ดบ้าง แต่ก็จบลงด้วยความผิดพลาดและเสียงระเบิด
ความกดดันและความรู้สึกฝ่ายแพ้เหล่านี้เองทำให้ในเวลาที่สหรัฐอเมริกาปล่อยดาวเทียมได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในเดือน มกราคม ปี ค.ศ. 1958 พวกเขาจึงต้องมองหาหนทางที่จะกู้ชื่อเสียงด้านอวกาศของประเทศกลับมา
และนี่ก็คือช่วงเวลาสั้นๆ ที่สหรัฐฯ ให้กำเนิดโครงการลับสุดระห่ำอย่าง “Project A119” ขึ้น
โดยเจ้าโครงการนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า “A Study of Lunar Research Flights” และมีเป้าหมายอยู่ที่การจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์บนดวงจันทร์ เพื่อการศึกษาผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ต่อดวงดาว และศึกษาแสงจากแรงระเบิดเมื่อมองจากบนโลก
นี่อาจจะเป็นโครงการที่ฟังดูเหมือนหลุดออกมาจากทฤษฎีสมคบคิด แต่ในช่วงเวลาหนึ่งทางรัฐบาลสหรัฐก็จริงจังกับมันมาก ถึงขนาดที่มีการรวบรวมนักวิทยาศาสตร์มาเพื่อคำนวณจุดตก ประเภทของระเบิดที่ใช้ (ในตอนแรกพวกเขาคิดจะใช้ระเบิดไฮโดรเจน) และปริมาณฝุ่นควันที่อาจจะเกิดขึ้นจากแรงระเบิดเลย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเป้าหมายที่แท้จริงที่สหรัฐฯ อยากยิงนิวเคลียร์ใส่ดวงจันทร์นั้นคงจะไม่ใช่เพื่อการศึกษาอะไร แต่กลับกันมันเป็นเพราะพวกเขาอยากจะแสนยานุภาพเพื่อปลุกใจคน ในขณะที่อาศัยปฏิกิริยาหลังการระเบิดเพื่อป้องกันไม่ให้โซเวียตเดินทางลงจอดบนดวงจันทร์ได้ง่ายก็เท่านั้น
นับว่าโชคดีมากที่สุดท้ายแล้วโครงการอันนี้ก็ถูกยกเลิกไปในปี 1959 ด้วยเหตุผลว่าการยิงนิวเคลียร์ใส่ดวงจันทร์อาจนำมาซึ่งความไม่พอใจของผู้คนบนโลก และการชิงตัดหน้าของทางโซเวียตก็เป็นได้ ทำให้โครงการนี้ยังถูกจัดขึ้นและยกเลิกไปแบบเก็บเป็นความลับทั้งคู่ และแทบไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของมันเลย
กว่าที่เรื่องราวของโครงการนี้จะถูกเปิดเผยให้โลกได้ทราบจริงๆ มันก็ในช่วงยุค 1990s ซึ่งนักเขียนชื่อ Keay Davidson พบกับบันทึกเกี่ยวกับโครงการนี้ระหว่าง การตรวจสอบประวัติของนักวิทยาศาสตร์ชื่อ Carl Sagan ผู้มีส่วนร่วมในโครงการมาก่อน
และแน่นอนว่าในเวลานั้น โครงการนี้ก็กลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์ธรรมดาๆ อีกหน้าหนึ่งไปโดยสมบูรณ์แล้ว
ที่มา
โฆษณา