10 ส.ค. 2019 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
EP.068 - StockX - The Stock Market of Things
ผมได้ยินชื่อของ StockX มาระยะนึงแล้ว ตอนที่ได้ฟังครั้งแรกก็แบบ โอ้ว มีอะไรแบบนี้ด้วย แต่ก็ยังไม่ได้ได้เข้าไปศึกษาหาข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมากนัก
StockX
จนกระทั่งได้มาเห็นข่าวว่า StockX ได้รับเงินเพิ่มทุน Series C จำนวนถึง $110 ล้านดอลล่า เมื่อไม่นานมานี้ จนทำให้บริษัทกลายเป็น Unicon ที่มีมูลค่ามากกว่า $1 billion ไปอีกบริษัทนึง
ทำให้รู้ตัวว่า ปล่อยไว้เฉยๆไม่ได้เเล้ว ต้องดูเอาไว้หน่อยว่า อะไรทำให้มันน่าสนใจขนาดนี้ รวมถึงโมเดลการทำธุรกิจของเค้าเป็นอย่างไร วันนี้ผมจึงขอนำมาเล่าให้ฟังครับ
StockX ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 ที่เมือง Detroit หนึ่งใน Co-Founder Josh Luber เป็นผู้ที่ชอบสะสม Sneaker (รองเท้าผ้าใบ) มุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับ Resale Online Marketplace ที่จะเป็น Platform ในการซื้อขายรองเท้าผ้าใบของนักสะสมทั้งหลาย
รายงานจาก Cowen & Co. บอกเอาไว้ว่า มูลค่าตลาดของ Sneaker Resale Market จะโตขึ้นไปถึงประมาณ $6 billion หรือ เกือบสองแสนล้านบาทในปี 2025
StockX นั้น ในปัจจุบัน แบ่งกลุ่มสินค้าที่มีการซื้อขายอยู่ใน Platform ได้ 4 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ Sneaker / Handbags / Streetwear / Watches โดยมูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่นั้นยังคงเป็น Sneaker ซึ่งมูลค่าถึง 75% ของมูลค่าทั้งหมด
StockX
ว่ากันถึงเรื่องของ Business Model ของ StockX นั้น ต่างจากเจ้าตลาดเก่าอย่าง Ebay ที่ให้เจ้าของสินค้านำสินค้าที่มีมาตั้งประมูลขาย ผู้ซื้อที่เสนอราคาให้ดีที่สุดก็จะเป็นผู้ที่ได้ซื้อสินค้าชิ้นนั้นไป
กระบวนการของการขายของใน Ebay นั้น อาจจะเต็มไปด้วยความยุ่งยากซักนิดนึง เพราะผู้ขายจำเป็นต้องถ่ายรูปสินค้า และ คิดกระบวนการประมูลและระยะเวลาเพื่อที่จะขายของให้ได้ราคาดีที่สุด ส่วนฝั่งผู้ซื้อก็อาจจะมีความระแวงว่า ของที่ซื้อไปอาจจะเป็นของปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นได้
StockX ใช้วิธีที่ต่างออกไป โดยยืมไอเดียมาจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่มีความโปร่งใสและมีมาตรฐานที่เหมือนกันมากกว่า ทำให้ได้รับการยอมรับให้เป็น Platform ที่ได้รับความน่าเชื่อถือของทั้งฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อสินค้าเหล่านั้น
ฝั่งผู้ขายไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปสินค้าไปลงไว้ เพียงแค่ไปลงทะเบียนสินค้าที่ตัวเองต้องการจะขาย จากนั้นมีทางเลือกให้ 2 ทางคือ
1. ใส่มูลค่าของสินค้าที่เราจะขายทิ้งไว้ (Ask/Offer)
2. ตอบรับกับมูลค่าเสนอซื้อสูงสุดที่ผู้ซื้อตั้งทิ้งไว้ (Accept Bid)
StockX
ถ้านึกภาพไม่ออก ให้ลองนึกถึงตลาดหุ้นว่า เวลาเรามีหุ้น PTT อยู่ 100 หุ้น ถ้าหากเรามีความต้องการที่จะขายหุ้นนั้น ทางเลือกของเราก็มี 2 ทางเช่นกัน คือ ตั้ง Offer ทิ้งไว้รอให้คนมาเคาะ (เหมือนข้อ 1) หรือ โยนซ้ายขายทิ้งไปเลยในราคา Bid ที่สูงที่สุด (เหมือนข้อ 2)
เช่นเดียวกัน ฝั่งผู้ซื้อก็มีสามารถค้นหาสินค้าที่ตัวเองต้องการ จากนั้นก็มี 2 ทางเลือก คือ ตั้งราคาซื้อทิ้งไว้ หรือ เคาะซื้อสินค้าตามราคาที่เจ้าของสินค้าตั้งขายไว้
จากนั้น เมื่อ Deal มีการ Matching กันเเล้ว ผู้ขายมีเวลา 2 วันทำการที่จะส่งสินค้าไปยังสำนักงานของ StockX เพื่อรับรองว่า สินค้าอยู่ในสภาพตามที่ตกลงกันไว้และเป็นของแท้ โดยจะมีป้ายเขียวๆ Verified Authentic ห้อยติดไว้ จากนั้น StockX จะจัดส่งสินค้าไปให้ผู้ซื้อ และ โอนเงินให้กับผู้ขาย โดยเก็บค่าบริการ 10% ของดีลเป็นรายได้ของ StockX
StockX
การตรวจสอบแบบนี้ทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือของจากทั้งสองฝ่ายว่า สินค้าจะอยู่ในสภาพดีและเป็นของแท้แน่นอน
เพื่อนๆสามารถเข้าชมคลิปอธิบายวิธีการใช้งาน StockX ได้ที่นี่ >>>> http://bit.ly/2M7jNy2
นอกจากนี้ ใน Platform ของ StockX ยังมีข้อมูลมากมายให้ใช้งาน คล้ายๆกับในข้อมูลในตลาดหุ้นเลย เช่น จำนวนสินค้าที่ขายไปแล้วในรุ่นนี้ ราคาที่ซื้อขายล่าสุด ราคาในอดีตทั้งหมด หรือแม้แต่ ราคา Retail Price ที่ขายอยู่ตามร้านค้าทั่วไป ณ ขณะนั้น
รวมถึงผู้ใช้งานทุกคนสามารถมีพอร์ตของตัวเองได้เหมือนพอร์ตหุ้นด้วยการ List สมบัติของตัวเองเข้าไปในพอร์ตจำลอง โดยเราก็จะเห็นมูลค่าของสมบัติเราทั้งหลายเปลี่ยนไปทุกวันได้ตามราคาซื้อขายล่าสุดของสินค้าชนิดนั้น
StockX
แค่นั้น ยังไม่พอ StockX ยังไปยืมเข้าไอเดียของตลาดหุ้นที่น่าสนใจมาใช้ที่นี่อีก นั่นคือการ IPO, Initial Product Offering, ล้อเลียนกับการ IPO หุ้นเวลาบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดนั่นเอง
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้ทดลองการทำ IPO ไปแล้วครั้งนึง ด้วยการร่วมมือกับ Celebrity ชื่อดังอย่าง Ben “Baller” Yang และ Brand รองเท้า Straye ออกขายรองเท้าแตะรุ่นพิเศษจำนวนจำกัดแค่ 800 คู่
Business Insider
โดยจะใช้วิธีการ Blind Dutch Auction (คล้ายๆกับเวลาเราเคาะซื้อหุ้นตอนเปิดตลาด แต่ไม่มีการเปิดให้เห็น Bid ของคนอื่น) โดยในระยะเวลา 3 วัน มี Bid เข้ามาสูงถึง 10,439 Bid ซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ $50-$1,000,000
ราคาสุดท้ายที่มีการขายออกมาจริงๆนั้น แตกต่างออกไปตามสีและไซส์ของรองเท้า โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่คู่ละ $210
Business Insider
ผู้บริหารของ StockX บอกว่า นี่จะเป็นมิติใหม่ของการขายสินค้า Limited Edition ของวงการแฟชั่นทั่วโลก เพราะ ในเมื่อของมีจำนวนจำกัดและมีความต้องการอยู่ในตลาด ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า คนต้องการจ่ายถึง $210 ทำไมบริษัทต้องขายรองเท้าในราคาปกติที่ $70 ด้วย
หลังจากที่ดีลนี้ประสบความสำเร็จ ทำให้บริษัทผู้ผลิตรองเท้าและสินค้า Brand name ทั้งหลายก็จ้องกันตาเป็นมันเลยทีเดียว StockX คาดว่า จะมีดีล IPO สินค้าอีกหลายชนิดเข้ามาภายในสิ้นปีนี้
ส่วนตัวผมคิดว่า เป็น Business Model ที่น่าสนใจมาก ในการพลิกวิธีคิดของธุรกิจแบบเดิมๆ ตอกย้ำให้เห็นว่า โอกาสมีอยู่ในทุกๆที่ของแค่เรามีไอเดียที่ดีและลงมือทำอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
ชักจะเริ่มยาวไปละ เด๋วขอแวบไปดูหน่อยว่า กระเป๋าที่คนที่บ้านแอบไปซื้อไว้เนื้ยมีคนตั้ง Bid เอาไว้เท่าไหร่ ถ้าราคาดีจะได้แอบเอาไปขายซะเลย อิอิ
โฆษณา