ห้ามตีเด็ก แล้วผู้ใหญ่จะสอนเด็กอย่างไร?
ในหลาย ๆ ประเทศในโลกมีกฏหมายห้ามตีเด็กถึงแม้ว่าเราจะเป็นพ่อแม่เด็กก็ตาม แล้วอย่างนี้ที้บ้าน ที่โรงเรียนจะสอนเด็กให้เชื่อฟังเราได้อย่างไร
ยกตัวอย่างที่ประเทศ Netherlands นะคะ คนที่นี่จะให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ มาก เพราะเด็กคืออนาคตของชาติ
ซึ่งก็จริงนะคะถ้าตอนเด็ก ๆ เป็นคนมีความมั่นใจ มีความรู้ ความสามารถ กล้าตัดสินใจและคุณธรรมด้วยแล้ว โตขี้นไปเขาก็จะเป็นผู้ใหญที่ดี
พอเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต กิจการงานในบริษัทต่าง ๆ ก็ทำกันเต็มที่ เศรษฐกิจก็ดีเจริญรุ่งเรือง
เมื่อแต่งงานมีลูกมีหลานก็สอนลูกสอนหลานให้เป็นคนดีมีคุณภาพต่อ ๆ กันไปแบบรุ่นสู่รุ่น
ที่นี่เวลาผู้ใหญ่กำลังคุยกันแล้วมีเด็กเล็ก ๆ เดินเข้ามาถามโน่นถามนี่
พวกผู้ใหญ่จะหยุดคุยกันทันทีแล้วก็ตอบคำถามเด็ก ๆ ด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นจนกระทั่งเด็กเดินจากไปหรือหันเหไปทำอย่างอื่นผู้ใหญ่ถีงจะกลับมาคุยกันต่อค่ะ
เป็นการแสดงความสนใจต่อเด็ก ให้เด็กรู้สีกมีความมั่นใจในตนเอง รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นใจ
โดยที่เด็ก ๆ ไม่โดนขัดด้วยคำว่าอย่าทำ ไม่เอา เดี๋ยวก่อน หรือดุเด็ก เพราะหากทำอย่างนั้นอาจจะทำให้เด็ก ขาดความมั่นใจ รู้สึกกลัว ต่อไปอาจจะไม่กล้าพูด ไม่กล้าถามอีก
เวลาเด็ก ๆ อยากทำอะไร ผู้ใหญ่ไม่ขัดนะคะ จะเลอะ จะเปรอะ จะเล่นตามใจทุกอย่างแต่อยู่ในดุลพินิจและความดูแลของผู้ใหญ่
แต่ถ้าสิ่งไหนไม่ได้จริง ๆ ก็จะมีวิธีปฏิเสธเด็กแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นด้วยเหตุผลและการพูดที่สนุกสนาน ทำให้เด็ก ๆ ยอมรับและทำตาม
ที่โรงเรียนก็ทำเช่นเดียวกันค่ะ ยื่งช่วงอนุบาลนี่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษเพราะเป็นช่วงเวลาทองของแต่ละโรงเรียนเลยทีเดียว
เพราะเด็กจะรักการมาโรงเรียน รักคุณครู สนใจในสิ่งที่คุณครูสอน สนใจทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนก็ช่วงเวลานี้แหละค่ะ
พอเด็กเริ่มชินกับโรงเรียนก็จะเริ่มสอนเรื่องระเบียบวินัยเด็กเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปแบบเนียน ๆ โดยที่เด็กไม่รู้ตัว
เรื่องระเบียบวินัย มารยาทต่าง ๆ นี่ โรงเรียนจะสอนประมาณเบื้องต้นที่สำคัญ ๆ และสอนในส่วนของการอยู่ร่วมในสังคมค่ะ เช่นไม่เสียงดังจนเกินไป การต่อแถว ต่อคิว การช่วยเหลือกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นต้น
ส่วนเรื่องอื่น ๆ เป็นหน้าที่หลักของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ว่าจะสอนลูกอย่างไรให้มีเป็นคนดี มีน้ำใจ ตรงต่อเวลา รักษาความสะอาด การมีระเบียบวินัย และอื่น ๆ ที่มีความสำคัญ
เห็นไหมคะว่าสถาบันครอบครัวนี่มีค่ามีความสำคัญมากแค่ไหน หากผู้ใหญ่เป็นปูขาเก แล้วจะบอกจะสอนให้เด็ก ๆ เป็นปูเดินตรงนี่คงจะยากแน่ ๆ เลยเชียวค่ะ
การสอนเด็ก ๆ ที่ได้ผลดีที่สุดคือผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ เด็ก ๆ เห็นอย่างไรก็จะจดจำทำอย่างนั้นไปแบบไม่รู้ตัว นาน ๆ เข้ามันกลายเป็นนิสัยติดตัวไปจนโต
ผู้ใหญ่ที่นี่โดยส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย คุณครู หากกำลังอารมณ์ไม่ดีกันอยู่ พอเด็กเดินเข้ามาถามโน่นคุยนี่
สีหน้าทุกคนจะเปลี่ยนไปเป็นยิ้มแย้มแจ่มใสกันอย่างรวดเร็วราวกับเป็นดารา Hollywood กันเลยทีเดียว
ถ้าถามว่าทำได้ไงก็ต้องตอบว่ามันเกิดจากจิตสำนึกเรื่องการให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ เป็นอันดับแรกค่ะ
การถนอนน้ำใจเด็ก เอาใจใส่เด็ก ให้ความรักความอบอุ่นแก่เด็กเป็นสิ่งสำคัญมากนะคะ แถมยังเป็นการฝึกตัวเราให้ใจเย็นไปในตัวด้วย
เชื่อเถอะค่ะพอเราทำบ่อย ๆ มันก็จะกลายเป็นความเคยชินและได้ผลดีระยะยาวทั้งกับตัวเด็ก ครอบครัว สังคมและตัวเราเองด้วยนะคะ
สอนเด็กต้องสอนแบบเนียน ๆ มีเหตุมีผล บางครั้งปล่อยให้เด็กได้ลองผิดลองถูกบ้าง เด็กจะได้รับรู้ว่าทำอย่างนี้จะได้ผลอย่างไร คราวหน้าจะได้ไม่ทำอีกหรืออาจจะระมัดระวังให้มากกว่านี้
คนในประเทศนี้ส่วนใหญ่ช่างพูด ช่างถาม ช่างสังเกตุ กล้าคิด กล้าทำ กล้าลองผิดลองถูก ถ้าผิดก็ไม่โทษใครนะคะแต่จะรีบแก้ปัญหาแล้วเดินหน้าต่อค่ะ
การเรียนการสอนนอกจากเรื่องวิชาการแล้ว ที่นี่ยังสอนเรื่องการปฏิบัติจากสถานการณ์จริงควบคู่กันไปตั้งแต่อนุบาลเลยค่ะ
คุณอย่าแปลกใจนะคะถ้าจะบอกว่าเด็ก ๆ อนุบาลบางโรงเรียนกลับมาบ้านแล้วเล่าเรื่องประวัติศาสต์เมืองที่อาศัยอยู่ให้ฟังอย่างสนุกสนาน ได้สาระ ให้คุณพ่อคุณแม่ฟังได้อย่างถูกต้อง
เหตุเพราะโรงเรียนที่นี่มักจะพาเด็กนักเรียนเดินทัวร์สถานที่สำคัญ ๆ บรืเวณใกล้ ๆ โรงเรียน ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ จากสถานที่จริง รวมถึงเปิดโอกาสให้ได้ซักถามเรื่องราวต่าง ๆ
เพื่อให้เด็ก ๆ เกิดความอยากรู้ อยากเห็น สนใจกับสิ่งรอบ ๆ ตัวและเข้าใจประวัติศาสต์ของชาติได้อย่างถูกต้องด้วยค่ะ
งานนี้นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังเป็นการพาเด็ก ๆ เดินออกกำลังกายไปในตัว แถมเด็ก ๆ ได้รู้จักถนนหนทางบริเวณโรงเรียนและทำใหเกิดความสามัคคีในเดินแถวร่วมกันอีกด้วยค่ะ
แน่นอนค่ะฟรี ไม่เสียตังค์เลยสักบาท ค่าอาหารก็ไม่ต้องเพราะหากไปไกลหน่อยเด็ก ๆ จะสะพายเป้ที่มีน้ำ มีของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดตัวไปด้วยค่ะ
ไม่ต้องกลัวเด็กจะหนักอะไรนะคะเพราะช่วงเวลานั้น เด็ก ๆ จะรู้สึกสนุกสนานและตื่นเต้นกันมากกว่า
แหม...ช่างเหมาะกับการฝึกเรื่องการอดทนม๊ากมากเลยเชียวค่ะ :-)
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
