12 ส.ค. 2019 เวลา 09:31 • การศึกษา
เรื่องเล่าสาวดีเทลยา
อาชีพเซลล์เป็นหนึ่งในงานที่มีความท้าทายและกดดันไม่น้อยครับ
ถ้าทำยอดได้เยอะ จะได้ค่าคอมรายได้อื่นๆนอกจากเงินเดือนเยอะ
ถ้าทำยอดไม่ได้ตามเป้า ก็จะโดนหักจากเงินเดือน
อาชีพเกี่ยวกับงานเซลล์ก็จะมีขายหลายอย่างต่างกันออกไป ขายรถ ขายบ้าน ตัวแทนยาตามโรงพยาบาล บลาๆก็ว่าไป
กรณีที่ผมจะนำมาเล่าให้ฟังเป็นเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนยากับหมอตามโรงพยาบาล เพื่อให้ได้ยอด
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เหตุผลที่คนเราจะซื้ออะไรสักอย่างมันมีอยู่แค่ 3 เหตุผลครับ
1.คนบางคนซื้อเพราะถูกใจของ
2.คนบางคนซื้อเพราะถูกใจคน
3.คนบางคนจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อถูกใจทั้งของและคน...
สาวที่เป็นเซลล์ตัวท็อปๆเนี่ยจะรู้กันดีครับกับเรื่องนี้
และนี่แหละครับเป็นที่มาที่ไปของเรื่องนี้
1
กลุ่มลูกค้าของสาวดีเทลยาที่ผมกำลังจะเล่าถึงส่วนใหญ่
จะอยู่ในหมวดหมายเลข 2 และ 3 เท่านั้น
เริ่มครับ
เอ้ นามสมมติ
.
เอ้ เป็นสาวโปรไฟล์ดี มีดีกรีเป็นถึงดาวคณะ เมื่อเรียนจบมาก็ไปสมัครงานซึ่งบางท่านในวงการคงรู้จักกันในชื่อ “ดีเทลยาหรือผู้แทนยา”
เอ้เล่าครับว่า งานนี้น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะเราเป็นคนชอบความท้าทายอยู่บ้าง ชอบเจอผู้คน
การจะเป็นผู้แทนออกไปขายข้างนอกกับลูกค้ารายใหญ่ๆนั้น เอ้บอกว่าบริษัทที่เอ้ทำตอนนั้นไม่ได้จบสายงานแพทย์มาก็สมัครงานสายนี้ได้
เพราะบริษัทบางอย่างขายแค่อุปกรณ์เล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นการประหยัดงบจะไม่จ้างคนมาตรงสายเพราะค่าตัวแพง และไม่คุ้มกับงานที่ทำ
แต่บริษัทใหญ่ๆจะจ้างคนที่จบมาตรงสายโดยตรง เช่น ทันตะ เภสัช พยาบาล เทคนิคการแพทย์ หากต้องขายเครื่องมือหรือยาที่มีความจำเพาะ
2
เพื่อคุยกับหมอแล้วเป็นภาษาเดียวกัน รู้เรื่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนต้องผ่านการเทรนมาก่อนแล้ว ถ้าสอบไม่ผ่านบริษัทใหญ่ๆหลายๆที่ไม่ให้คุณออกไปทำงานเพื่อเจอลูกค้าเพราะบริษัทจะเสียหายมากกว่าเสียรายได้เยอะ และวงการนี้บางบริษัทจ้างพรีตตี้จริงๆมาคุยงานให้ด้วย
แล้วเกรดที่ว่าไม่ต้องตรงสาย และออกไปข้างนอกได้หล่ะ ต้องมีดีประมาณไหน?
เอ้บอกว่าโปรโฟล์ก็ไม่ธรรมดาเลยครับ
“อย่างที่เรารู้กันดี พวกสวยๆ รูปร่างดี มีต้นทุนดีกว่าชะนีสายถึกเยอะ! จบนะ”😉
1
ลักษณะงานก็ธรรมดานี่แหละครับ ไปคุยกับหมอเพื่อเสนอสินค้าที่ตัวบริษัทอยากจะขายให้กับโรงพยาบาล ถ้าดีลได้ก็จบ
แต่ดีลมันไม่งายหน่ะสิ นี่คือปัญหา
ดังนั้น การเป็นตัวแทนที่จะได้ “คำตอบที่น่าพอใจสำหรับบริษัท”กลับมานั้น มันเลยขึ้นอยู่กับตัวของเอ้ด้วย
กลยุทธ์เบสิคก็คือ แต่งตัวให้สะกดตาหมอ
ความหมายชัดๆก็คือ แอบล่อแหลมเซ็กซี่ให้เป็นบ้างก็ดีนะ เพราะ มันเป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการขายที่มีโอกาสจะทำให้ขายของได้ เพราะว่าถ้าขายของไม่ได้ ทุกวันนี้ก็คงไม่แต่งแบบนี้กันอยู่หรอก ดังนั้นการแต่งตัวเพื่อให้เกิด first impression มันก็มีบ้างเป็นธรรมดา ลองคิดดูสิ ว่าผู้หญิงสวยๆมาอยู่รวมกันในรพระหว่างคนแต่งธรรมดากับแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ หมอจะสนใจใครมากกว่ากัน
ดังนั้น หลังจากที่เอ้เริ่มเรียนรู้งานมาได้สัก 3 เดือน เธอก็เริ่มใช้กลยุทธ์นี้เป็น
ไม่ใช่แค่นั้นนะ
ท่าเดิน ลักษณะการยิ้ม การใช้โทนเสียง ก็มีผลต่อการตกลงด้วย
1
ซึ่งแน่นอนว่า หลายๆที่ เค้าไม่คุยจบแค่ครั้งเดียวหรอกโนวววว จ่ายเป็นแสนๆ เค้าไม่คุยครั้งเดียวแน่🙄
หมอบางที่จะมีการนัดนอกรอบครับ ในกรณีที่เอ้เจอครั้งแรกเลย มี 3 step
ทานข้าว เดินห้าง รวมถึงเสนอให้มี something…
2
Step 1ทานข้าว : ก็เป็นร้านคาเฟ่ รึอะไรสักอย่างที่มีความหรู เป็นส่วนตัวหน่อย เพราะ จะได้มีโอกาสคุยงานได้
แต่ก็ใช่ว่าจะได้คุยงานหรอก เพราะลูกค้ารายนี้ที่เธอเจอเล่นหยอดคำหวาน จ้องจะกินเราลูกเดียวเลย
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือสั่งอะไรสักอย่าง มาให้เค้าทาน อย่าให้ปากว่างซะ
แล้ว ดึงเข้าประเด็นให้ได้
ระหว่างคุยงานก็จะมีโดนแตะเนื้อต้องตัวบ้าง แต่ก็คิดซะว่าเค้าแตะแบบเพื่อน ไม่งั้นเราคงทำงานไม่พ้นวันแน่
ซึ่งแน่นนอนว่า
ต่อให้เค้านัด
เราก็ต้องจ่ายค่ามื้อนั้นเป็นมารยาท
Step 2 เดินห้าง : อันนี้ไม่ต้องจ่าย แต่ต้องวางตัวให้เป็น ไม่มีอะไรมาก เพราะด้วยความที่เดินในห้าง
เราก็แค่เออออตามเค้า เค้าดีมาเราก็ดีตอบ อย่างร้ายที่สุดลูกค้ารายนี้ก็แค่โน้นตัวเข้ามาใกล้ๆ ฟีลแฟน
ซึ่งเราก็ต้องยอมรับในส่วนนี้ให้ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ ควรรีบปิดดีลให้ได้ตั้งแต่ step นี้
Step 3 เสนอให้มี something : เอ้เล่าครับว่าไอ้เรื่องทานข้าวเทคแคร์ ดูแลมันก็โอเค พอรับได้นะ
แต่การเสนอให้มีอะไรด้วยนี่มันเป็นประเภทที่เธอรับไม่ได้มากๆ
ทำให้เธอถอนตัวจากงานนั้นและต้องไปดีลกับที่อื่นแทน
โชคดีที่มีรุ่นพี่คอยชี้ทางงานให้ว่าควรไปที่ไหนแทนในเขต เธอจึงถอนตัว
เอ้เล่าต่อครับว่า มันไม่ได้มีคนโชคดีแบบเธอเสมอไปหรอกนะ ที่จะมีรุ่นพี่และหัวหน้าดีๆ
จากวันนั้นผ่านมาก็ 4 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเรื่องหมอหนุ่มกับผู้ แทนสาวมีเรื่อยๆ เช่น ผู้แทนต้องการให้ยาตัวเองทำยอดให้ได้ภายในเดือนนี้ ไม่เช่นนั้นอาจต้องถูกออกหรือตัดเงินเดือน ทำให้ต้องยอมทำอย่างไรก็ได้ให้แพทย์ยอมใช้ยาของตัวเอง เพื่อให้ยอดขึ้น บางรายก็ยอมมีความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือเพศสัมพันธ์เพื่อแลกกับยอดการใช้ยา อันนี้ยังมีอยู่ให้ได้ยินและเป็นที่รู้กันในบางรายที่ทำเป็นประจำ
1
สาเหตุง่ายๆที่บางรายยอมทำก็เพราะคิดว่ามันสนุกนั่นแหละ คนไม่คิดอะไรเค้าก็ทำเป็นประจำ แต่พวกหน้าใหม่ที่ทำก็เพราะกลัวเสียตำแหน่งหน้าที่การงาน
เพราะบริษัทยาก็เหมือนบริษัททั่วไป มีทั้งรายได้มากและน้อยตามแต่ความใหญ่ขององค์กร
บางบริษัทถ้าดีเทลยาไม่ปิดยอด อาจเงินเดือนน้อยกว่าพนักงานออฟฟิศก็ยังมี
แต่บางบริษัทเงินเดือนรวมปิดยอดแค่เดือนเดียวก็สามารถดาวน์รถป้ายแดงได้คันนึงแล้ว และด้วยรายได้ขนาดนี้เค้าจึงกดดันคนที่เป็นตัวแทนมากๆเป็นธรรมดา
ถ้าผลงานไม่ดี และไม่เข้าตากรรมการเค้าก็จะบีบให้คุณออก เพราะเค้าไม่แคร์หรอก วันๆนึงมีคนเข้ามาสมัครงานเป็นร้อย ยังไม่รวมถึงที่สมัครออนไลน์มาอีก ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงได้กระสนดิ้นรนให้ปิดยอดได้ เพราะความกดดันและรายได้บวกกับสวัสดิการที่มหาศาล
1
เอ้เล่าต่อครับว่า อาชีพนี้มันก็ดีนะถ้าอยู่เป็น
เรื่องแบบนี้เอาจริงมันก็มีอยู่ทุกวงการแหละ แต่จะมีมากมีน้อยก็อีกเรื่องนึง
ปัจจุบันถามว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ดีมั้ย?
มันก็ดีนะ
“แต่เศรษฐกิจตอนนี้สำหรับน้องๆหน้าใหม่เราก็ว่ามันไม่มั่นคงอย่างแรง”
เพราะข้อจำกัดในการใช้ยาใน รพ. เนื่องจากงบประมาณ รพ. รัฐแทบทุกที่ติดลบ
ยาเป็นตัวแรกๆที่ รพ.ต้องลด cost อย่างแรง
ดังนั้นมันก็สอดคล้องกับบริษัทยาบางที่ ที่ต้องลดคนทุกปี โดยเฉพาะเขตที่ขายไม่ดี ดังนั้นคิดก่อนจะเข้ามาทำ หรือหากเข้ามาทำแล้ว ต้องเก็บเงินกันความเสี่ยงหากตกงานด้วยนะจ๊ะ
1
จอบอ
ในความคิดเห็นส่วนตัวผมว่า เอ้เป็นผู้หญิงมั่นที่ดูดีมากคนนึงเลยครับ
เธอกล้าลุยกล้าคุยกับคน กล้าตัดสินใจ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
อย่างที่เรื่องทั้งหมดเล่าไปนั่นแหละทุกวงการมีดีมีชั่วปะปน ทั้งหญิงและชาย แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกครับ
อยู่ที่นิสัยส่วนตัวด้วย คนดีๆแบบเอ้ก็เยอะ
การที่ผมได้เอาเรื่องนี้มาลงเพื่อตีแผ่อีกด้านของอาชีพนี้มันก็เป็นเรื่องที่ดีนะผมว่า คนที่ไม่รู้จะได้รู้ว่ามันมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
1
ท้ายสุดแล้ว
ขอระบายท้ายเรื่องหลัก
ซีรี่ส์ด้านมืดในสังคม กว่าจะกลับมามีบทความนี้ ก็หายไปนานสักพักแล้วนึงเลยนะครับ เนื่องจากโดนแบนบ่อยซะเหลื๊อเกิน
ตอนล่าสุดคิงส์โรมันก็โดนfoulอีกละ ไม่รู้ใครมารีพอร์ต แล้วไอ้เราในฐานะนักเขียนก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย นอกจากนั่งเขียนหงึกๆแล้วมมนั่งรอลุ้นดาว พอติดดาวปุ๊ป ก็ยังต้องมานั่ง ลุ้นอีกว่าจะโดนใครมันแกล้ง เอาสะใจส่วนตัวรึเปล่า มันไม่โอเคเลยกับการโดนแบบนี้บ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม บทความเรื่องนี้ก็ถือเป็นการคืนชีพของซีรี่ส์ด้านมืดของสังคมครับ
เพื่อตีแผ่ให้รู้กันว่า อีกด้านนึงของโลกที่เราอยู่ มันไม่ได้ สวยงาม เหมือนทุ่งลาเวนเดอร์ที่เราเข้าใจกัน แต่มันมีอะไรที่เทาๆมากกว่านั้นแฝงอยู่ เยอะมากมาย
ไม่รู้นะครับว่าเรื่องที่ผมเขียนมันจะไปขัดขาใคร รึว่าจะไม่มีใครกล้าเขียน แต่เรื่องเทาๆในสังคมถ้าไม่มีคนเล่า ผมจะเป็นคนเอามาเล่าให้ฟังเองครับ
I’m sam

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา