13 ส.ค. 2019 เวลา 00:48 • ธุรกิจ
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! ธุรกิจร้านสะดวกซัก
จากวิถีชีวิตของคนเมืองที่ต้องเร่งรีบ ก่อให้เกิดธุรกิจเดลิเวอรี่มากมายที่มุ่งเป้าไปที่ลูกค้ากลุ่มนี้ ร้านสะดวกซักก็เป็นอีกเทรนด์ฮิตที่ดูเหมือนว่าจะมาแรงโดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการขยายตัวในรูปแบบของแฟรนไชส์ทั้งจากไทยและต่างประเทศที่มองเห็นโอกาสและมูลค่าในการลงทุน
อย่างไรก็ดี www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าโอกาสสำเร็จในธุรกิจนี้ไม่ใช่แค่ลงทุนง่ายๆ แล้วจะกลายเป็นกำไรได้เลย สำคัญคือนวัตกรรมการซักยุคนี้เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนต้องอัพเดทและนำมาใช้กับธุรกิจอาจหมายถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแต่ก็มีโอกาสได้รับความนิยมมากขึ้น แม้จะดูว่าเป็นการลงทุนที่เข้าใจได้ไม่ยากแต่เชื่อว่ามีหลายเรื่องที่คนทั่วไปก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับธุรกิจร้านสะดวกซักในยุคนี้
 
1.จุดกำเนิดการซักผ้า
ภาพจาก https://bit.ly/2YpSqpA
เชื่อว่าประวัตการซักผ้าเริ่มมาก่อนศตวรรษที่ 17 แน่นอนว่าต้องเป็นการซักผ้าด้วยมือในลำธารที่น้ำไหลและยังมีบันทึกเพิ่มเติมอีกว่าชาวโรม ยุคก่อนไม่ได้ซักผ้าเฉยๆ แต่ใช้ไขมันสัตว์มาใช้แทนผงซักฟองในการทำความสะอาด ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้มือสองข้างในการทำความสะอาดผ้าล้วนๆ ส่วนการทำให้ผ้าแห้งก็จะใช้การอังกับไฟ ใครเป็นแม่บ้านยุคนั้นการซักผ้าจึงเป็นอะไรที่ต้องใช้เวลามากเหลือเกิน
 
2.กำเนิดกระดานซักผ้า
ภาพจาก https://bit.ly/2T43gM1
ปี 1975 เกิดนวัตกรรมที่ทำให้การซักผ้า ง่ายขึ้น นั่นคือการถือกำเนิดกระดานซักผ้า จุดประสงค์คือทุ่นแรงในการซักผ้าไม่ต้องจับผ้าฟาดหรือถูไถกับก้อนหินอีกต่อไป แค่นำผ้าไปถูบนกระดาษที่แซะร่องไว้แทนเพื่อช่วยขจัดคราบ โดยสรรพคุณของร่องในกระดานซักผ้าก็เหมือนแปลงซักผ้าในปัจจุบัน และถือว่ากระดานซักผ้าคือจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีการซัก
 
3.กำเนิดเครื่องซักผ้าเครื่องแรกของโลก
ภาพจาก https://bit.ly/2T43gM1
ปี 1858  ‘แฮมินตัน สมิท’ จดสิทธิบัตรเครื่องซักผ้า และสร้างเครื่องซักผ้าขึ้นมาเครื่องแรกบนโลกที่ใช้มือมาหมุนสำหรับการทำงานของเครื่องซักผ้าก็คือการปั่นผ้าแทนการซักด้วยมือโดยมีใบพายหมุนปั่นผ้าไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการทำงานที่ยังไม่เสถียรแต่ก็พอใช้ในการทำความสะอาดได้ และเหนื่อยน้อยกว่าซักมือ จากนั้นเครื่องซักผ้าก็ถูกพัฒนาเรื่อยมา
 
4.กำเนิดเครื่องซักผ้าด้วยระบบไฟฟ้า
 
เครื่องซักผ้าที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องซักผ้าไฟฟ้ารุ่นแรกที่ผลิตขายอย่างจริงจังก็คือเครื่องซักผ้ายี่ห้อ ‘Thor’ ผลิตขึ้นในปี 1908 โดย ‘อัลวา เจ ฟิชเชอร์’ นักประดิษฐ์ชาวสหรัฐฯ ที่พัฒนาเครื่องซักผ้ามานาน เป็นการปฏิวัติวงการแม่บ้านทั่วอเมริกาด้วยการผลิตเครื่องซักผ้าพลังงานไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ ทำให้การทำงานบ้านของเหล่าแม่บ้านง่ายขึ้น แค่ใส่ผ้าแล้วรอเครื่องทำงานเสร็จ แต่เครื่องซักผ้ารุ่น Thor ก็ไม่ทนทานนักเมื่อใช้งานหนักมากไปเกิดปัญหาความร้อนจนเครื่องไหม้เลยทีเดียว 
 
5.นวัตกรรมการซักในปัจจุบัน
ภาพจาก https://bit.ly/2GIO2a3
ปัจจุบันเครื่องซักผ้าล้ำไปไกลมาก มีทั้งฝาบน ฝาหน้า มีระบบซักและอบในตัว บางรุ่นมีระบบกำจัดแบคทีเรียในเครื่องได้อีกด้วย ทำให้นอกจากผ้าจะสะอาดแล้ว ยังปลอดภัยเพิ่มขึ้น เช่น รุ่นล่าสุดของ Panasonic ที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ในน้ำเย็นด้วย
1
รวมถึงการแก้ปัญหาของคราบสกปรกบนเสื้อผ้าที่สมัยก่อนจะซักคราบเหล่านี้ต้องมีการป้ายน้ำยาขจัดคราบลงไปก่อน หรือแช่ผ้าก่อนจะซัก ซึ่งเสียเวลา แต่สมัยนี้มีโปรแกรมการซักให้เลือกตามความสกปรกที่ต้องการจัดการเช่น คราบบนปกเสื้อ – แขนเสื้อ , คราบโคลน, กำจัดแบคทีเรีย,คราบเหงื่อ, คราบมัน และ คราบซอส หรือแม้แต่ Haier ก็มีการเปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ "Qianhe": เครื่องซักผ้าระบบอัลตร้าโซนิค ที่เปลี่ยนน้ำให้เป็นอนุภาคขนาดไมครอนซึ่งสามารถซึมผ่านเส้นใยเนื้อผ้าได้
 
6.ธุรกิจร้านสะดวกซักรายใหญ่ในประเทศไทย
1
ภาพจาก www.facebook.com/OtteriUVillage/
Clean Pro Express อาจจะเป็นอุตสาหกรรมการซักที่ขยายตัวในรูปแบบแฟรนไชส์รายแรกๆ ของเมืองไทยแต่ Otteri ที่เป็นแบรนด์ไทย ถือเป็นธุรกิจร้านสะดวกซักรายใหญ่ในเมืองไทย ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 50%  หลังจากเริ่มขยายสาขาเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมี 155 สาขา เป็นสาขาลงทุนเอง 25 สาขา ถึงสิ้นปีนี้จะมีแฟรนไชส์ 300 สาขา และลงทุนเอง 40 สาขา วางเป้าหมายปี 2565 มีสาขารวม 1,000 สาขา สัดส่วนกรุงเทพฯ 60% และต่างจังหวัด 40%
 
7.เทรนด์ร้านสะดวกซักในญี่ปุ่น
ภาพจาก https://bit.ly/2Zyfoar
ร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 500 ร้านใน 2-3 ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันมีร้านซักผ้าหยอดเหรียญประมาณ 4,000 ร้าน ในภาษาญี่ปุ่น
เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเรียกว่า "โคอิน แรนโดริ "ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า "คอยด์ ลอนเดอรี่" โดยเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 1 ตู้สามารถบรรจุเสื้อผ้าได้ทั้งหมด 16 กิโลกรัม หรือเสื้อผ้าที่ใส่แล้วประมาณ 3 วัน ค่าบริการนั้นคิดตามน้ำหนักของเสื้อผ้า อยู่ที่ 200 เยน ( 60 บาท) ต่อ 4.5 กิโลกรัม
 
8.7-Eleven ในญี่ปุ่นมีบริการรับซักรีดผ้าด้วย
ภาพจาก pantip.com/topic/30852150
7-Eleven บางแห่งในญี่ปุ่นมีบริการรับซักรีดผ้าด้วย แต่ก็ประมาณ 200 สาขาทั่วโตเกียว การใช้งานก็ไม่ยาก ไม่มีค่าแรกเข้า ส่งและรับผ้าได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด รับเสื้อผ้าได้ภายใน 2 วันหลังจากวันที่ส่งซัก เหมาะกับคนที่เลิกงานดึกๆ ไม่มีเวลาซักผ้าเอง หรือไม่สะดวกที่จะซักผ้าด้วยตัวเอง เช่น นักท่องเที่ยว ราคาก็ถือว่าจ่ายได้ ไม่แพงเกินไป ราคาเช่นเสื้อเชิ้ตสีขาว ค่าซักตัวละ 219 เยน เสื้อโค้ท ค่าซักตัวละ 1,095 เยน หรือเสื้อแจ็กเก็ตตัวละ 638 เยนเป็นต้น
ใครที่ต้องการใช้บริการนี้ เพียงสมัครในเว็บไซต์แล้วรอ 2 วันหลังจากสมัคร ก็ไปรับบัตรสมาชิก เซ็ตถุงซักผ้า แบบฟอร์มการรับบริการและคู่มือการใช้บริการได้ที่ 7-Eleven ใกล้บ้าน 
 
9.แปลกแต่จริง!ในอเมริกาเคยมีการเรียกร้องสิทธิในการตากผ้า
ภาพจาก https://pixabay.com
การแขวนหรือตากผ้ากลางแจ้ง ที่เรียกว่า Right to Hang เคยเป็นปัญหาที่รัฐเพนซิลเวเนีย ที่ผู้ไม่อยากให้มีการตากผ้าแม้จะเป็นในเขตบ้านของเราก็ตามทีให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการทัศนียภาพที่แย่ๆ เวลามองออกมาแล้วเห็นชุดชั้นในหรือกางเกงมาแขวนอยู่ นำมาสู่การเรียกร้องสิทธิในการตากผ้า ที่กลุ่ม Project Laundry List ให้การสนับสนุนด้วยเหตุผลว่าการตากผ้าคือการประหยัดเงินค่าไฟฟ้าและลดปริมาณก๊าชคาร์บอนจากเครื่องอบผ้าพลังงานไฟฟ้าได้ปัจจุบัน รัฐฟลอริดา ยูท่าห์ เมน เวอร์มอนต์ โคโลราโดและฮาวาย ได้ผ่านกฎหมายจำกัดสิทธิของเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น ไม่ให้มีอำนาจสั่งเก็บราวตากผ้า เป็นที่เรียบร้อย
10.โดบิกาต ลานซักผ้าที่ใหญ่สุดในโลก
ภาพจาก https://bit.ly/2MJr46u
แหล่งซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ ลานซักผ้าโดบิกาต สถานที่ซึ่งชาวตะวันตกขนานนามว่าเป็น Washing Laundry แหล่งซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ที่นี่ต้องใช้ลูกจ้างในการซักผ้ามากถึงห้าพันคนต่อวัน มีจุดให้นักท่องเที่ยวเดินชมและถ่ายภาพด้านบนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หาชมที่อื่นไม่ได้ โดยจะเป็นผ้าที่รับมาจากโรงแรมหรือโรงพยาบาลต่างๆ เป็นหลัก 
 
ธุรกิจร้านสะดวกซักก็นับเป็นอีกหนึ่งการเติบโตที่ควบคู่กับเทคโนโลยียุคใหม่ และคาดว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่ยังมีการพัฒนาได้ต่อเนื่อง สำคัญคือรูปแบบของการลงทุนจากผู้ประกอบการที่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าและบริการเป็นที่ต้องการของลูกค้าในภาวะที่คู่แข่งมีจำนวนมาก แม้ความต้องการของลูกค้าจะมากแต่การแชร์ตลาดก็มีมากเช่นกันใครที่คิดจะกระโดดมาลงทุนในธุรกิจนี้ต้องทำการบ้านเรื่องนี้ให้หนักมากขึ้น -
โฆษณา