16 ส.ค. 2019 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
Learning Visual Diary #20 : Paid, Owned, Earned...
สวัสดี​ทุกท่านครับ ปฎิเสธไม่ได้นะครับว่าทุกวันนี้เราทุกคนเสพสื่อ​ online 🌐กันทั้งนั้น​ และ Social Media ก็เป็นสื่อที่มีความสำคัญและอัตราการเข้าถึงสูงมากกกก​ อะไรๆก็ต้องมี​content ครับ​ เป็นยุคต้องมี​ storytelling 🗣️ตลอดจริงๆ​ ดังนั้น วันนี้เราจะมาคุยเรื่องการแบ่งประเภท Social Media ในมุมมองแบบ Marketer กันครับ
คือมันอย่างนี้ครับ...
ในโลก ​Marketing​ ตอนนี้ เมื่อพูดถึงการแบ่งประเภทสื่อ คำสามคำที่ได้ยินบ่อยๆ​ 👂 จาก agency คือ​ Paid, Owned, Earned Media เวลาฟัง​ media agency พูด​ บางคนก็อาจจะงงงง​😕 มันพูดอะไรกัน​ วันนี้ผมขอมาเล่าให้ฟังครับ
Paid, Owned, Earned เป็นการแบ่งประเภทของ Social Media ตามวิธีการได้​ Media value ครับ​ ตามชื่อเลยครับ​ บางอย่างเราต้องจ่ายถึงได้สื่อ​เราเรียกว่า​Paid​ Media​ 💵
1
บางอย่างเป็นสื่อเราเองไม่ต้องจ่ายเราเรียก​ Owned​ Media​
บางทีก็มีคนเอาสื่อของเราไปแชร์ต่อ​เราเรียก​ Earned​ Media​ ♥️ลองดูทีละตัวนะครับ
1. PAID เจ้าตัวแรกเนี้ย คือสื่อประเภทเงินมาของไปครับ​ เป็นช่องทางที่เราต้องใช้เงินจ่ายค่าสื่อ🛒​ ผมขอยกตัวอย่างตัวสำคัญที่เราควรรู้​ ประมาณนี้ครับ
A. Facebook ads พวกนี้คือสื่อที่ตามหลอกหลอนเราบนหน้า​ feed ที่เราจะงงงงว่ามาไง​ FB ติดกล้องป่าววะ​ 🎥เทคนิคส่วนใหญ่ที่ใช้เราเรียกว่า​ Retargeting ครับ​ คือ​ copy profile ของลูกค้าเป้าหมาย(ภาษา​FB เรียกว่า look alike) แล้วไปควานหาคนที่มี​ 'interest'​ เหมือนเป้าหมายเพื่อยิง​ads ไปที่หน้า​ new feed นั่นเอง
B. Pay per Click อันนี้หลักๆคงเป็น​google​ ทีม​marketing ก็จะต้องไปซื้อ​keyword ที่คิดว่าใช่​ และเมื่อมีคน​search 🔍คำที่เราซื้อ​ ads ก็จะขึ้น​มา​ เมื่อมีคน​click google ก็มาเก็บตังค์ Brand
C.​ Display ads บางคนก็จะคุ้นกับคำว่า​banner หรือการซื้อพื้นที่บน​ online บางทีเราซื้อตรงกับ​website บางทีเราก็ซื้อผ่าน​ Google​
D.​ Paid Influencer 2ปีมานี้เรื่องนี้ฮิตมากๆๆครับ​ เรื่อง​ influencer นี่แยกได้อีกตอนเลย​
ข้อดีของ​ PAID​ คือ​ เร็วและหวังผลได้ถ้ามีเงิน​ แต่ก็มี​ Challenge คือ​ ทำไงให้เนียน​ เดียวนี้ผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อการบริโภคสื่อโดยเฉพาะ​สื่อโฆษณาแบบนี้มากๆ และเราแทบไม่สามารถบังคับให้ผุ้บริโภคดูสื่อได้อีกต่อไป​ 📺 ต่อให้บังคับได้ก็อาจไม่เป็นผลดี​ 😡เพราะทุกคนมีความอดทนต่ำมาก​ นอกจากนี้ปัจจุบันต้องบอกว่าสื่อ online paid media ก็แพงขึ้นมากตาม demand ที่สูงขึ้นตามระบบประมูลของ google ดังนั้น key สำคัญ 🗝 คือเนื้อหาต้องตรงความสนใจ​ และยิงให้เจอ target 🎯เป็นเรื่องสำคัญสุดๆ เพราะมันสัมพันธ์กับ content ของเรานั่นเอง
2. OWNED ตัวนี้เป็นสื่อขององค์กรเอง ผลิตและควบคุมโดยเจ้าของ Brand ประโยชน์หลัก คือ การสร้างช่องทางสื่อสารหลักขององค์กรกับลูกค้า เปรียบเสมือนหน้าร้านนั่นแหละครับ เช่น website FB page, youtube channel หรือ Line Official
ข้อดี คือ ฟรี ควบคุมเนื้อหาได้ทั้งหมด (ก็บ้านเราเองนี่นะ)​
ข้อเสียคือ ใข้เวลา build นาน และ challenges คือ ปัจจุบันผู้บริโภคไม่ค่อยฟังสื่อที่มาจาก brand ดังนั้น content จึงสำคัญมาก ต้องให้เหตุผลกับลูกค้าในการเสพสื่อของเรา ภาพต้องสวย ข้อมูลเนื้อหาตรงกับความต้องการและน่าสนใจ เป็นต้น
3. EARNED กลุ่มนี้ถือเป็น Media value ในฝันของ brand เลยทีเดียว 💭เพราะมันฟรีและเป็นตัวพิสูจน์อีกด้วยว่าสื่อเราสร้าง engagement กับลูกค้าได้จริงๆ มันคือ media value ที่ได้จาก content ของผู้บริโภคที่พูดถึง Brand ไม่ว่าจะเป็นการเขียน review การบอกต่อ🗣️ แต่คำว่าสื่อในฝันเนี้ยมันมีทั้งฝันดีและฝันร้ายนะครับ
ข้อเสียหลักเลย คือ Brand ไม่สามารถคุม content ได้เลย EARNED นี่มันขึ้นกับกรรมเก่าเลยครับ ทำดีคนชมก็ดี 🎊เคยทำแย่ไว้คนก็ไปประจานได้ครับ😣 หน้าที่หลักของนักการตลาดในข้อนี้คือต้องฟังเยอะๆๆๆ response เร็ว และสร้าง content ที่ดีมีประโยชน์ เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีต่อลูกค้า ข้อดีที่ถือเป็นสุดยอดของ Earned media คือ ถือเป็นสื่อที่ผู้บริโภค​เชื่อมากที่สุดและที่สำคัญมันฟรี เดียวนี้เราเลือกฟังเพื่อนหรือแม้แต่คนอื่นที่ไม่รู้จักมากกว่า brand
นอกจาก 3 ประเภทหลักแล้วมันยังมีแบบ hybrid อีกนะครับ รู้ไว้หน่อยจะได้ไม่เชย เราเรียกว่า Convergence of Paid, Owned and Earned Media เอาแบบสั้นๆครับ
Mix1: PAID + OWNED =Promoted Brand Content คือ content ของ brand ที่เราจ่ายเงินโปรโมท หรือคือการทำ SEM นั่นเอง
Mix2 : PAID + EARNED = Sponsored Customer เช่นการทำแคมเปญรางวัลให้ลูกค้าแชร์ content ของเรา ประมาณพวก #hashtag marketing
Mix3: OWNED + EARNED = Brands that ask for shared คือ content ของ brand ที่ผู้บริโภคเอาไปshare ให้ เพราะมันโดนใจ shareแล้วดูฉลาด รู้ใหมครับว่าพฤติกรรมการ share content มันมี insight ตรงที่ว่าcontent ต้องบอกถึงความเป็นตัวฉัน ดังนั้น content ที่ cool มันทำเราคนแชร์ดูฉลาด 🧠 content ที่ตลกมันทำให้เราดูดีมีอารมณ์ขัน 😊 content ทำบุญมันแปลว่าฉันเป็นคนดี 😇 อะไรงี้แหละครับ
ในโลกที่เต็มไปด้วย Social Media เราทุกคนแชร์ เราทุกคนเป็นเจ้าของพื้นที่สื่อ ไม่ใช่เฉพาะ celeb แต่ตอนนี้ trend ของ micro และ nano influencer ก็มาแรงมากๆ ผู้คนมักเลือกฟังและเชื่ออะไรที่ไม่แปลกแยกจากความเป็นตัวของเขาครับ
จริงๆผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เท่าไร ที่เขียนๆมาก็อ้างอิงจากหนังสือชือ Marketing Fast Forward และอ่านเพิ่มเติมบวกความเห็นส่วนตัว ดังนั้นบางเรื่องอาจจะผิดก็ได้นะครับ
โลกวันนี้โดยเฉพาะการตลาดมันไม่มีอะไรถูกหรือผิดจริงๆครับ การตลาดคือการเล่นบนความรู้สึก และความรู้สึกไม่ใช่ fact ทฤษฎีการตลาดก็เป็นแค่ข้อสรุปจากความรู้สึกบนบริทบเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้นครับ ดังนั้น เราจึงต้อง keep learning ครับ
ในวันนี้ถ้าหยุดเรียนรู้ก็เท่ากับถอยหลังแล้วครับ 🏃🏼
Happy Learning
ขอบคุณ​ครับ​
ชัชฤทธิ์
โฆษณา