18 ส.ค. 2019 เวลา 08:58
เปลี่ยนวิกฤตพลิกชีวิตเพราะคิดอย่างสิงโต
คุณรู้ไหมว่า? ทำไมสิงโตจึงถูกขนานนามว่า
เป็นราชาแห่งผืนป่า?
•ทำไมถึง? ไม่ใช่ยีราฟที่สูงที่สุด...
•ทำไมถึง? ไม่ใช่ช้างที่ใหญ่ที่สุด...
•ทำไมถึง? ไม่ใช่เสือชีตาห์ที่เร็วที่สุด...
•ทำไม่ถึง? ไม่ใช่ลิงชิมแปนซีที่ฉลาดที่สุด...
ตำแหน่งเจ้าป่าไม่ใช่ได้มาโดยความบังเอิญ ไม่ใช่ได้มาจากพละกำลังหรือความดุร้าย
แต่เนื่องจากสิงโตเป็นสัตว์ที่มีทั้งทัศนคติที่ดีเยี่ยม และมีการพัฒนาตนเอง ในการล่า
ทั้งที่ตัวเองมีข้อเสียเปรียบ มีความอดทนอย่างเหลือเชื่อ และ ปรับตัวเพื่อเอาชนะ
ข้อจำกัดต่างๆของตนเองได้
.
"ตื่นๆ!!! ตื่นขึ้นมา
ลุกขึ้นจากเตียงแล้วออกไปสู้ต่อ! ”
เสียงภรรยาของผมปลุกจากที่นอน
ผมลุกไม่ขึ้น...เตียงของผมมันเหมือน
ผืนผ้าใบของเวทีมวย
หลังจากตัดสินใจทิ้งเงินเดือน 40000 บาท
กับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย เดินออกจาก
comfort zone แล้วออกเดินทางตามฝัน
ใช้ชีวิตเป็นนายตัวเองแล้วหันหน้าเข้าสู่อาชีพเกษตรกร ลงทุนทำฟาร์มเห็ด ในช่วงแรกทุกสิ่งอย่างดูดีไปเสียหมด
มองเห็นโอกาสของการสร้างรายได้ จึงเร่งการผลิต แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่เราคิดเราขาดการป้องกันที่ถูกต้อง
ย่างเข้าปีที่ 3 ความผิดพลาดครั้งใหญ่
ในการผลิตและศัตรูทางการเกษตรได้สร้างความเสียหายให้อย่างมากมาย กับก้อนเห็ดในฟาร์มจนเงินเก็บที่มีอยู่หมดลง!!!
ผมเสียใจมาก ผมรู้สึกหดหู่
ผมพบว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องลุกออกจากเตียง ความกลัวควบคุมทุกส่วนของร่างกายความมืดล้อมรอบตัวผม
ผมรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นจุดจบของชีวิต
อะไรคือแรงจูงใจ?
มันอยู่ที่ไหน?
มันคืออะไร?
หาได้ที่ไหน?
ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของชีวิต
ผมรู้สึกว่าแรงบันดาลใจนั้นไม่มีอยู่จริง!
ในช่วงเวลาของ "ความมืดมิด"
ผมไม่สามารถอ่าน คิด หรือกิน ...
หรือแม้แต่จะมีชีวิตอยู่ ยังแทบไม่ได้ !
หลังจากใช้ชีวิตใน ความมืดมน เป็นเวลาหลายเดือนผมได้เรียนรู้ว่า
แรงจูงใจนั้นเป็นเพียงแค่ “ ความรู้สึก ”
.
แรงจูงใจอาจจะเป็นหนึ่งในความรู้สึกที่ดีที่สุดในโลก แต่มันขาดความจงรักภักดี
แรงจูงใจมันมาแล้วมันก็ไป!!!
มันไม่สามารถช่วยอะไรผมได้
มีเพียงแค่ผมที่ต้องเปลี่ยนทัศนคติ
เพื่อเรียกศรัทธาคืนกลับมาให้ได้
ไม่ว่าคุณจะให้คำอธิบายความศรัทธาว่าอย่างไร สำหรับผมความศรัทธานั้นคือ
สิ่งที่เกิดขึ้นในมนุษย์บางคน
ที่ผ่านช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตมาแล้ว
ความศรัทธามันนำให้ผมกลับมาได้ใหม่อีกครั้ง ไม่มีใครสายไป ทุกคนเริ่มใหม่ได้เสมอ
.
แรงจูงใจนั้นเป็นความรู้สึกที่ดี
แต่ถ้าคุณจะเปลี่ยนได้
คุณต้องมีศรัทธาคงที่
และไม่เปลี่ยนแปลง
.
สิงโตเป็นสัตว์ที่ เมื่อช้างเห็นช้างก็วิ่งหนีสิงโต แม้ว่าช้างจะตัวใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า
และมีพละกำลังมากกว่าสิงโต
นั้นเป็นเพราะว่าช้าง
ตกเป็นเหยื่อทางความคิด
เมื่อสิงโตเห็นช้างมันกลับพุ่งเข้าหาช้าง
เพราะมันเชื่อว่ามันสามารถจะจับช้างกินได้
.
เมื่อเราเปรียบเทียบเสือชีตาห์กับสิงโต
เสือชีต้าจะใช้ทักษะทางกายภาพ
เพื่อตามล่าเหยื่อ
แต่สิงโตเป็นนักล่าทางยุทธศาสตร์
เสือชีต้าเป็นสัตว์บกที่เร็วที่สุดด้วยความเร็วสูงสุด 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทักษะพิเศษนี้ทำให้มันเป็นนักล่าที่มีประสิทธิภาพมากซึ่งมันไม่ต้องการกลยุทธ์มากมายสำหรับการล่าสัตว์
.
ในทางกลับกันสิงโตจะใช้พละกำลัง
ของมัน เพื่อจัดการกับสัตว์ที่ใหญ่กว่า
สิงโตนั้นเชื่องช้าและไม่เป็นนักล่า
ที่มีประสิทธิภาพเหมือนเสือชีตาห์
เพื่อเอาชนะจุดอ่อน
สิงโตจึงต้องใช้กลยุทธ์ในการล่าสัตว์
.
ตัวอย่าง: สิงโตตามล่าสัตว์ที่เร็วขั้นเทพอย่างตัว wilderbeast สัตว์สายพันธุ์เดียวกับละมั่ง ตัวใหญ่น่าเกรงขาม ซึ่งมันสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง ประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เพื่อเอาชนะความแตกต่างเช่นนี้สิงโตได้พัฒนากลยุทธ์การล่าสัตว์ เช่นความสามารถในการไล่ล่าเหยื่อในระยะประชิด
ด้วยความเร็วขั้นสูงสุดเมื่อพวกมันเข้าใกล้
เหยื่อ ดั่งนักวิ่ง ยูเซนโบลต์ ก็ไม่ปาน🏃🏃🏃
เป็นที่ทราบกันดีว่าสิงโตจะซ่อนตัวและอดทนอย่างเหลือเชื่อในขณะที่รอสิ่งที่
เหยื่อต้องการ เช่นน้ำ
เสือชีตาห์นั้นเก่งในการวิ่งไม่ใช่การต่อสู้
ในขณะที่สิงโตนั้นเก่งในการต่อสู้และไม่ได้เก่งวิ่ง
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสิงโตจะรอเสือชีตาห์อย่างมีกลยุทธ์เพื่อฆ่ามันแล้วจึงขโมยอาหารของเสือชีตาห์
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
สิงโตเป็นราชาแห่งป่า
เพราะเขามีทัศนคติที่แตกต่าง สิงโตเป็นนักล่าที่มียุทธศาสตร์ การกระทำของสิงโตสะท้อนให้เห็นถึงวิธีที่เขาคิด
ทัศนคตินี้ทำให้อาณาจักรสัตว์ทั้งหมดเคารพสิงโตมากกว่าสัตว์อื่น ๆ
.
คุณคิดว่าเราทุกคนสามารถมีทัศนคติ
เหมือนสิงโตได้หรือไม่
เพื่อตอบคำถามของคุณลองนึกภาพสิ่งนี้:
มีคนอยู่สองคน,
-มีทักษะเดียวกัน
-การศึกษาเดียวกัน
-สภาพเศรษฐกิจเดียวกัน,
-สถานที่เดียวกัน -ปัญหาเดียวกัน
แต่ทั้งสองคนมีความคิดที่ต่างกัน
คนหนึ่งคิดว่าเป็น " อาหารกลางวัน
ในขณะที่อีกคนหนึ่งคิดว่าเป็น " อันตราย
"ความแตกต่าง? ของคนทั้งสอง เกิดจากท่าทีทางทัศนคติที่ต่างกัน
ทัศนคติเป็นผลมาจากความเชื่อ
การกระทำของเราจะสะท้อนถึงสิ่งที่เราเชื่อ
เรากลายเป็นสิ่งที่เราเชื่อ
เราจะจำกัดตัวเองตามสิ่งที่เราเชื่อ
บางคนมีความเชื่อว่ายังไงฉันก็ทำไม่ได้หรอก ฉันไม่เก่งฉันยอมแพ้ คุณก็จะเป็นไปตามที่คุณเชื่อ
ไม่มีใครสามารถอยู่เหนือขีดจำกัด
ของความเชื่อของพวกเขา
ไม่มีอะไรสามารถทดแทน
ระบบความเชื่อของคุณได้
ดังนั้นหยุดคิดว่าฉันทำสิ่งนี้ไม่ได้
หยุดแก้ตัวแล้วเปลี่ยนทัศนคติ
เปลี่ยนระบบความเชื่อของคุณ
เหมือนอย่างที่ผมเชื่อว่าผมต้องทำได้
ในที่สุดผมก็ทำมันได้จริงๆ
"ชีวิตมักไม่ให้สิ่งที่คุณฝันถึง
แต่ชีวิตคุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกความฝัน
และมีสิทธิที่จะทำมัน"
โฆษณา