18 ส.ค. 2019 เวลา 00:14 • กีฬา
#คำพูดหลังเกม
ความตงฉินในโลกแห่งฟุตบอล
ตามกฏที่ออกมาโดย 'IFAB' หรือ คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าหากมีการทำประตูโดยเกี่ยวข้องกับการใช้มือไม่ว่าจะด้วยตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจ ประตูดังกล่าวจะถูกยกเลิกในทันที
ดังนั้นเกมสุดดราม่าระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ นั้น ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ตัดสินใจถูกต้องแล้วกับจังหวะแฮนด์บอลของ อายเมอริก ลาปอร์กต์ ซึ่งเป็นจังหวะก่อนหน้า กาเบรียล เชซุส จะซัดบอลเข้าไปตุงตาข่าย
ในตอนแรกหลังจากที่ประตูดังกล่าวถูกยกเลิกเล่นเอาผมงงไปเลยทีเดียวเพราะมือของ ลาปอร์กต์ ค่อนข้างแนบชิดติดลำตัว ซึ่งมันเป็นจังหวะที่ไม่ได้ตั้งใจอย่างชัดเจน
ใช่ มันเป็นจังหวะไม่ตั้งใจจริงๆ ลาปอร์กต์ ไม่ได้ยื่นมืออะไรออกมาอีกทั้งเขาไม่มีตาหลังที่สามารถมองเห็นได้ว่า เชซุส รออยู่ตรงส่วนไหนในกรอบเขตโทษแล้วเอามือปัดไปให้
การตัดสินในครั้งนี้มันค่อนข้างเข้าใจยาก แต่ความเข้าใจยากนั้นมันนำมาซึ่งความเที่ยงตรงต่อเกมการแข่งขัน
อย่างนั้นจริงๆเหรอ ?
หากจะย้อนถึงเกมโกงบรรลือโลกที่ใช้มือในกรอบเขตโทษเชื่อว่าทุกคนคงคิดถึง ดีเอโก้ มาราโดน่า "เสือเตี้ย" แห่ง อาร์เจนติน่า ที่ต่อให้เก่งระดับพระเจ้าขนาดไหนแต่เขายังโดนตราหน้าและเป็นตราบาปติดตัวให้แฟนๆชาวอังกฤษสาปแช่งเสมอ
หรืออย่างเขยิบใกล้เข้ามาหน่อยก็ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2009 ระหว่าง ฝรั่งเศส กับ ไอร์แลนด์ ที่ เธียร์รี่ อองรี ใช้แขนคอนโทรลบอลจนทำให้ "ตราไก่" ยิงประตูได้แบบน่าเหลือเชื่อในช่วงท้ายเกม
สองจังหวะดังกล่าวผมสามารถพูดได้ (หรือเขียน) เต็มปากเต็มคำว่า "โกง"
มันคือการฉกฉวยโอกาสของนักฟุตบอลคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ อีกทั้งมันยังเป็นการหลอกลวงคนที่มีอำนาจมากที่สุดในสนามอย่างผู้ตัดสิน
พอเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นมาแน่นอนว่ามันจำเป็นจะต้องหาทางออกและทางออกที่ดีที่สุดก็คือ 'VAR' หรือวีดีโอช่วยตัดสินนี่แหละ ที่ควรจะนำมาใช้ตั้งนานแล้ว
แต่การนำมาใช้ก็ควรจะก่อให้เกิดเสียงในแง่ดี หรือก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่า
ดุลพินิจของผู้ตัดสินนั้นสำคัญ และมันควรจะถูกนำมาใช้ใน 'VAR' ด้วยไม่ใช่จะตงฉินไปซะทุกเรื่องแบบนี้ ใช่ ตามกฏคือมือโดนบอลแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ แต่ก็ควรดูถึงความตั้งใจของนักฟุตบอลด้วยใช่หรือไม่ล่ะครับ ?
ชัดๆก็สองกรณีที่ผมยกตัวอย่างไปทั้ง มาราโดน่า และ อองรี นั่นแหละว่าตั้งใจ มาราโดน่า ชูมือขึ้นชัดเจนส่วน อองรี มีตวัดบอลไม่ให้ออกหลังด้วย
มันแตกต่างจาก ลาปอร์กต์ ที่เขาพยายามเอาแขนหนีบเข้าแนบลำตัวแล้วแต่บอลก็พุ่งมาหา ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้นควรจะนำคำที่ว่า 'บอล ทู แฮนด์' เข้ามาช่วยตัดสินในเรื่องนี้อีกครั้ง
"ทำไมรอบ 8 ทีมสุดท้ายของ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่แล้ว ยอเรนเต้ ถึงไม่แฮนด์บอลล่ะ ? ทำไมวันนี้ถึงแฮนด์บอล ? ทำไม ?"
"มันน่าเสียดายเพราะเป็นช่วงนาทีสุดท้าย เราผ่านสิ่งที่ยากลำบากมาแล้วใน แชมเปี้ยนส์ลีก และวันนี้ก็เกิดขึ้นอีก มันเป็นแอคชั่นสุดท้าย เรายิงประตูได้ แต่ก็นั่นล่ะ พวกคุณคงต้องไปถามฝ่าย VAR แทนแล้ว"
นี่คือเสียงสะท้อนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเอาจริงๆเจ้าตัวอาจจะลืมหรือยังไม่ทราบว่ากฏได้มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว เมื่อฤดูกาลก่อนที่ ยอร์เรนเต้ ยิงยังไม่มีข้อบังคับแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษและใช้ดุลพินิจของผู้ตัดสิน
จังหวะของ ยอร์เรนเต้ นั้นมันก็ชัดเจนว่าแขนเขาแนบลำตัวและบอลพุ่งมาแฉลบเปลี่ยนทางไปยังสะโพกของเจ้าตัวจนพุ่งเข้าประตูไป
คำถามที่มากมายคงผุดเข้ามาในหัวของ เป๊ป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาโดน 'VAR' ทำพิษ และก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน
สิ่งที่น่าแปลกใจอีกจังหวะในเกม 'บิ๊กแมตช์' นี้ก็คือตอนที่ เอริก ลาเมล่า ล็อกคอ โรดรี้ ในกรอบเขตโทษจนล้มลง ซึ่งจังหวะนี้ก็เป็นจังหวะปัญหาที่ เป๊ป เรียกร้องและถามหาเช่นเดียวกัน
"ช่วงครึ่งแรก จุดโทษรึเปล่าล่ะ ? คงต้องไปถามที่ลอนดอน ถามบิ๊กบอส แล้วล่ะ ผมไม่ใช่ VAR ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ ?"
"มันคือจุดโทษแน่นอน ลาเมล่า ขวาง โรดรี้ และมันคือจุดโทษ บางทีนะในช่วงเวลานั้นทีม VAR คงจะพักเบรคดื่มกาแฟกันอยู่"
ใช่ครับ หากว่าประตูของ ซิตี้ ถูกยกเลิกไปด้วย VAR จังหวะของ ลาเมล่า พวกเขาก็น่าจะได้จุดโทษเช่นเดียวกัน ขนาดอดีตกัปตันเพื่อนบ้านอย่าง แกรี่ เนวิลล์ ยังยอมรับในจุดนี้เลย
"ถ้าหากผมเป็นผู้ตัดสินที่ สต็อกลี่ย์ ปาร์ค (ที่ทำการ VAR) ผมคงจะมีความสุขในความจริงที่ว่าพวกเขาสามารถปฏิเสธประตูของ ซิตี้ ได้ (อารมณ์ประมานว่ามองยากแต่ยังเห็น) แต่ช่วงครึ่งแรกน่ะ (จังหวะ ลาเมล่า) ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่ที่ สต็อกลี่ย์ ปาร์ค ควรจะมีความเข้มแข็งกว่านี้ ผมรู้ดีว่าพวกเขาบอกต้องมีความชัดเจน และสำหรับผมมันก็ชัดเจน (ควรได้จุดโทษ)"
"พวกเขามีเส้นบางๆกั้นระหว่างความกลัวและความกล้าในการตัดสินว่า 'ไม่' หรือ 'นั่นคือจุดโทษ' มันเป็นอะไรบางอย่างที่ผมรู้ว่าตัวเองและ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อยากจะไปดูการทำงานที่ สต็อกลีย์ ปาร์ค เพื่อทำความเข้าใจว่าตกลงแล้ว VAR มันทำงานยังไง"
"ผมรู้สึกว่าพวกเขาพยายามช่วยความผิดพลาดของผู้ตัดสินในสนาม ถ้าหากสิ่งนั้นมันถูกต้อง แต่พวกเขากลับเห็นด้วยกับคำตัดสินอะไรแบบนั้น"
ความหมายที่ แกรี่ ต้องการจะสื่อน่าจะเหมือนกับ เป๊ป ล่ะครับว่า 'มาตรฐาน' ที่แท้จริงมันควรเป็นแบบไหน ถ้าหากจะเที่ยงธรรมก็ควรจะทำให้เกิดความโปร่งใส และทำให้แฟนๆ 'รู้สึก' ว่าเป็นตัวช่วยมากกว่าตัวสร้างดราม่า
สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ที่มันยังมีปัญหาอยู่ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะเมื่อเทคโนโลยีเข้ามาแล้วแต่สุดท้ายด้วย 'ดุลพินิจ' บางอย่างมันก็ทำให้กลายเป็นอีหรอบเดิม
เค.เค.
โฆษณา