24 ส.ค. 2019 เวลา 07:00 • ปรัชญา
เราอาจเคยเห็นคำคมที่เขียนว่า “ถ้าอิจฉาคือคนแพ้”
คำคมนี้มีความหมายโดยนัยว่า “เรายอมรับสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม แต่หากเราอิจฉาคุณ เราก็จะเป็นผู้พ่ายแพ้โดยสมบูรณ์”
แต่ผมอยากให้ลองมองในอีกมุมหนึ่งครับ
โดยปกติแล้ว ความรู้สึกของคนเราที่มีต่อคนที่ดี(หรือดูเหมือนจะดี)กว่าตนเอง มีสองแบบ คือ อิจฉา และ ริษยา
ในความจริงแล้ว อิจฉา เป็นการเห็นผู้อื่นดีกว่า จนรู้สึกไม่พอใจ อยากได้อยากมีบ้าง แต่ก็ยอมรับความจริง ต่างกับริษยาตรงที่ ริษยาเป็นการไม่ยอมรับความสำเร็จของผู้อื่น
โลกใบนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือด คนที่ชนะจะเป็นคนที่พิชิตการแข่งขันครั้งหนึ่งสำเร็จ แต่ในความจริง ไม่มีใครที่จะเป็นผู้ชนะได้ตลอด
สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การชนะหรือแพ้ แต่คือ เราจะโตขึ้นโดยผ่านประสบการณ์แต่ละครั้งได้มากแค่ไหน
คนทุกคนย่อมมีความน้อยเนื้อต่ำใจกับบางสิ่งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา การศึกษา ฐานะ หรือความล้มเหลวในอดีต ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะรับมือมันอย่างไร
ทางที่ดีที่สุด
จงนำประสบการณ์มาเรียนรู้ นำความน้อยเนื้อต่ำใจมาเป็นพลัง ทำให้ชีวิตหนักแน่นขึ้น
จงอิจฉาแทนริษยา จงยอมรับความสำเร็จของผู้อื่น แม้ว่าคนเราจะเผชิญอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนมรสุมที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิต
จงค้นหาตัวตนของคุณในมรสุมเหล่านั้นให้เจอ ค่อยๆเรียนรู้มัน
จงอิจฉาและเอาชนะมัน
By kongangrom
โฆษณา