3 ก.ย. 2019 เวลา 00:19 • ปรัชญา
หัวใจเศรษฐี
ข้าวนาข้าวน้อยฯ
จากครั้งที่เคยลงบทความเรื่อง หัวใจนักปราชญ์ สุ จิ ปุ ลิ ไปแล้ว วันนี้เลยนึกถึงอีกคำสอนหนึ่งที่คนรุ่นเก่าสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กคือ...
หัวใจเศรษฐี..
หัวใจเศรษฐี นี้ หลายๆท่านคงเคยได้ยินกันมานานแล้ว และก็ค่อนข้างจะมีความเชื่อถือว่าเป็นจริงตามนั้น หากเราปฏิบัติได้ เราก็มีโอกาสที่จะมั่งมี ศรีสุข เช่นเศรษฐีทั้งหลาย เช่นกัน
ขออนุญาตทบทวนกันอีกครั้งละกัน
หัวใจเศรษฐี
"อย่านอนตื่นสาย
อย่าอายทำกิน
อย่าหมิ่นเงินน้อย
อย่าคอยวาสนา"
มาขยายความกันสักหน่อยดีกว่าเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
"อย่านอนตื่นสาย" บทแรกนี้ หาได้มีความหมายถึงการตื่นนอนที่ควรจะตื่นนอนแต่เช้าเพื่อจะได้มีเวลาทำงานมากขึ้น อย่ามัวเอาแต่นอน เท่านั้น จริงๆแล้ว ข้อนี้มีความหมายถึง ให้มีความขยันขันแข็ง ให้รีบตื่นมาทำงานตามสมควรแก่เวลา หากคนทำงานดึกดื่น ก็อาจตื่นสายได้ แต่ก็ให้ขยันขันแข็งรับผิดชอบงานการให้เรียบร้อย
"อย่าอายทำกิน" บทนี้หมายถึง คนเราหากเป็นเรื่องการทำงาน การทำมาหากินแล้ว อย่าเหนียมอาย อย่ารังเกียจว่างานนี้ต้อยต่ำ งานนี้มันไม่เหมาะกับฉัน หมายถึง อย่าเลือกงาน ไม่ยากจนนั่นเอง คนเรานั้นไม่มีใครรู้หรอกว่าสุดท้ายเราจะประสบความสำเร็จกับงานแบบไหน เราจึงไม่ควรทิ้งโอกาสไปง่ายๆ
"อย่าหมิ่นเงินน้อย" บทนี้มีความหมายถึงทั้งการเลือกงานโดยไม่ต้องเกี่ยงว่ารายได้ กำไร มากน้อย แค่ไหน และหมายความรวมถึงการเก็บเงิน การออมเงินด้วย เราไม่ควรคิดว่าเราจะเริ่มเก็บเงินก็ต่อเมื่อเราได้เงินก้อน เงินเยอะๆ เราควรเก็บเล็กผสมน้อย ค่อยๆเก็บไป สักวันมันก็เป็นเงินก้อนใหญ่ได้เอง
"อย่าคอยวาสนา" บทนี้ หมายถึง คนเราไม่ควรอยู่กับที่ ฝากชีวิตไว้กับโชคชะตา วาสนา ซึ่งไม่รู้ว่ามีหรือไม่ เราควรศึกษาพัฒนาตนเอง พัฒนาการทำงาน พัฒนาสินค้าอยู่เสมอ เราต้องสร้างวาสนาของเราเอง อย่ามัวรอวาสนาให้วิ่งมาหาเรา อย่าเพ้อฝันถึงความรวย ความมั่งมี ทั้งๆที่เราไม่ยอมทำอะไรเลย
1
ทบทวน คาถา หัวใจเศรษฐี กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่า ทุกท่านคงพร้อมเตรียมตัวเป็นเศรษฐีกันทุกๆคนนะครับ
เป็นเศรษฐีมีเงินตรา แล้วอย่าลืมเป็นเศรษฐีมีน้ำใจด้วย ก็แล้วกันนะครับ
#ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านบทความนะครับ
โฆษณา