23 ส.ค. 2019 เวลา 00:30 • บันเทิง
โคตรเพชรฆาต : ตำนานไอ้ด่างเกยชัย
หากติดตามเพจหนังหลายมิติมาโดยตลอด คงรู้สึกว่าบทความนี้ดูแปลกตาไปจากเดิม
ยอมรับตามตรงครับว่า...ผมยัง งง ตัวเองเลย ...
โดยปกติการวางแผนงานเขียนของผม จะคิดหัวข้อที่อยากเขียนล่วงหน้าไว้ 4-5 หัวข้อ แต่วันนี้ผมขอลัดคิวทุกหัวข้อที่จะเขียนมาเป็นเรื่องนี้ก่อนเลย
เพราะกำลังมีไฟ หลังจากได้อ่านบทความในเฟสบุ๊คที่เล่าถึง "ไอ้ด่างบางมุด" จระเข้เพชรฆาตใน จ.ชุมพร ที่มีขนาดยาวถึง 8 เมตร ได้ทำร้ายไล่กัดและฆ่าชาวบ้านไปไม่ต่ำกว่า 6 คน จนเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนย่านคลองบางมุดเมื่อราวปี พ.ศ.2507
ผมจึงอยากเขียนถึงหนังเกี่ยวกับจระเข้เรื่องหนึ่งที่เคยดูวัยเด็ก หนังที่ทำให้ผมไม่กล้าว่ายน้ำคลองไปนานหลายเดือน
ภาพโปสเตอร์จากเพจ : Thai Movie Posters
ผมเกิดและโตย่านทวีวัฒนา
บ้านของผมอยู่ริมคลอง
ชีวิตวัยเด็กมีความผูกพันกับคลองมาก
สมัยก่อนเด็กอย่างเราไม่มีของเล่นอะไรให้เล่นมากนัก
ความบันเทิงที่ใกล้ตัวที่สุดคงไม่พ้นการโดดสะพาน เล่นน้ำคลอง
แล้ววันหนึ่ง....คนที่บ้านเช่าวีดีโอมาดู
จำได้รางๆว่าเป็นตอนเย็น....
เรื่องเวลาดูอาจจำไม่ถนัดนัก แต่ชื่อเรื่องจำได้แม่นยำ หนังเรื่องนั้นชื่อ "ไอ้ด่างเกยชัย"
เป็นการดูหนังที่น่ากลัวมาก
ตลอดการดูผมจินตนาการว่าเรื่องราวเกิดในคลองแถวบ้านตัวเอง แถมผู้ใหญ่ที่ดูด้วยกัน ยังพูดระหว่างที่หนังดำเนินไปว่า "หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง"
เด็กอย่างผมได้ยินแบบนั้นก็ขี้หดตดหาย...กลัวมาก
พอดูจบ....ความกลัวยังฝังอยู่ในหัว
ภาพไอ้เข้ว่ายน้ำมางับคนยังติดตา จนทำให้ไม่กล้าลงเล่นน้ำในคลองไปเลย
หนังเรื่องไอ้ด่างเกยชัย (พ.ศ. 2531)
สร้างโดย แกรนด์ เอนเตอร์เทนเม้นต์
มีนักแสดงนำที่ถือเป็นพระเอกสุดฮ๊อตในสมัยนั้นอย่าง บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ร่วมด้วย สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์, ราตรี วิทวัส , ดามพ์ ดัสกร ,จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก
ภาพบางส่วนจากหนังไอ้ด่างเกยชัย (พ.ศ.2531)
แม้ตัวหนังจะชื่อไอ้ด่างเกยชัย แต่เนื้อเรื่องมีเค้าโครงมาจากตำนานไอ้ด่างบางมุด ที่นำมาเสริมแต่งเรื่องราวเพิ่มความน่ากลัวของจระเข้ยักษ์เข้าไปให้น่าตื่นเต้น และสอดแทรกมุกตลกเพื่อผ่อนผู้ชมให้ได้พักหายใจหายคอบ้าง (จากบทบาทการแสดงของตลกชั้นครูอย่างจุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก)
ถือเป็นหนังไทยที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เรื่องนึงเลยทีเดียว(ยังพอหาตัวอย่างหนังดูได้ใน Youtube ครับ)
ประวัติไอ้ด่างเกยชัย หนึ่งในสองตำนานจระเข้เพชรฆาตของไทย(อีกตัวคือไอ้ด่างบางมุด ซึ่งผมได้กล่าวถึงในตอนต้นของบทความนี้)
ไอ้ด่างเกยชัย เป็นจระเข้ยักษ์สมัยรัชกาลที่ 5
บริเวณบ้านเกยชัย จ.นครสวรรค์
(ปัจจุบันคือ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์)
ความที่จมูกของมันมีรอยด่างสีขาว ผู้คนจึงเรียกมันว่าไอ้ด่าง ความดุร้ายของมันเป็นที่โจษขานไปทั่ว เพราะมันได้อาละวาดกินคน จนหมอจระเข้ต้องมาปราบ และตัดหัวมันไป
ว่ากันว่าลำตัวของมันมีความยาว 9-10 เมตรเลยทีเดียว
(เรื่องราวของไอ้ด่างเกยชัยนั้น มีบันทึกไว้เพียงสั้นๆ ในสมุดบันทึกของกรม พระยาดำรงราชานุภาพ)
ส่วนจระเข้อีกตัวคือ ไอ้ด่างบางมุด นั้นก็ไม่น้อยหน้า
มีการสร้างหนังของมันเช่นเดียวกัน ในชื่อเรื่อง "โคตรเพชรฆาต" (พ.ศ. 2548)
กำกับโดย อนัต ยวงเงิน
นำแสดงโดย ชาติชาย งามสรรพ์ , จิรภัทร์ วงศ์ไพศาลลักษณ์ , วรพรต ชะเอม ,ยอดชาย เมฆสุวรรณ
ไอ้ด่างบางมุด อาละวาดกินคนย่านคลองบางมุด อ.หลังสวน จ.ชุมพร
จนชาวบ้านแถวนั้นไม่กล้าลงเล่นน้ำ มีการตั้งรางวัลนำจับถึง 8,000 บาท (พ.ศ.2507)
แต่มันก็รอดการไล่ล่าไปได้หลายครั้ง
จนในที่สุด สิบเอกจำนง พิมาน พร้อมเพื่อนทหาร 4 นาย ได้ทำการปราบมันได้สำเร็จด้วยระเบิด C3
เป็นการปิดตำนานจระเข้ยักษ์กินคนของไทย
(หลังการตายของไอ้ด่างบางมุด ว่ากันว่าพบกระโหลก มนุษย์ถึง 2 หัว อยู่ในกระเพาะของมัน)
ตำนานการเล่าขานของจระเข้ที่ยกมานี้
แม้จะดุร้ายเพียงใด ก็เป็นเพียงความดุร้ายอันเกิดจากสัญชาตญาณของสัตว์
มนุษย์ได้ทำการพิสูจน์แล้วว่า ต่อให้สัตว์จะดุร้ายเพียงใด มันก็ไม่อาจต้านทานมนุษย์ได้
ท้ายที่สุดการป้องกันตัวเองของมนุษย์...มันก็สะท้อนภาพความดุร้ายของมนุษย์เช่นกัน
ความป่าเถื่อนที่ทำลายล้างด้วยความป่าเถื่อนของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งดี
ธรรมชาติอนุญาตให้เราปกป้องตนเองแต่พองามในขอบเขตจำกัด มนุษย์แม้คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่เพียงใด เราก็ไม่ใช่ผู้กำหนดชะตากรรมของทุกสิ่ง
เราคือส่วนหนึ่งของกันและกัน ส่วนหนึ่งของสรรพชีวิตที่โยงใยถึงกัน ตราบใดที่เราไม่รุกล้ำจนเสียสมดุลย์ธรรมชาติ ตราบนั้นธรรมชาติก็จะปกป้องเรา...ปกป้องลูกหลานของเรา
เครดิตภาพประกอบ :
โปสเตอร์หนังจากเพจ : Thai Movie Posters
โฆษณา