23 ส.ค. 2019 เวลา 01:38 • ไลฟ์สไตล์
ถึงเศรษฐกิจจะแย่ ขอแค่เราสู้..
สวีดัสสวัสดีคะทุกคน เมื่อวานมาทำธุระที่ กทม. และกลับ ตจว.วันนี้ คะ เลยมีเรื่องราวจากคนขับแทกซี่ที่บ่นบนรถมาเล่าให้ฟังกันคะ
เช้ามืดของวันนี้เวลาประมาณ 05.30 น. เราก็ยืนรอแท็กซี่เพื่อไปขึ้นรถไฟที่สถานีรังสิต ไม่นานนักแท็กซี่ก็มาเราโบกรถจอดก็บอกจุดหมายปลายทางไป แท็กซี่โอเคตกลงไปตามที่เราบอก
พี่แท็กเป็นผู้หญิงด้วยนะ พี่เขาเห็นเราจะไปสถานีรถไฟก็เข้าใจว่าเราจะนั่งรถไฟไปทำงานใน กทม. พี่แท็กก็ถามว่า "จะขึ้นรถไฟไปทำงานหรอคะ ทำงานที่ไหน" เราก็บอกว่า "ออเปล่าคะจะนั่งรถไฟกลับ ตจว. คะ ไม่ได้ทำงานที่ กทม.แล้วคะ"
พี่แท็กก็พูดคำหนึ่งขึ้นมาอีกว่า "เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม??" เราก็งงๆเลยตอบว่า "พอดีหนูพึ่งมาเมื่อวานคะมาทำธุระยังไม่ทันได้สังเกตุอะไร มีอะไรที่เปลี่ยนไปหรอคะ? ที่จริงหนูก็พึ่งกลับไปอยู่ ตจว.เมื่อต้นปีนี้เองคะ"
พี่แท็กเลยบอกว่า "ได้สังเกตุเห็นคนที่น้อยลงไหม? ร้านค้าเพิ่มขึ้นมากมายไหม?" เราก็พยายามคิดตอนเราเดินผ่านว่ามันจริงไหม?
เฮ้ย!! แต่มันก็จริงอย่างที่พี่แท็กว่านะ เพราะจากที่ที่เรายืนรอแท็กซี่ เมื่อก่อนไม่มีร้านขายน้ำ ไม่มีร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง แต่ตอนนี้กลับมีจริงๆอย่างที่พี่แท็กว่า
เราก็เลยถามแบบไม่รู้จริงๆว่า "ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นคะพี่" พี่แท็กก็เลยร่ายยาวเลยว่า "ทุกวันนี้คนตกงานเยอะ คนที่อายุงานเยอะๆก็โดนจ้างออก หลายคนก็กลับ ตจว. หลายคนมีทุนหน่อยก็เปิดร้านขายของเพราะมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ยังไปไหนไม่ได้
จริงๆก่อนหน้านี้พี่ก็ทำงานบริษัทนะ แต่ไม่ค่อยโอเคก็เลยออก ซึ่งสำหรับพนักงานใหม่มันไม่โอเคเลยจริงๆ เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะเงินเดือนมันน้อย ยิ่งถ้าไม่มีโอที ก็ยิ่งอยู่ลำบาก ซึ่งตอนนี้มันก็แย่ตามๆกันไปหมด
ข้าวที่เคยห่อละ 5 บาท ก็เป็น 10 บาท แถมยังได้น้อยกว่าเดิม คนซื้อลดลงคนขายเพิ่มขึ้น มันก็เลยแย่ๆตามๆกันไปหมด พอคนไม่มีเงินก็ไม่นั่งแท็กซี่กัน รายได้ก็ไม่ดีเหมือนก่อน แต่โชคดีหน่อยที่พี่ไม่ต้องเช่าบ้านอยู่งั้นก็ลำบากเหมือนกัน" พี่แท็กกล่าว
จากที่นั่งฟังพี่แท็กเล่าทำให้เรารู้สึกว่า พี่แท็กเนี่ยเป็นผู้สื่อข่าวคอยกระจายข่าวให้ผู้โดยสารได้รับรู้เหตุการณ์ต่างๆได้ดีเชียวละ ทำให้เรารู้ถึงเศรษฐกิจบ้านเราที่แย่ลงจากเดิม จากประสบการณ์ตรงของคนจริงๆ ซึ่งทำให้มองเห็นภาพของคนรากหญ้าที่ลำบากกันมากขึ้น
ในวันที่ข้าวของก็แพงขึ้น รายได้ก็ลดน้อยลง บางคนอดรนทนไม่ไหวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้ลดน้อยลง ก็ต้องกลับ ตจว. ที่ที่คิดว่าอยู่แล้วสบายใจที่สุด
แต่ที่จริง ณ.ตอนนี้ ตจว. ก็ไม่ต่างกัน ข้าวของก็แพงเหมือนกัน ยิ่งปีนี้ฝนก็แล้งข้าวตายเป็นระนาว ปีหน้าไม่รู้จะเอาข้าวที่ไหนกิน เงินจะซื้อข้าวกินนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะรายได้ส่วนใหญ่ก็มาจากการขายข้าวของเกษตรกร มันก็เลยดูแย่ไปหมด หดหู่ไปหมด จึงได้แค่ตอบพี่แท็กกลับไปว่า "สักวันมันคงจะดีขึ้น สู้ๆนะคะพี่ หนูเองก็ยังมองไม่เห็นทางออกเลย รู้แค่ว่าเราคงต้องสู้ไปด้วยกันคะ"
อย่างน้อยการที่เราเลือกกลับ ตจว. ก่อนก็เป็นเรื่องดีนะที่ไม่ต้องไปแย่งขึ้นรถ แย่งทางเดิน แย่งซื้อของ กับคนหมู่มาก ถึงวันนี้ไม่กลับ พรุ่งนี้หรือวันข้างหน้าก็ต้องกลับมาซบอุ่นไอดินอยู่ดี อาจจะขาดสภาพคล่องนิดๆหน่อยๆ ก็มีรั้วกินได้ที่ช่วยให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน
เหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำ มองต่ำเห็นดินผืนหญ้า
มองสูงเห็นนกบนนภา ผการิมทางมากมี
เดินยลท้องนาบ้านนอก ต่างตรอกซอกซอยกรุงศรี
รถราตึกสูงไม่มี คืนถิ่นครานี้สุขใจ..
ใครที่กำลังท้อแท้สิ้นหวังมองไม่เห็นทางอยู่ เราขอเป็นกำลังใจให้นะ ขอให้สู้ ขอให้มีสติ ขอให้เจอทางออกเร็วๆ ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มาก ถึงจะส่งผ่านได้แค่กำลังใจ แต่จงรับรู้ไว้ว่าทุกคนก็ล้วนมีปัญหาหากแต่เป็นปัญหาที่ต่างกันก็แค่นั้นเอง...
ขอบคุณพี่แท็กที่สร้างแรงบันดาลใจในการเขียนบทความนี้นะคะ❤❤❤
ขอบคุณทุกคนที่คอยอ่านคอยให้กำลังใจ ชอบกดไลน์กดแชร์กดติดตาม เพื่อเป็นยาเสริมพลังกายพลังใจให้มีกำลังใจในการเขียนต่อไปด้วยนะคะ ❤❤ ผิดพลาดประการใดขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ ❤
#เด็กบ้านนอก
ขอบคุณภาพจาก ThaiPublica
โฆษณา