10 สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจเจ๊ง (Donal R.keough อดีตประธานบริษัทโคคา-โคลา เป็นคนกล่าวไว้)
1.ไม่รับความเสี่ยง
บริษัทโคคา-โคลา ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1886 ซึ่งถึงแม้ว่าบริษัทจะประสบความสำเร็จมาตลอด แต่ทางผู้บริหารก็ยังคงไม่พอใจ ขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ (และยิ่งขยายมากเป็นพิเศษในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเปราะบาง)
ในช่วงเวลานั้นมีหลายคนไม่เห็นด้วย เนื่องจากเรามีกำไรดีอยู่แล้ว ทำไมต้องเสี่ยงขยายไปต่างประเทศมากมายขนาดนี้ แต่ใครจะรู้ว่าถ้าในช่วงเวลานั้น ผู้บริหารไม่รับความเสี่ยงในการขยายกิจการเลย เราอาจจะไม่ได้กินโค้กอย่างทุกวันนี้
มีหลายๆบริษัทที่ประสบความสำเร็จจากสินค้าใดสินค้าหนึ่งแล้ว ไม่พัฒนาต่อ เนื่องจากกลัวจะล้มเหลว สุดท้ายก็จะล้มเหลวจริงๆ
2.ไม่ทำตัวยืดหยุ่น
เพื่อนๆรู้ไหมว่าสมัยก่อนขวดโค้กจะเป็นขวดแก้วสีเขียวขนาด 185 มิลลิลิตร และมีขนาดเดียว ซึ่งผู้บริหารภูมิใจกับเอกลักษณ์นี้มาก จนกระทั่งคู่แข่งอย่างเป๊ปซี่ได้เริ่มจำหน่ายขวดขนาด 340 มิลลิลิตร ขนาดมากกว่าเกือบ 2 เท่า แต่ราคาเท่ากัน
ช่วงเวลานั้นทางผู้บริหารโคคา-โคลา ไม่ทำอะไรเลย เนื่องจากมั่นใจว่าสุดท้ายเป๊ปซี่น่าจะแบกรับต้นทุนไม่ไหว แต่ผลลัพธ์กลับเป็นตรงกันข้าม เนื่องจากยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด เลยทำให้เป๊ปซี่มีกำไร ช่วงนั้นเป๊ปซี่แย่งส่วนแบ่งการตลาด (market share) ได้เยอะมาก จนสุดท้ายโคคา-โคลาถึงได้เริ่มปรับขนาดขวดให้มีหลายขนาดมากขึ้น ซึ่งก็ยังดีที่ยังทำอะไรบ้าง
3.แยกตัวออกจากคนอื่น
ผู้บริหารบริษัทใดก็ตามที่ถือตัว มีอีโก้ และต้องการห้องใหญ่ๆไว้ทำงานคนเดียว ไม่ต้องการพูดคุยกับใคร เตรียมตัวเผชิญภาวะวิกฤติได้เลย เนื่องจากการที่เราจะทราบความเป็นไปของบริษัทนั้น เราควรจะคุยได้กับทุกฝ่าย และลงไปในพื้นที่จริงๆ คุยกับทั้งหัวหน้าฝ่ายและลูกน้องในฝ่าย เพื่อทราบถึงปัญหาต่างๆ ไม่ใช่แค่หมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน และอาศัยการอ่านผลประกอบการในกระดาษอย่างเดียว
4.คิดว่าตัวเองถูกเสมอ
ในปี ค.ศ.1999 บริษัทโคคา-โคลาถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุทำให้เด็กนักเรียนในเบลเยี่ยมล่มป่วยจากการดื่มโค้ก บริษัทจึงลงมือตรวจสอบทางเทคนิคเล็กน้อย แล้วก็เชื่อว่าไม่มีส่วนประกอบใดๆทำให้เด็กป่วย ผู้บริหารมั่นใจว่าเราไม่ผิดแน่นอน
อย่างไรก็ตามพ่อแม่ของเด็กๆที่ป่วยไม่คิดอย่างนั้น ยอดขายของโค้กจึงร่วงระนาว ผู้บริหารจึงเริ่มทำในสิ่งที่ควรทำตั้งแต่แรกคือเรียกเก็บสินค้าคืนทั้งหมดในเบลเยี่ยม แต่เหตุการณ์มันลุกลามไปจนเกิดเป็นกระแสแง่ลบ สุดท้ายทางบริษัทโคคา-โคลา จึงต้องเรียกเก็บสินค้าคืนครั้งใหญ่สุดในรอบ 120 ปีของบริษัท
5.เล่นไม่ซื่อเข้าไว้
เรื่องนี้ผมว่าเพื่อนๆคงเข้าใจดีว่าถ้าการทำธุรกิจของเราอยู่บนพื้นฐานของการโกหก หรือการโกง ธุรกิจนั้นอาจจะทำกำไรได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ธุรกิจนั้นคงไม่มีความยั่งยืนอย่างแน่นอนครับ
ส่วนอีก 5 ข้อที่เหลือเดี๋ยวจะมาเขียนแชร์ให้นะครับ กลัวว่า post นี้จะเยอะเกินไป 😂 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า post นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยครับ
- 88
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
