26 ส.ค. 2019 เวลา 11:55 • ธุรกิจ
บทที่ 1 จะทำธุรกิจอะไรดี???
หลายๆ คนเริ่มคำถามจากคำว่า “จะทำอะไรดี” ดังนั้นบทความนี้ผมจะมาช่วยบอกวิธีว่าเราจะหา “อะไรดี” มา ”ทำ” ได้ยังไง
1. สำรวจตัวเอง
อันดับแรกของการหาว่า “อะไรดี” คือการที่เราจะต้องหาก่อนว่า “เรามีอะไรดี” อาจจะเริ่มจากสำรวจตัวเองก่อนว่าถนัดด้านไหน มีความรู้หรือความสนใจเกี่ยวกับเรื่องอะไร อย่างตัวผมเองทำงานเป็นนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ it (System Analysts) ดังนั้นผมจึงสำรวจแล้วพบว่าจุดแข็งของปมคือเข้าใจลูกค้าหรือ user ได้ดี พอจะมองปัญหาและความต้องการออก ก็จดข้อนี้ไว้
2. สำรวจตลาด
หาว่าอะไรที่มีแล้วและอะไรที่ยังไม่มี หรืออะไรที่มีคนขายเหมือนเยอะๆ ใช่ครับอ่านไม่ผิด ผมหาอะไรที่เค้าขายเหมือนกันเยอะๆ เพื่อมองว่าเราจะแทรกเข้าไปตรงไหนได้บ้าง หรือจดไว้ว่าตลาดการแข่งขันสูงไป ไม่ควรเล่น
อย่างธุรกิจแรกของผมคือขายกางเกงยีนส์ขาสั่นของผู้หญิง แบบ 3 ตัว 100 บาท ซึ่งสมัยนั้นยังไม่ค่อยมีคนขายกันเท่าไหร่ ผมเริ่มจากเดินตลาดนัดเพื่อหาดูว่ามีอะไรที่น่าขาย จนมาเจอกางเกงยีนส์ขาสั้นร้านเดียวในตลาด ขายดีมากๆๆๆๆๆ แต่ขายช่วงนั้นคือตัวละ 99 บาท ผมจึงหาว่าแหล่งของส่งน่าจะอยู่ที่ไหน แหล่งแรกที่เราเจอคือโบ้เบ้ ขายเป็นแผงๆที่ริมคลอง ขายส่ง 4 ตัวร้อย จึงลงทุนไป 2,000 บาทแรกขายตลาดนัดวันหยุดที่ ราคาตัวละ 79 บาท 2 ตัว 150 ปรากฏว่าขายหมดภายในวันเดียว. ได้กำไรมา เกินเท่าตัว
3. สำรวจทรัพยากร
หลังจากสำรวจตลาดก็ต้องมีดูว่าเรามีกำลังเท่าไหร่ มีใครจะมาช่วยเราได้บ้าง ช่วงแรกเราต้องพยายามทำเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เนื่องจากเราไม่ได้มีทุนมากมายนัก ดังนั้นทรัพยากรบุคคลที่มากจากคนใกล้ตัวจึงสำคัญมากๆ อย่างธุรกิจปัจจุบันของผมก็มีภรรยาเป็นกำลังหลักในการผลิตสินค้า
4. สำรวจราคา
หลังจากพอที่จะมองเห็นแล้วว่าจะทำอะไร หรือขายอะไรดี ก็ต้องสำรวจราคาตลาดก่อนว่าเค้าขายกันอยู่ประมาณเท่าไหร่ ถูกสุดเท่าไหร่ แพงสุดเท่าไหร่ เพื่อเตรียมการในการตั้งราคา
5. หาแหล่งสินค้า
หลังจากสำรวจจนได้ราคากลางแล้ว หลังจากนั้นต้องค้นหาแหล่งที่มาของสินค้า ศึกษาสินค้า แบบและราคาให้มากๆ ขั้นตอนนี้ต้องในเย็นๆ อย่ารีบ ค่อยๆ หาให้แน่ใจก่อนค่อยตัดสินใจ
จากข้อ 2 พอคนเริ่มเห็นว่าขายดี ก็จะมีคนมาหาเหมือนๆ เราเยอะขึ้น จนเกิด price war ขึ้น จนราคาที่รับจากโบ้เบ้สู้ไม่ได้ จึงต้องหาแหล่งใหม่ จนไปเจอที่ตลาดโรงเกลือสระแก้ว ส่งกระสอบละ 1,000 บาท ค่าส่ง 100 บาท (ฝากรถทัวส์) เฉลี่ยตกตัวละไม่ถึง 15 บาท จึงสามารถแข่งขันได้ แต่พอ price war หนักๆเข้าจนถึง 4 ตัว 100 บาทจึงเลิกกิจการไป ข้อนี้จึงอยากให้ศึกษาตลาดและแหล่งวัตถุดิบให้ดี และอ่านตลาดให้เป็น เพื่อไปชิ่งให้ทันก่อนจะตกรถไฟ
กฎเหล็กของขั้นตอนนี้คือ อย่ารีบ และอย่าเสียเงินโดยใช่เหตุ เพราะเราไม่ได้มีทุนพอที่จะเสียมากมาย ดังนั้นต้องลงทุนกับเวลาและการศึกษาให้มากที่สุด พยายามดูให้เยอะ ศึกษาให้เยอะ อย่าฟังคนอื่นว่า อย่าเชื่อคนอื่นพูด ไปดูให้เห็นกับตา ไปฟังให้ได้ยินกับหู ค่อยตัดสินใจ
สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนที่กำลังหาไอเดียร์เริ่มธุรกิจอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ หากใครมีข้อสงสัยหรืออยากพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน คอมเมนท์ที่ด้านล่างได้เลย ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วพบกันบทต่อไปครับ
โฆษณา