27 ส.ค. 2019 เวลา 17:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
“ คุณเคยถูกตัดสินจากคนอื่นโดยการเหมารวมไหม? “
โดยขอเกริ่นย้อนถึงประวัติผู้เขียนหนังสือนิดหน่อยคือเป็นแพทย์จากสวีเดน ที่มีโอกาสเดินทางไปทำงานในประเทศต่างๆ และ เขียนหนังสือเล่มนี้ที่ทำให้คนอ่านอย่างผมรู้สึกเหมือนโดนหลอกด่าว่าตอบคำถามได้ไม่ต่างไปจากลิงแล้วปลอบใจด้วยสถิติที่คนอื่นๆที่ตอบชุดคำถามนี้ก็ไม่ต่างจากเรา
“ สัญชาตญาณแห่งการเหมารวม “
บทนี้เปิดด้วยเรื่องเล่าของผู้เขียนที่ได้มีโอกาสได้ทางอาหารท้องถิ่นของชาวบ้านกับเพื่อนอีกคนและชาวบ้านตอนรับด้วยหนูย่างเป็นจานหลัก อาหารที่ทำจากหนอนเป็นของหวาน ลุงแกไม่ไหวกับหนอนจึงปฏิเสธไปโดยบอกไปว่า “พวกเราไม่กินหนอน” ในขณะที่เพื่อนขอแกคาบหนอนเต็มปาก จึงต้องอธิบายอีกยืดยาวเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเสียใจ
คำถามหลักที่หนังสือเล่มนี้ได้ถามตั้งแต่ต้นคือ จำนวนเด็กที่อายุ 1ปีทั่วโลกในปัจจุบัน มีร้อยละเท่าไหร่ ที่แกต้องการชี้ให้เห็น
และมีงานภาพการแบ่งกลุ่มรายได้4ระดับที่เป็นเรื่องหลักของเล่มนี้ที่ดูเพิ่มได้จาก
แต่เรื่องเล่าที่ผมชอบมากเรื่องการเหมารวมคือเรื่องนักศึกษาแพทย์ที่ได้เดินทางไปอินเดียกับลุงแกคือ การใช้ลิฟต์ โดยแกและนักศึกษาได้เข้าไปในลิฟต์ เมื่อมีคนอื่นกำลังเดินตามหลังมาที่ลิฟต์ หลังกลุ่มของแกได้เข้าไปแล้ว นักศึกษานั้นจึงใช้ขายื่นออกไปนอกตัวลิฟต์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ ประตูลิฟต์ปิดช้าๆ หนีบขา และกำลังขยับขึ้นไปชั้นถัดไป !!
นักศึกษาร้องลั่น ชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกดปุ่มฉุกเฉิน และคนอื่นๆต้องช่วยกันถ่างประตูให้พอเอาขาออกมาได้ หลังจากปลอดภัยเพื่อนชาวอินเดียจึงถามลุงแกว่า โง่ขนาดนี้รับมาเป็นแพทย์ได้ไง ลุงแกก็ต้องมาอธิบายว่าที่สวีเดนมีระบบเปิดประตูเมื่อมีอะไรมาขวาง
ชาวอินเดียถามต่ออีกว่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันจะทำงาน ลุงแกก็ได้แต่ตอบไปว่า ก็ปกติมันก็เปิดนะ
ซึ่งชาวอินเดียก็ดูจะไม่ค่อยเชื่อลุงแกสักเท่าไหร่
แต่หาพูดถึงการเหมารวมก็ถือเป็นสัญชาตญาณปกติของมนุษย์ที่ทำเพื่อจัดหมวดหมู่ให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ก็จะมีความผิดพลาดที่เกิดได้
หนังสือได้สอนวิธีควบคุมมา 5ข้อ
1.มองหาความต่างในกลุ่ม
2.ระวังส่วนใหญ่
3.ระวังตัวอย่างที่เป็นข้อยกเว้น
4.สมมติว่าตัวคุณไม่ปกติ
5.ระวังการเหมารวมว่าอีกกลุ่มเหมือนอีกกลุ่ม
“แล้วคุณหล่ะตัดสินคนอื่นแบบเหมารวมหรือเปล่า?”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา