29 ส.ค. 2019 เวลา 00:30 • ประวัติศาสตร์
.
ส่วนใหญ่เวลาที่คนเราเลิกกัน มักจะต้องเกิดขึ้นแถวๆ จุดเปลี่ยนของชีวิตที่เป็น turning point ต่างๆ เช่น เรียนจบ เปลี่ยนงาน ไปเรียนต่อ ย้ายที่อยู่ เพราะคนหนึ่งยังอยู่ที่เดิม มีชีวิตแบบเดิม สถานที่เดิม กิจกรรมเดิม เพื่อนกลุ่มเดิม แต่อีกคนได้ไปเจออะไรใหม่ ปรับตัวกับเรื่องใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ เพื่อนใหม่ แล้วก็ต้องปรับตัวเองจนเปลี่ยนไปมาก
จากคนที่เคยเดินมาด้วยกัน วันหนึ่งก็เหมือนเราเดินด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน จากคุยกันง่ายก็กลายเป็นต่อกันไม่ติดบ้าง คุยคนละเรื่องบ้าง หรือเป็นเรื่องที่อีกคนรู้สึกว่าฉันไม่เกี่ยวบ้าง ฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าอีกคนเปลี่ยนไป และกลัวว่าตัวเองจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็รู้สึกว่าอีกคนไม่เข้าใจและไม่ซัพพอร์ตชีวิตในช่วงการเปลี่ยนแปลงซึ่งมักจะยากลำบาก ก็จบลงที่การทะเลาะจนแยกทาง เพราะว่าคนหนึ่งได้เติบโตจนเปลี่ยนไปแล้วตลอดกาล แต่อีกคนยังคงคาดหวังให้ ‘เหมือนเดิม’ สุดท้ายก็ช้ำทั้งสองฝ่าย
หากเรายึดติดกับคนรักคนเดิม คนที่เราเคยรู้จักเมื่อครึ่งปีที่แล้ว หนึ่งปีที่แล้ว หรือหลายปีที่แล้ว แล้วคาดหวังให้เขาเป็นแบบนั้นตลอดไป พอวันหนึ่งเขาอยากเติบโต เราก็ผิดหวังและไม่เข้าใจ คิดไปคนละทาง มันก็คือการ grow apart ทั้งที่ในความเป็นจริงของชีวิตมองไปรอบตัว มีอะไรที่คงเดิมตลอดไปบ้าง ไม่มีเลยสักอย่าง สิ่งที่มันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ถ้ามี มันก็คือสิ่งไม่มีชีวิต เพราะสัญลักษณ์ของการมีชีวิตอยู่คือการเติบโต และการเติบโตก็เท่ากับการเปลี่ยนแปลง สิ่งใดไม่เปลี่ยนไปเท่ากับสิ่งนั้นได้ตายไปแล้ว ใช่ไหม?
การเปลี่ยนแปลงเท่ากับการเติบโต แล้วเราไม่อยากให้คนที่เรารักได้เติบโตอย่างสวยงามหรอกหรือ? เราไม่อยากเห็น best version ของคนที่เรารักเหรอ? ถ้าเราอยาก เราจะกักเขาไว้ในกรอบตัวตนเดิมที่เรารู้จักเขาทำไม ถ้าเรารักใครอย่างแท้จริง เราน่าจะตื่นเต้นกับการเติบโตของเขา สนุกไปด้วย เอาใจช่วยกับเส้นทางชีวิตที่เขากำลังต้องเจอ ถ้าเราเคยตกหลุมรักคนคนหนึ่งในวันนั้นได้ เราจะตกหลุมรักคนเดิมใหม่อีกเรื่อยๆ ไม่ได้เชียวหรือ
เราเชื่อว่าหนึ่งในเคล็ดลับสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์ คือเราต้องชอบเห็นคนรักของเราเปลี่ยนไป (ในทางที่ดีขึ้นกับเขา) ปรับตัวไปพร้อมๆ กัน รักการเปลี่ยนแปลงของเขา คอยลุ้นไปด้วยกับทุกๆ ความท้าทายที่เขาต้องเจอ และอยู่ข้างๆ ท่ามกลางความวุ่นวายที่เขาต้องเผชิญ เพราะเขากำลังปรับตัว กำลังเหนื่อย กำลังต่อสู้ เราก็คอยเป็นร่มให้ในวันที่แดดร้อน เป็นน้ำในวันที่เขาห่อเหี่ยว เป็นอ้อมกอดเป็นหัวใจให้เขาในวันที่หมดแรง เป็นคำพูดดีๆ ในวันที่โลกทำร้ายเขา และเราจะรู้ว่า เมื่อถึงเวลาที่เราต้องเติบโตบ้าง เขาก็จะเป็นบ้านที่สบายใจและพร้อมจะซัพพอร์ตการเติบโตให้กับเราเหมือนกัน คอยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ no.1 fan ให้กันและกัน ให้ต่างคนต่างภูมิใจได้ว่าเราเป็นส่วนสำคัญของการเดินทางชีวิตของกันทั้งคู่ และความสุขความสำเร็จในชีวิตของเราทั้งสองคนก็เกิดขึ้นได้เพราะคนข้างๆ เรานี่แหละ
ต้นไม้สองต้นจะโตสูงใหญ่ได้ยังไง ถ้าปลูกเอาไว้ติดกัน เว้นที่ให้ได้รับแดดได้รับน้ำกันเต็มที่ ให้รากลงลึกในดิน ให้กิ่งก้านได้แผ่ขยายออกไป เราจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน โตไปข้างๆ กัน เว้นที่ว่างที่กำลังอุ่นพอดีให้กันและกันได้เติบโต ภูมิใจในคนของเราและตกหลุมรักคนเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกไปเรื่อยๆ เพราะรักกันมากขึ้นทุกทีที่เห็นเธอเปลี่ยนไป Let’s grow old together.
.
รักมากขึ้นทุกทีที่เธอเปลี่ยนไป
โฆษณา