29 ส.ค. 2019 เวลา 01:22 • บันเทิง
Review : ศิลปฆาตกรรม
ชื่อเรื่อง : ศิลปฆาตกรรม เล่ม 1-3 (Murder Artist Psycho Detective)
ผู้เขียน : Wadoiji
จำนวนหน้า : (เล่ม 1) 285 หน้า (เล่ม 2) 263 หน้า (เล่ม 3) 279 หน้า (ทำไมเล่มบางกว่าเล่ม 2 ล่ะ ฮา)
ราคา : (เล่ม 1) 195 บาท (เล่ม 2) 185 บาท (เล่ม 3) 195 บาท (แต่ไปเดินที่ บีทูเอสช่วงก่อน ได้มาในราคา 60 บาท สามเล่มจบเลยค่ะ)
สำนักพิมพ์ : ฟิสิกส์เซ็นเตอร์
ปกหลัง :
แม้จะเป็นเวลากลางคืนทว่าผู้คนกลับพลุกพล่าน ทุกคนกางร่มเพื่อไม่ให้หยดน้ำฝนจากฟากฟ้าหล่นมากระทบตนเอง เวลาหมุนไปเรื่อย ๆ ตามปกติ ยังไม่มีใครสนใจการฆาตกรรม ที่พึ่งเกิดขึ้นในที่แห่งนั้นเลยสักคนเดียว...
ค.ศ. 2031 ศิลปะและการฆาตกรรมได้หลอมรวมกันขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
ค.ศ. 2033 ศิลปะฆาตกรรมอันวิปลาสย่างกรายเข้ามาสู่ประเทศไทย โดยการนำขอนักศิลปะฆาตกรรมผู้ถูกเรียกว่า "พระเจ้า"
อดีตนายตำรวจอย่าง "นักรบ" ถูกเรียกตัวกลับมาช่วยสืบสวนคดี พร้อมทั้งมีความช่วยเหลือจากทางญี่ปุ่นมาร่วมด้วย แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าถึงตัวพระเจ้า นักศิลปะฆาตกรรมอีกคนก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้ตัวพวกเขาอย่างที่ไม่มีใครทันได้คาดคิด พวกเขาจะยับยั้งมันได้หรือไม่ หรือจะต้องกลายเป็นเหยื่อเสียเอง ?
บางครั้งความยุติธรรมหรือความถูกต้องก็ไม่ได้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้...
คุณเองก็อาจจะทราบดีอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ...?
สวัสดีค่ะ หลังจากที่ห่างหายไปนานเราก็มีเรื่องสนุก ๆ มาแนะนำอีกแล้วค่ะ เป็นนิยายเชื้อสายไทยอย่างแท้ทรู เนื้อเรื่องก็ตามชื่อเลยค่ะ "ศิลปฆาตกรรม" นั่นคือ การฆ่าคนเพื่อมาทำเป็นงานศิลปะนั่นเองค่ะ
เรื่องเกิดจากปี ค.ศ. 2031 ที่ประเทศญี่ปุ่นมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น ทว่าเมื่อตำรวจสองนายไปยังที่เกิดเหตุ กับเจอสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น นั่นก็คือ ศพของหญิงสาวและเด็กทารกที่ถูกแปลงสภาพให้เป็นงานศิลปะ คล้ายกับพระแม่มาลีอุ้มเด็กทารกอยู่ เป็นงานศิลปะที่สวยงามจนต้องหลงไหล
แต่แล้วก็มีชายแก่คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางสายฝน เมื่อชายแก่พูดเพียงไม่กี่คำก็ทำให้ตำรวจนายหนึ่งนำปืนขึ้นมายิงขมับของเพื่อนตัวเอง แล้วยิงตัวตายตาม ร่างทั้งสองฟุบลงไปต่อหน้าของชายแก่ ทำให้งานศิลปะ ที่เกิดจากการฆาตกรรมชิ้นนี้เหมือนกับว่า ตำรวจทั้งสองนายกำลังสำนึกบาปต่อหน้าของพระแม่มาลี ชายแก่ผู้เห็นเหตุการณ์ ชำระล้างคราบเครื่องสำอางที่อยู่ใบหน้าและตามตัวด้วยน้ำฝน ก่อนที่รอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ นั้นจะหายไป เสื้อกันฝนสีส้มถุกส้วมขึ้นพร้อมกับสายฝนที่เหือดไป....
และถัดมาในปี ค.ศ.2033 ก็เกิด ศิลปฆาตกรรม ขึ้นที่ประเทศไทย ทำให้ "นักรบ" อดีตนายตำรวจที่ลาออกไปแล้วต้องกลับมาช่วยสืบคดีนี้อีกครั้ง และทางญี่ปุ่นเองก็ได้ส่ง "โอนิมง" มาช่วยสืบคดีในครั้งนี้ด้วย
ทว่าโอนิมงเองก็เคยร่วมงานกับพระเจ้าของนักศิลปฆาตกรรมมาก่อนทำให้นักรบนั้นระแวงในตัวของโอนิมง ว่าจะแอบเป็นสายให้กับนักศิลปฆาตกรรมหรือเปล่า แต่ใครจะรู้เล่าว่าจริง ๆ แล้วคนที่นักศิลปฆาตกรรมส่งมานั้น ไม่ใช่โอนิมงแต่อย่างใด กลับเป็นคนที่พวกเขาไม่ทันได้คาดคิด รวมไปถึงคนที่เป็นนักศิลปฆาตกรรมเองด้วย
สำหรับนิยายเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แอมชอบมาก ๆ เลยค่ะชอบคนคิดว่าถ้าเอาไปทำหนังคงน่าดูแน่ ๆ เลยแต่ก็อดคิดไม่ได้อีกว่า ถ้าเกิดมันออกมาดีจนคนเลียนแบบล่ะ แบบนั้นคงวุ่นน่าดูเลยค่ะ
งานศิลปะที่เกิดจากศพนั้น มีทั้งแนวแอบสแตรก เรเนซองส์ ค่ะ ซึ่งแอบสแตรกนั้นทุกคนคงรู้ดีว่าเป็นแนวอาร์ตแตก แบบมาก ๆ ซึ่งในเรื่องนี้นักเขียนก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังค่ะ...
ขอยกตัวอย่างของงานนี้ที่เกิดจากตัวละครที่ชื่อว่า แจ็คสัน พอลล็อค (นามแฝง) หรือที่รู้จักกันว่า หมอจาง นั่นเองค่ะ
เนื่องจากว่าตำรวจรู้ตัวของพระเจ้าผู้ที่เป็นแกนนำของนักศิลปะฆาตกรรมทั้งหมดทั้งมวลแล้ว พระเจ้าจึงไม่อาจนิ่งดูดายได้ จึงได้ขู่ตำรวจทั้ง สน. ผ่านดาวเทียมทางญี่ปุ่น(?) มาถ่ายทอดสดให้แก่คนไทย และได้ส่งให้ แจ็คสัน พอลล็อค ไปจัดการภรรยาของนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เป็นการขู่ในช่วงเวลาชุลมุน...
หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายนั้นกำลังท้องแก่และใกล้คลอด แต่ทว่าก้ไม่อาจรอดพ้นจากหมอจางได้ ในระหว่างที่หล่อนกำลังวิ่งหนีอยู่นั้นก้เผลอสะดุดล้มเข้า ทำให้หมอจางสามารถใช้เชือกผูกข้อมือและปิดปากของหล่อนไว้ได้ก่อนที่จะใช้มีดปาดเส้นเอ็นตรงข้อมือทั้งสองข้าง รวมไปถึงเอ็นร้อยหวายจนแทบขาด
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ระหว่างที่หล่อนกำลังดิ้นรนอยู่นั้นลูกของหล่อนก็ได้เวลาที่จะลืมตามาดูโลกแล้ว ด้วยความที่เป็นหมอเก่า หมอจางจึงอาสาทำคลอดให้ หญิงสาวก้ได้แต่ภาวนาว่า แม้ตัวเธอจะไม่รอดก้ขอให้ลูกของเธอนั้นรอด
ทว่าเมื่อหล่อนเบ่งจนเจ้าตัวเล็กโผล่หัวออกมาแล้ว แจ็คสัน ก็ได้ทำการปาดคอเด็กที่ดูแล้วเหมือนกำลังแสยะยิ้มอยู่ให้หล่อนดู หญิงสาวรู้สึกตกใจและเสียใจมาก แจ็คสัน เท่านั้นยังไม่พอ แจ็คสัน ได้ทำการแทงมีดเข้าไปในช่องคลอดของหล่อนแล้วปาดขึ้นจนหล่อนขาดใจตาย และนั่นก็ทำให้จางเกิดอารมณ์เพศขึ้นมา ในระหว่างกำลังพยายามปลดกระดุมเพื่อที่จะข่มขืนศพ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อขึ้น
ส่วนงานแนวเรเนซองส์นั้น ก็ช่างบรรยายออกมาได้ดีงามมาก ๆ ค่ะ
งานแนวเรเนซองส์นั้นเกิดจาก ยีน ชายหนุ่มผู้ที่รักความสะอาดมาก ถึงมากที่สุด ทุกครั้งที่เขาทำงานศิลปะจากศพนั้นเขาจะใช้น้ำยาทำความสะอาดและใส่ถุงมือทุกครั้งเพื่อไม่ให้เลือดถูกมือหรือมือโดนตัวศพเลย ยกเว้นพระเจ้าที่เขาไม่เคยรังเกลียดเลย
และเมื่อใครที่ได้เห็นงานศิลปะของเขาแล้วเป็นต้องหลงไหล และพร้อมที่จะสมัครตัวเขามาร่วมอุดมการณ์กับพระเจ้าแทบจะทันที...เป็นงานศิลปะที่โอนิมง นักสืบชาวญี่ปุ่นสุดหล่อไม่อนุญาติให้คนใน สน. โดยเฉพาะนักรบ เพราะเมื่อเห็นงานของยีนแล้ว ก็อดที่จะตาค้างจนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลยทีเดียว
คะแนนเนื้อเรื่อง 4/5 (เนื้อเรื่องดีมาก ๆ ค่ะ อ่านแล้วไม่เบื่อเลย แต่รู้สึกว่าบางปมมันเหมือนยังไม่ได้แก้ หรืออาจจะแก้แล้วแต่เรามองไม่เห็น ฮา)
คะแนนเรื่องย่อ 3.5/5 (เนื้อเรื่องย่อนั้นเขียนเกี่ยวกับเรื่องโดยรวมในเล่มได้ออกมาน่าสนใจค่ะ ด้วยความที่อ่านเรื่องย่อไม่ค่อยอินเลยรู้สึกว่าไม่น่าดึงดูดสำหรับแอมค่ะ แต่ก็ซื้อมาเพราะราคาอย่างเดียวเลยค่ะ ซื้อถูกมาจะได้ไม่เจ็บมาก ปรากฎว่า เอ้า ! เกิดคุ้ม !!!)
อาจจะเขียนขึ้นมาจากความเห็นส่วนตัวแต่ก็อยากให้เป็นสิ่งที่สามารถใช้ในการตัดสินใจก่อนจะซื้อหนังสือมาอ่านได้นะคะ แหะๆ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ติชมและให้กำลังใจได้นะคะ 💕💕
โฆษณา