10 ก.ย. 2019 เวลา 14:19
แค้นนี้ต้องชำระ
ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com
"ความแค้น" คำนี้ใครๆก็ไม่อยากเป็น ไม่อยากรู้สึก แต่บางครั้ง มันก็หนีไม่พ้น เมื่อมีคนทำให้เรา "แค้นใจ" 🔥💛
คุณๆเคยแค้นใครไหมครับ แล้วยังรู้สึกแค้นอยู่ไหม คุณคงรู้สึกอึดอัด
น่าดู เรามาร่วมกันหาทางออกดีกว่า
ผมได้มีโอกาสฟังคุณเอ๋ นิ้วกลม หรือคุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักคิด นักเขียนชื่อดัง ได้พูดเรื่องความแค้นเอาไว้ว่า..
ความแค้นของคนเรา เมื่อมีความแค้น เราก็ต้องชำระ คุณเอ๋กล่าวว่า เมื่อคนเรามีความแค้น คนเราจะสามารถตอบสนองต่อความแค้นนั้นได้ 3 อย่างคือ
1️⃣ ล้างแค้น ถ้าพูดว่า แค้นนี้ต้องชำระ คนส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจตรงกันว่า มันคือการล้างแค้น ใครทำอะไรไม่ดีกับเราอย่างไร เราต้องทำไม่ดีกลับไปอย่างนั้น หรือหนักกว่านั้น เขาตีเรา เราตีกลับ เขาต่อยเรา เราต่อยกลับ เขาโกงเรา เราโกงกลับ เขาฆ่าคนของเรา เราก็ต้องกลับไปฆ่าเขากลับ แบบนี้เรียกว่า การล้างแค้นด้วยการกระทำแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ซึ่งมันอาจจะไม่มีวันจบสิ้นเหมือนในหนังจีนกำลังภายใน 10ปียังไม่สาย ต้องล้างแค้นกันจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน เลยทีเดียว
2️⃣ นิ่งเฉย เก็บความแค้นไว้ในใจ วิธีนี้ดูเหมือนดี เพราะไม่มีการกลับไปทำร้ายคนที่ทำให้เราเคียดแค้น แต่การนิ่งเฉยเพียงการแสดงออก แต่ในจิตใจกลับไม่ยอมลืมความแค้น มันก็เหมือนการจุดไฟบนเทียนเล่มเล็กๆในห้องครัวแล้วคอยต่อเทียนไปเรื่อยๆ ถึงแม้ไฟมันจะน้อย แต่หากวันใดมีแก๊สรั่วขึ้นมา ห้องครัวมันก็พร้อมที่จะระเบิดได้ทันทีเหมือนกัน
3️⃣ ให้อภัย ทางออกที่สามนี่ถือเป็นทางออกแห่งการปลดปล่อยความทุกข์ในใจเรา การให้อภัยบางครั้งเราต้องวางเหตุผลลงบ้าง บางครั้งเราจะรอให้คนอื่นสำนึกผิด หรือรอให้เขาโดนลงโทษก่อน เราจึงค่อยให้อภัย บางทีก็ไม่ได้ อยากให้เราคิดว่า ความทุกข์จากความแค้นในใจนี้มันทำร้าย ทำลายจิตใจเราเองต่างหาก เพราะฉะนั้น เราเป็นผู้ที่สมควรปลดปล่อยความแค้นนี้ด้วยตัวเอง เพื่อตัวเราเอง
ไม่ใช่เพื่อนคนที่เราแค้นใจ
เราจะไม่ใช่ผู้ที่ฝึกจิตใจถึงขั้นที่แข็งแกร่งจนไม่โกรธ ไม่เกลียดใครได้แล้ว เพราะฉะนั้นการมีความรู้สึกแค้นเคียงย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา
จงยอมรับมัน แต่ก็จงยอมลดตัวตนลงแล้วแก้ไขปมแค้นในใจ อย่าได้แบกมันไปทุกที่ แบกมันไว้โดยเปล่าประโยชน์ ให้คิดว่าถ้าเราวางมันลง โยนมันทิ้งไปได้ ตัวเราก็จะเบา ตัวเราก็จะเป็นอิสระ เราก็จะกระโดดได้สูงขึ้นอีก มีความสุขเพิ่มขึ้นได้อีก☺️😃
"แค้นนี้ คงถึงเวลา ชำระ แล้ว"
#ขอบคุณแรงบันดาลใจ จาก
คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์(เอ๋ นิ้วกลม)
และขอบคุณผู้อ่านบทความทุกท่าน
นะครับ
โฆษณา