31 ส.ค. 2019 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
เนเธอร์แลนด์ ประเทศเล็กๆ ที่ผลิตอาหารเลี้ยงคนทั้งโลก /โดย ลงทุนแมน
1
ประเทศ เนเธอร์แลนด์ มีพื้นที่เล็กๆ
ใหญ่ประมาณ 2 เท่าของจังหวัดนครราชสีมา
แต่รู้หรือไม่ว่าประเทศเล็กๆ แห่งนี้ มีมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท
เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าถึง 237 เท่า
ที่น่าสนใจคือ หากเทียบกับ ไทย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรม
มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของเนเธอร์แลนด์ สูงกว่าไทย ถึง 4 เท่า
ทั้งๆ ที่เนเธอร์แลนด์มีจำนวนเกษตรกรน้อยกว่าไทยเป็นร้อยเท่า
เกษตรกรเนเธอร์แลนด์ 1 แสนคน
เกษตรกรไทย 12.5 ล้านคน
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในปี 2018 สินค้าเกษตรของเนเธอร์แลนด์ คิดเป็น 18.2% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
พูดง่ายๆ คือเกือบ 1 ใน 5 ของสินค้าส่งออกมาจากภาคการเกษตร
2
โดยสินค้าเกษตรส่งออกสูงสุด ได้แก่
ไม้ดอกไม้ประดับ มูลค่า 316,013 ล้านบาท
ผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมและไข่ มูลค่า 293,613 ล้านบาท
เนื้อสัตว์ มูลค่า 277,761 ล้านบาท
Cr. EconomicInform
จริงๆ แล้วสภาพแวดล้อมของเนเธอร์แลนด์ เรียกได้ว่า ไม่เหมาะกับการทำการเกษตร
เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนั้นพื้นที่ 1 ใน 3 ของเนเธอร์แลนด์ยังอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมได้ง่าย
แต่เรื่องนี้กลับทำให้ชาวดัตช์กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ รวมถึงการสร้างกังหัน นำน้ำออกจากพื้นที่น้ำขัง เพื่อให้ได้ดินที่อุดมสมบูรณ์
ปัจจุบันพื้นที่กว่าครึ่งของเนเธอร์แลนด์ เป็นพื้นที่การเกษตร ซึ่งสร้างผลผลิตมากเกินความต้องการ จนต้องส่งออกไปทั่วโลก
4
อย่างไรก็ตาม ประเทศเนเธอร์แลนด์เคยประสบปัญหากับความหิวโหยมาก่อน
1
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประชากรหลายหมื่นคนตายด้วยความอดอยาก
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ต้องออกมาประกาศให้ประชาชนดำรงชีพด้วยผลโอ๊ก และเกาลัด
2
เมื่อสงครามจบลง เรื่องอาหารการกิน จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ
โดยหนึ่งในผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับภาคการเกษตรของเนเธอร์แลนด์ ก็คือ Sicco Mansholt รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของประเทศในขณะนั้น
Cr. Maria Austria Instituut
คุณ Mansholt ออกนโยบายเปลี่ยนแนวทางการเกษตรให้เป็นไปในเชิงธุรกิจมากขึ้น
แทนที่จะเพาะปลูกเพื่อบริโภคในประเทศเท่านั้น
3
ในปี 1963 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตร
1
เป้าหมายของกองทุนนี้ คือช่วยตั้งแต่การเริ่มต้นอาชีพ ขายสินค้า ไปจนถึงการให้ทุนวิจัยและพัฒนาการทำเกษตรกรรมที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลผลิตมากขึ้น
ต่อมาชาวดัตช์เริ่มรู้จักการปลูกพืชในเรือนกระจก
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกมากที่สุด
Cr. Our Jackson Home
เรื่องนี้เมื่อรวมกับการค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
ทำให้สามารถปลูกพืชได้ตลอดทั้งปี และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
ปัจจุบันเนเธอร์แลนด์ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเกษตรอยู่
โดยในปี 2018 มีบริษัทที่ลงทุนไปกับด้านวิจัยและพัฒนาเรื่องนี้สูงถึง 3 หมื่นล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบ 20%
นอกจากนั้น Wageningen University ของเนเธอร์แลนด์
ยังเป็นมหาวิทยาลัยด้านการเกษตรและสถาบันวิจัยเกษตรอันดับต้นๆ ของโลก
3
จึงไม่น่าแปลกใจว่าตอนนี้เนเธอร์แลนด์ มีผลผลิตทางการเกษตรต่อพื้นที่สูงสุดในโลก
รวมถึงใช้ทรัพยากรต่อการผลิตน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป
หากเทียบระหว่างปี 2003 และ 2014 ผลลัพธ์ของการพัฒนาก็คือ
ผลผลิตเพิ่มขึ้น 23%
ลดการใช้พลังงาน 6%
ลดการใช้ปุ๋ย 29%
และในปัจจุบันการใช้น้ำเพาะปลูกของเนเธอร์แลนด์ก็น้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกกว่า 90%
โดยบางแห่งใช้น้ำประมาณ 4 ลิตร ต่อการปลูกมะเขือเทศ 1 กิโลกรัม
ในขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกใช้น้ำในปริมาณ 214 ลิตร
ซึ่งนอกจากจะใช้ทรัพยากรน้อยแล้ว
ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้แนวทางที่ยั่งยืนด้วย
อย่างเช่นการไม่ใช้ยาฆ่าแมลงกับพืช รวมถึงไม่ใช้ยาปฏิชีวนะกับการปศุสัตว์
เรื่องนี้คงเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ เกษตรกร นักธุรกิจ และนักวิทยาศาสตร์ ที่เปลี่ยนให้เนเธอร์แลนด์กลายเป็นประเทศเกษตรกรรมยุคใหม่ระดับแถวหน้าของโลก..
2
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
เวลาพูดถึงเนเธอร์แลนด์ หลายคนน่าจะนึกถึงภาพทุ่งดอกทิวลิปหลากสี
2
หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงสุด ก็คือ สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ เมืองลิซเซ่
ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูใบไม้ผลิของแต่ละปีเท่านั้น
1
แต่รู้หรือไม่ว่า สิ่งที่มีมูลค่ามากกว่า “ดอก” ทิวลิป ก็คือ “หัว” ของทิวลิป ที่อยู่ใต้ดิน
1
เพราะเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ส่วนที่เป็น “ดอก” เหล่านี้ก็จะเหี่ยวเฉา
แต่ส่วน “หัว” ที่ไม่ได้สวยงามนี้ต่างหาก
ที่จะสามารถนำไปปลูกต่อได้ และกลายเป็นดอกทิวลิปที่สวยงามอีกครั้ง..
1
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่ อ่านฟรี
โหลดเลย Blockdit.com/download
1
โฆษณา