3 ก.ย. 2019 เวลา 15:20 • เกม
"คุณคิดว่าในเวลา 2 ปีคุณสามารถหาเงินได้เท่าไหร่?"
TopSon OG
200,000/ 300,000 /400,000 บาทต่อปี ?
หากคุณเป็นพนักงานประจำที่เพิ่งทำงานมาได้ไม่นาน
ดังนั้นในเวลา 2 ปี คุณก็น่าจะหาเงินได้ประมาณ
360,000-720,000 บาท
หรือหลายคนอาจจะบอกว่า " ฉันทำธุรกิจส่วนตัว "
ซึ่งคุณก็อาจจะสามารถหาเงินได้มากกว่าคนทั่วไป
ในหลักล้านหรือสิบล้าน
แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับเด็กหนุ่มธรรมดา
ที่หาเงิน 160 ล้านบาทภายในในระยะเวลา 2 ปี
"จากการเล่นเกมส์"
ใช่ครับเรากำลังพูดถึง "Topias Taavitsainen" หรือ
TopSon จากประเทศ Finland นักกีฬา Esport แห่งทีม OG
Cr.Valve
ก่อนอื่นที่เราจะไปทำความรู้จักกับ Topson (ชื่อที่ใช้ในการแข่งขัน)
ว่าเค้าสามารถหาเงิน 160 ล้านบาทได้อย่างไร
ผมอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักอาชีพในวงการของเขาก่อน
นั่นก็คือการเป็นนักแข่งขัน Esport ในเกมส์ DOTA2 นั่นเอง
DOTA2 เป็นหนึ่งในเกมส์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในระดับโลก และเป็น Esport ที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลกอีกด้วย พื้นฐานของ DOTA2 นั้นเป็นเกมส์แนว MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) คือ จะแบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายละ 5 คนต่อทีม โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะทำลายฐานหลักของฝั่งตรงข้ามให้ได้ ซึ่งเป็น Concept ที่เข้าใจได้ง่ายมาก
(คล้ายๆ ROV แต่ซับซ้อนกว่าในรายละเอียด)
โดยการแข่งขันของเกมส์ DOTA2 จะแบ่งเป็นหลายรายการด้วยกันในแต่ละปี โดยที่มีการแข่งขันกันเกือบตลอดทั้งปีเพื่อเก็บคะแนนเอาแต้มไปใช้ในการแข่งขันรายการใหญ่
เพราะรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สำคัญที่สุดและมีเงินรางวัลมากที่สุดสำหรับนักกีฬา Esport ของเกมส์นี้ก็คือรายการ
" The International หรือ TI "
โดย TI นั้น ถูกจัดแข่งครั้งแรกในปี 2011 และมีการแข่งขันติดต่อกันมาปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้ว โดยที่รายการนี้เป็นรายการการแข่งขัน Esport ที่จัดขึ้นโดยตรงจาก Valve ผู้ผลิตเกมส์นี้ จึงทำให้มันมีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลกและเงินรางวัลเพิ่มขึ้นทุกปี
(***รายการแข่งนี้เปรียบได้กับ "ฟุตบอลโลก" ของวงการ DOTA2
เลยทีเดียว)
เงินรางวัลรวมในแต่ละปีย้อนหลัง 3 ปี
ปี 2017 : TI7 : 24,787,916$
ปี 2018 : TI8 : 25,532,177$
ปี 2019 : TI9 : 34,307,920$
แล้วทีนี้ Topson ก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬา Esport ของเกมส์ DOTA2 ได้อย่างไร?
เรื่องราวของ Topson นั้นเริ่มต้นในช่วงของการแข่งขัน
The International ครั้งที่ 8 ในปี 2018
เมื่อทีม OG ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของวงการ DOTA2 เกิดปัญหาภายในทีมและผู้เล่นหลักตัวสำคัญต้องออกจากทีมไปถึง 2 คน และในขณะนั้น ทีมก็กำลังจะต้องเข้าแข่งขันรายการใหญ่อย่าง The International 8 ด้วย
นั่นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมต้องเร่งหาผู้เล่นคนใหม่เพื่อมาแทนตำแหน่งที่หายไป
และชื่อของ Topson ก็ปรากฏขึ้นมากลางวงสนทนาของทีม OG ผ่านคำแนะนำของผู้เล่นตัวสำคัญของทีม OG อย่าง Jerax
(Jesse Vanikka เพื่อนร่วมชาติ Finland)
Jerax บอกเล่าว่าได้เจอผู้เล่นทักษะสูงอย่าง Topson ใน Public เกมส์โดยบังเอิญและ Jerax ได้แนะนำให้กัปตันทีมลองติดต่อ Topson เพื่อชักชวนมาร่วมแข่งขันใน The International 8 ครั้งนี้ ให้กับทีม OG
และนั่นคือวินาทีที่จะเปลี่ยนชีวิตของเด็กหนุ่มไปตลอดกาล
(***Jarax คือผู้เล่นตัวสำคัญที่อยู่คู่กับทีม OG มาอย่างยาวนาน
และ Public เกมส์หมายถึง DOTA2 ใน Server ที่ผู้เล่นทั่วไปเล่น)
ในวันรุ่งขึ้นกัปตันของทีม OG ได้ติดต่อไปหา Topson โดยทันที เพื่อที่จะให้ Topson เข้ามาฝึกและร่วมทีมที่ Bootcamp ของ OG
แต่ปัญหาคือ ที่อยู่อาศัยของ Topson และ Bootcamp ของ OG อยู่ห่างกันมากกกกกกกกกก
มันไม่ได้ห่างกันธรรมดานะครับมันอยู่กันคนละประเทศเลยแหละ และในตอนนั้นเงินในบัญชีทั้งหมดของ Topson มีเพียง 3000 $ เท่านั้น ซึ่งแปลว่าเขาจะสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวจากบ้านเกิดของเขาไปยัง Bootcamp ของ OG โดยไม่มีขากลับและหลักประกันใดๆในชีวิต
ถ้าเป็นคุณคุณจะตัดสินใจยังไง?
ใช่ครับ Topson ตัดสินใจตกลงทันทีและทุ่มเงินทั้งหมดที่เขามีเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินไปยัง Bootcamp ของ OG และเข้าร่วมการแข่งขัน The International 8 กับทีม
จากเด็กหนุ่มธรรมดาที่นั่งเล่นเกมอยู่บ้านไปวันๆ มุ่งหน้าเข้าสู่วิถีของนักกีฬา ESport เต็มตัว เพื่อก้าวเข้าแข่งขันในรายการที่ใหญ่ที่สุดของเกมส์ที่เขาเล่นมาค่อนชีวิต
แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด
เพราะความที่ Topson เป็นผู้เล่นหน้าใหม่มาก ทำให้เขาต้องเจอกับคำสบประมาทมากมายจากทั้งแฟนคลับทีม OG เอง หรือนักวิจารณ์ ผู้ชมทั่วไป
ประกอบกับการที่เพิ่งเข้ามาฝึกซ้อมร่วมกับทีมได้ไม่นาน เพราะโดนชวนมากระทันหันมากๆ จึงทำให้แผนการเล่นต่างๆยังไม่เข้ากับทีมมากนัก ส่งผลให้ในช่วงแรกของรายการ The International 8 นั้นฟอร์มของ Topson กับทีม OG แย่มากจนถึงขั้นเกือบตกรอบเลยทีเดียว
และนั่นหมายความว่า Topson อาจจะต้องกลับบ้านมือเปล่าโดยที่เงินในบัญชีเป็น 0$ ก็ได้
แต่ด้วยลักษณะพิเศษบางอย่างของทีม OG ที่มีความไม่ยอมแพ้ และสู้ไม่ถอย ราวกับทีมนี้คือทีมที่หลุดมาจากการ์ตูน Shonen jump ของญี่ปุ่น ที่ต่อสู้ร่วมกันด้วยพลังแห่งผองเพื่อนอย่างไงอย่างงั้น
พวกเค้าเลือกที่จะปฏิเสธความล้มเหลวและร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค ค่อยๆไต่อันดับกลับมาจากทีมท้ายตาราง
เอาชนะไปทีละทีม
.
ทีมแล้วทีมเล่า
.
ทีมแล้วทีมเล่า
.
และในท้ายที่สุด
.
"ปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นกับพวกเขา"
OG ได้แชมป์รายการ The International ครั้งที่ 8
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทีม OG ที่ได้รับชัยชนะ
แต่สำหรับ Topson เขาก็ยังต้องทนแบกรับเสียงวิจารณ์
ต่างๆมากมาย
"ก็แค่โชคช่วย"
"เพื่อนร่วมทีมแกเก่งไง"
"แกเองไม่เห็นทำอะไรเลย"
"Dogson"
เพราะว่าฟอร์มของ Topson ในรายการแข่งนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก ทำให้มีการเล่นผิดพลาดมากในหลายๆจุด อาจจะเพราะว่าเนื่องจากเค้าไม่เคยเป็นนักกีฬา Esport ในรายการใหญ่จริงๆมาก่อนเลยนี่นา
"แต่ 100 คำวิจารณ์ก็ไม่เท่าผลลัพธ์จากการกระทำ"
1 ปีต่อมา ทีม OG และ Topson กลับมาอีกครั้งในการแข่งขัน The International ครั้งที่ 9 ในปี 2019 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศจีน
คราวนี้ Topson และทีม OG ไม่ใช่ทีมที่ทุกคนเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว พวกเค้ากลับมาในฐานะแชมป์เก่า และใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่ชนะ TI8
พวกเค้ามาด้วยแผนการเล่นที่ดุดัน แปลกใหม่ และหลากหลาย
มันแปลกซะจนทำให้พวกเค้ากลายเป็นผู้นำเทรน META ในโลกของ DOTA2 เลยทีเดียว
และแน่นอนครั้งนี้ Topson ไม่ใช่ Topson คนเก่าอีกต่อไปแล้ว แต่ด้วยความเก่งกาจที่มากขึ้น และทักษะการเล่นที่เป็นมืออาชีพและเฉียบขาดมากขึ้น เค้าได้เปลี่ยนไป กลายเป็น
"Godson"
จากเสียงโห่ที่ผู้ชมเคยมีให้เค้า คำวิจารณ์และคำสบประมาทต่างๆ
ครั้งนี้มันเปลี่ยนเป็นเสียงเชียร์ที่ดังสนั่นฮอล์การแข่งขัน
ทุกการกระทำ การเคลื่อนไหวในเกมส์ล้วนทำให้ผู้ชมตื่นเต้นและจับจ้องไปกับการเล่นของเขา และในท้ายที่สุดเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเอง
OG และ Topson ได้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นทีมแรกและผู้เล่นกลุ่มแรกที่ชนะรายการ The International ได้ 2 สมัยติด
และที่สำคัญ Topson ได้รับการโหวตให้เป็น MVP (ผู้เล่นยอดเยี่ยม) สำหรับ The International ครั้งที่ 9 อีกด้วย และนี่คือวิธีการที่ Topson ก้าวข้ามคำสบประมาทที่มีต่อเขา
ชื่อของเขาและเพื่อนร่วมทีมจะถูกจารึกลงบนโล่ Aegis สัญลักษณ์ของผู้ชนะ The International ถึง 2 ครั้งด้วยกัน
ซึ่งนั่นคือความปรารถนาสูงสุดของเหล่านักแข่ง DOTA2
แชมป์สมัยที่ 2
โฉมหน้าแชมป์
ชื่อของพวกเขาถูกประทับอยู่บนโล่ Aegis
และความสำเร็จของเขานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความภาคภูมิใจส่วนตัวของเขาเท่านั้น แต่มันคือความภาคภูมิใจระดับประเทศ ที่ส่งผลให้เขาได้มีโอกาศเข้าพบกับประธานาธิบดีของประเทศ Finland ในวันชาติ เพื่อที่ประธานาธิบดีจะได้แสดงความยินดีกับ Topson และ Jerax อีกด้วย
Topson และ Jerax พบประธานาธิบดีและภรรยา
และด้วยการที่เป็นแชมป์ รายการแข่งขันที่เงินรางวัลมากที่สุดในโลกถึง 2 ครั้ง นั่นจึงทำให้ Topson และผู้เล่นทีม OG ชุดนี้ขึ้นแท่นทำเนียบ นักกีฬา Esport ที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลของเกมส์
DOTA2 เป็นที่เรียบร้อย
เงินรางวัลที่นักแข่งทำได้ตลอดชีวิตการแข่งขัน Cr.liquidpidia.com
และทั้งหมดนี้คือวิธีการที่ Topson เด็กหนุ่มธรรมดาจาก Finland หาเงิน 160 ล้านบาทภายในระยะเวลา 2 ปี
เขาอาจจะไม่ใช่เด็กหนุ่มที่ร่ำรวย หรือเก่งกาจที่สุด
แต่นั่นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาได้เดินทางมาไกลจริงๆ
และเคล็ดลับของความสำเร็จของเขานั้นไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเลย
เค้าเพียงแค่ทำสิ่งที่เค้าชอบเท่านั้น นั่นก็คือการเล่นเกมส์ แต่เค้าไม่ได้แค่เล่นไปธรรมดา
"เขาทำมันอย่างเต็มที่"
เมื่อคุณทำอะไรสักอย่างที่คุณรัก และทำมันอย่างเต็มที่ วันนึงเมื่อสปอร์ทไลท์ ฉายแสงมาที่คุณ ความพยายามมันจะต้องส่งผลบางอย่างอย่างแน่นอน
"เพราะโอกาส เป็นของขวัญของผู้ที่เตรียมพร้อมเสมอ"
ขอบคุณที่ติดตามครับ
#ถ้าไม่ติดเรื่องเงิน
เพิ่มเติมเนื้อหานะครับหากใครสนใจ
True sight : รายการที่จะเล่าเรื่องราวของแชมป์ DOTA2 ตั้งแต่เริ่มแข่ง จนได้แชมป์
ภาคภาษาอังกฤษ : https://youtu.be/Bv4CqIxqTMA
ภาคภาษาไทย : https://youtu.be/5Nok4qqW1O8
โฆษณา