2 ก.ย. 2019 เวลา 20:00 • การศึกษา
Modelling Idea - Simulation of Installation Tolerance
เรื่องนี้อาจจะค่อนข้างงงๆ​ หน่อยสำหรับคนที่ไม่คุ้น​ หรือไม่เคยทำมาก่อน​ แต่มันมีอยู่ในความเป็นจริง​ ที่เราละเลยกันไป​ โดยถือว่ามันมีผลน้อยมาก​
แต่เมื่อมันสูงถึงค่าหนึ่ง​ เราจะละเลยมันไปไม่ได้​ โดยเฉพาะ​โครงสร้างที่ต้องการความแม่นยำสูง​ ความคลาดเคลื่อน​ระดับไม่กี่​ มม​ การละเลยผลของมันไปอาจจะส่งผลกระทบแบบคาดไม่ถึง
การก่อสร้างในความเป็นจริง​ นั้นไม่มีอะไรที่จะแม่นยำร้อยเปอร์เซ็น​ ในทุกๆชิ้นของโครงสร้าง​มีความคลาดเคลื่อน​ทั้งหมด​ ซึ่งเราต้องควบคุม​แต่ละชิ้นให้มันอยู่ในค่าตามมาตรฐาน​ ไม่เช่นนั้น​ เมื่อความคลาดเคลื่อน​มันสะสมรวมๆ​ กันหลายชิ้นผลลัพธ์​สุดท้ายอาจจะไม่น่าดูเท่าไร
โดยเฉพาะ​การติดตั้งที่ต้องยึดเข้ากับจุดรองรับๆ​ หลายๆจุด​ ลำดับของจุดยึดก็มีผลต่อแรงภายในของโครงสร้าง​ เช่น​ ในรูปแรก​ กรณี​ Ideal โครงสร้าง​ต้องถูกยึดด้วย​ 4 จุดมุม​ ปรากฏ​ยึดไป​ 3 จุด​แล้ว​ เกิดช่องว่างเกิดขึ้น​  ทั้งที่จริงๆแล้วมันควรจะพอดี ดังแสดงในรูปที่​ 2 คิดว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหา​แบบนี้​ นั่นคือความคลาดเคลื่อน​ที่เกิดขึ้น​ หรือ​ Tolerance​
การแก้ปัญหา​ของทุกคนก็คงต้องดึงมาเพื่อจะยึดจุดสุดท้ายให้ได้​ ดังแสดงในรูปที่​ 3 ซึ่งทำให้ระบบที่ไม่ควรรับแรง​ เพราะออกแบบมาให้ติดตั้งได้พอดี​ (แต่กลับไม่พอดี)​ เกิดการเสียรูป​ และเกิดแรงภายในขึ้น​ หรือจะเรียก​ Residual Stresses ก็ได้​ โดยที่มันยังไม่ได้ใช้งานอะไรเลย
โดยปกติเราจะยกเว้นไม่คิดแรงส่วนนี้​ แต่กรณีที่มันสูงจนเราต้องคิด เราจะจำลองยังไง?
การจำลองผลของ​ Tolerance​ ที่นิยม​ ก็มีสองวิธี​ คือ
1) Joint Deflection หรือ​ Support Settlement จะใช้ได้ดีกรณีที่ตำแหน่ง​ Tolerance นั้นอยู่ที่จัดรองรับที่เป็น​ Boundary Condition​ ของโมเดลพอดี​
ใช้ง่ายๆ​ ด้วยการจำลองโครงสร้างในสภาพที่​ Undeform แล้วกำหนดให้​ Support​ ขยับไปเท่ากับ​ Tolerance​ ที่ต้องการ​ จะทำให้เกิดการสร้างแรงภายในเท่ากับ​ Residual Stresses ที่เกิดขึ้นหลังการติดตั้ง​ แล้วจึงนำแรงภายในนั้นๆ​ ไปรวมกับผลจากแรงชนิดอื่นๆ
2) Temperature Element วิธีนี้จะเป็นการประยุกต์​หน่อยๆ​ ด้วยการใช้​ Thermal Deformation ของเข้าช่วย
เมื่อเราต้องการจำลอง​ Tolerance​ ในทิศทางไหน​ ให้ใส่​ Element​ เข้าไปในทิศทางนั้นๆ​ โดยมีคุณสมบัติวัสดุเท่าของจริง​ (E, A, Alpha) จาก​ Thermal Deformation จะได้
Temp. Change = Tolerance / (Alpha*L)
เราจะได้​การเปลี่ยนแปลง​ของอุณภูมิ​บน​ Element​ นั้นที่เราต้องให้เข้าไปเพื่อให้มันขยับตัวไปเท่ากับ​ Tolerance​ ที่ต้องการ
วิธีนี้ใช้ได้กับทุกบริเวณของโครงสร้าง​ ไม่จำกัดแค่บริเวณจุดรองรับ​ เหมือนวิธีแรก
อย่างไรทั้งสองวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย​ ซึ่งผู้ใช้ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์​พอสมควร​ ว่ากรณีไหนควรใช้วิธีอะไร​ และผลที่ได้มันสมเหตุสมผล​หรือไม่
เช่น​
การใช้​ Temperature Element​ จำนวนมากกว่า​ 1 ในโมเดลเดียว​ การใส่เข้าไปพร้อมกันอาจจะทำให้เกิด​ Interaction กัน​ ผลที่ได้อาจจะเพี้ยนจากที่ต้องการ​ ทำให้ไม่ได้​ค่า​ Tolerance​ ที่ต้องการ​ ในขณะที่การใช้​ Support​ Settlement มากกว่า​ 1 จุดในโมเดลเดียวกันจะไม่มีปัญหา​แบบนี้​ แต่ไม่สามารถใช้กับตำแหน่งที่ไม่มี​ Boundary ได้
โฆษณา