5 ก.ย. 2019 เวลา 02:01 • การศึกษา
# พบกับ 10 วิธีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพและมีคุณภาพ
1.ทำงาน “สำคัญที่สุด” ตอนเช้า
ควรเริ่มทำงานที่สำคัญที่สุด หรือจำเป็นที่สุดตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อให้การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด แทนที่จะใช้เวลาไปกับการนั่งเช็กอีเมล ท่องโลกออนไลน์ หรือนั่งคุยเล่นกับเพื่อน เพราะช่วงเช้าเป็นเวลาที่สมองตื่นตัวและพร้อมทำงานมากที่สุด
1
2.จัดลำดับ “ความสำคัญ” ของงาน
การจัดลำดับความสำคัญของงานด้วยแนวคิด Eisenhower Box จะช่วยให้รู้ว่างานชิ้นไหนควรทำก่อนหรือหลัง ซึ่งแบ่งเป็น 1.งานเร่งด่วนและสำคัญ (ทำทันที) 2.งานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน (ทำทีหลังได้) 3.งานเร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ (ให้คนอื่นทำแทนได้) และ 4.งานไม่เร่งด่วนและไม่สำคัญ (ตัดทิ้งได้)
3.ไม่ทำงาน “หลายอย่าง” พร้อมกัน
สมองไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่ระบุว่าประสิทธิภาพในการทำงานของคนเราจะลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อทำงานหลายอย่างไปพร้อม ๆ กัน จึงควรโฟกัสงานใดงานหนึ่งให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปทำงานอื่นต่อ
1
4.ควร “หยุดพัก” ให้เป็นเวลา
การทำงานเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่มีการหยุดพักเลย จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง จึงควรหยุดพักเป็นช่วงสั้น ๆ ในระหว่างทำงาน เพื่อให้ร่างกายและสมองได้ผ่อนคลายบ้าง และหากเป็นไปได้ควรจัดตารางพักให้เป็นเวลาในทุกวันนอกเหนือจากเวลาพักเที่ยง
5.ปฏิเสธเข้า “ประชุม” บ้าง
บ่อยครั้งที่หลายบริษัทเจอปัญหาประชุมในเรื่องที่ไม่สลักสำคัญ หรือประชุมแล้วไม่ได้ข้อสรุป ดังนั้น หากมีทางเลือกใดที่ได้ประสิทธิผลกว่าก็ควรลองดู เช่น คุยออนไลน์ผ่าน Group Chat ของบริษัท แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็ควรทำให้การประชุมเข้าประเด็นที่สุด และได้ข้อสรุปเร็วที่สุด เพื่อจะได้เสียเวลาน้อยที่สุด
6.กำหนด “Deadline” ของงาน
การกำหนด “Deadline” ของงานแต่ละชิ้น จะช่วยให้คุณจดจ่อกับการทำงานนั้น ๆ ได้มากขึ้น และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะรู้กำหนดของงานว่าควรเสร็จเมื่อใด ซึ่งดีกว่าการทำไปเรื่อย ๆ โดยไร้เส้นตาย จนทำให้งานเสร็จล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
7.ตั้งเวลา “เช็กอีเมล” เป็นระยะ
แทนที่จะเช็กอีเมลตลอดเวลา หรือเช็กทุกครั้งที่มี ข้อความแจ้งเตือนเข้ามา ให้เปลี่ยนมาปิดการแจ้งเตือน และตั้งเวลาว่าจะเช็กอีเมลในช่วงเวลานั้น ๆ แทน เพื่อจะได้จดจ่อกับการทำงานมากขึ้น โดยไม่มีเสียงแจ้งเตือนมาทำให้คุณต้องเสียสมาธิในการทำงาน
8.เตรียม “To-do List” วันถัดไป
การเขียน To-do List (สิ่งที่จำเป็นต้องทำ) เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ เพราะจะช่วยให้คุณจัดการงานต่าง ๆ หรือโฟกัสงานได้ถูกจุด โดยอาจใช้เวลาหลังเลิกงาน หรือก่อนเข้านอนลิสต์สิ่งที่จะต้องทำสำหรับวันถัดไป และอย่าลืมจัดลำดับความสำคัญงานเหล่านั้นด้วย
9.หาเวลา “ออกกำลังกาย” บ้าง
การออกกำลังกายส่งผลดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจ อีกทั้งช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังสมองอย่างต่อเนื่องด้วย จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ดังนั้น หากมีเวลาออกกำลังกายยามเช้าก่อนเข้าทำงาน ก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ร่างกายและสมองพร้อมสำหรับการทำงานมากขึ้น
10.ไม่ต้อง “Perfect” เสียทุกอย่าง
การพยายามทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ หรือ Perfect มีแต่จะทำให้เกิดความเครียด และไม่มีความสุขในการทำงาน เพราะไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมด จึงควรเปลี่ยนจุดโฟกัสไปที่การทำงานให้เต็มกำลังความสามารถของคุณแทน ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่า
1
ขอบคุณครับสำหรับแหล่งข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์
เพจ: ความรู้ สไตล์ 'เด็กช่าง' อ่านแล้วรู้สึกว่าข้อมูลมันน่าส่นใจเลยอยากแชร์ ให้เพื่อนๆ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยน่ะครับ
#ฝากติดตาม กดใลค์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังให้ด้วยน่ะครับ...🤗
โฆษณา