5 ก.ย. 2019 เวลา 05:31 • บันเทิง
Movie Review: Weathering With You/ 天気の子/ ฤดูฝันฉันมีเธอ
เมื่อวันที่ 1 กันยาที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปดูรอบพิเศษของ Weathering With You มาครับ
ผมเลยขอถือโอกาสนี้ เขียนรีวิวเลยละกัน :D
รีวิวหลักจะไม่มีสปอย (หรืออาจจะมีนิดหน่อยแต่ไม่มาก) แต่ในตอนท้ายผมจะขอใส่ Light Spoiler และจุดที่ควรสังเกตในเรื่องไว้นิดหน่อยครับ ใครไม่อยากรู้ก็ระวังอย่าไปอ่านนะ แต่ถ้าเกิดใครรู้แล้ว หรือไม่เสียหายถ้าได้รู้ก็อ่านได้ครับ
หลังจากที่ผู้กำกับแห่งความเหงา Makoto Shinkai เคยฝากผลงานสุดประทับใจอย่าง Your Name/ 君の名は。/หลับตาฝันถึงชื่อเธอ ไว้เมื่อปี 2016
ในที่สุดเค้าก็กลับมาอีกครั้งในปี 2019 กับ Weathering With You/ 天気の子/ ฤดูฝันฉันมีเธอ นั่นเอง
Weathering With You เป็นเรื่องราวของ โมริชิมะ โฮดากะ (พากย์โดย โคทาโร่ ไดโกะ) เด็กหนุ่ม ม.ปลายปี 1 ที่หนีออกจากบ้านเข้ามาอยู่ในกรุงโตเกียว แต่กลับต้องพบว่า ชีวิตในเมืองกรุงไม่ได้สวยหรู
ตัวเค้าถังแตก ใช้เงินจนหมดในเวลาไม่นาน ในขณะที่กำลังพยายามหางานทำ แต่หาไม่ได้ จนต้องนอนข้างถนน ไม่มีเงินกินข้าว วันหนึ่งเค้าก็ได้พบกับ อามาโนะ ฮินะ (พากย์โดย โมริ นา่นะ) เด็กสาวใจดีที่แอบเอาเบอร์เกอร์มาให้ตัวเค้าที่กำลังหิวโซ
ไม่นานหลังจากนั้น โฮดากะ ได้งานทำเป็นคอลัมนิสต์ของนิตยสารเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ ทำให้ตัวเค้าต้องออกตามหา "สาวฟ้าใส 100%" ที่ว่ากันว่าสามารถทำให้ท้องฟ้าที่อึมครึม กลับมาสดใสได้ในพริบตา
จะด้วยโชคชะตา พรหมลิขิต หรือความบังเอิญก็ไม่ทราบได้
ทำไปทำมา โฮดากะ ก็ได้รู้ว่า ฮินะ เนื่ยแหละ คือเธอคนนั้น!
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ติดตามชมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ!
จะขอแบ่งพาร์ทการรีวิวเป็น 5 พาร์ทนะครับ ได้แก่ ภาพ/อนิเมชั่น, เพลงประกอบ, ตัวละคร, องค์ประกอบของเนื้อเรื่อง และการดำเนินเรื่องครับ
ภาพ/อนิเมชั่น:
เรื่องนี้ทีมงานแทบจะยกมาจาก Your Name ทั้ง Character Design โดย Masayoshi Tanaka, Producer คู่บุญอย่าง Genki Kawamura, หรือ Hiroshi Takiguchi ที่เรื่องนี้ ทำหน้าที่ Background Supervisor
จะขาดก็เพียงแค่ Masashi Ando มือดีจาก Studio Ghibli สตูดิโออนิเมชั่นชื่อดัง ที่เคยทำหน้าที่เป็น animation director / supervising animator ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นมือดีอีกคนอย่าง Atsushi Tamura ที่ก็เคยทำงานกับ Ghibli เหมือนกันแทน
ทำให้ตั้งแต่ปล่อยเทรลเลอร์ หลายๆคนมองว่า มีความเป็น Your Name 2 อยู่พอสมควรในหลายๆองค์ประกอบ
ซึ่งก็พอจะพูดได้ว่ามันออกไปในแนวนั้น
แต่ดีกว่าครับ
ภาพดูมีความคมชัด มีความงดงามในรายละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฉากฝนตกหรือความงดงามของเทศกาลดอกไม้ไฟ เช่นกันกับอนิเมชั่นที่ดูทำได้ดีขึ้นด้วย
แสงเงา, ความ Photo-realistic ของภาพ หรือการโฟกัสภาพไปที่ตัวหลักในฉาก แต่เบลอสิ่งรอบข้างออกไป ราวกับใช้กล้องถ่ายจริง ที่เป็นจุดขายของชินไค ก็ยังยอดเยี่ยมสมราคาเช่นเดิมครับ
แม้ภาพในเรื่องนี้จะยังไม่ถึงขั้นเดียวกับผลงานเก่าของแกอย่าง The Garden of Words แต่ก็อยู่ในระดับที่สุดยอดมากอยู่ดี
Score: 9.5/10
เพลงประกอบ:
เรื่องนี้ยังคงได้วง RADWIMPS กลับมาทำเพลงประกอบให้ หลังจากที่เคยทำเพลงประกอบให้ Your Name จนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
ในส่วนของเพลงประกอบที่มีเนื้อร้อง มีการนำนักร้องสาวอย่าง Toko Miura มาร้องในเพลง Celebration และ Grand Escape เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้ซ้ำซากกับของเดิมที่ RADWIMPS เล่นเองร้องเองทุกเพลง ตรงนี้คนชมกันเยอะครับว่าร้องได้เพราะ เข้ากับเรื่อง และเหมือนเป็นการร้องให้ตัวเองหญิงของเรื่องอย่างฮินะไปในตัวด้วย
ส่วนเพลงประกอบฉากต่างๆ ว้าว บอกเลยว่า RADWIMPS เค้าพัฒนาขึ้นนะ แนวดนตรีดูหลากหลายขึ้น Dynamics ขึ้นลงของเพลงดูมีมากขึ้น ฟังแล้วตื่นเต้นขึ้นจริงๆ ต้องขอชม
และเช่นเดิม เสียงเพลงมันยังคงเข้ากับทุกช่วงจังหวะและเรื่องราว
หากแต่ด้วยองค์ประกอบอื่นของเรื่อง ทำให้เพลงบางเพลงที่ควรจะสร้าง Impact ที่ทรงพลังกว่านี้ ไม่ได้สร้าง Impact ที่แรงและประทับใจเท่าที่ควร กลับกลายเป็นเพลงที่ออกมาช่วงแรกๆและเพลงเนื้อร้องที่ไม่ค่อยโปรโมตมากนักอย่าง Voice of Wind และ Celebration ที่น่าประทับใจกว่าเพลงที่ออกมาช่วงหลังๆหรือเพลงเนื้อร้องที่โหมโปรโมตกันหนักอย่าง Is there still anything love can do?, Grand Escape หรือ Daijoubu (It's alright) ซึ่งเป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดของเรื่องซะอีก
Score: 8.5/10
ตัวละคร:
นับว่าเรื่องนี้มีตัวละครที่น่าสนใจนะครับ และเป็นแนวที่ชินไคไม่ค่อยทำด้วย คุณจะได้เจอกับ เด็กที่หนีออกจากบ้าน, เด็กสู้ชีวิตที่ยังคงความร่าเริงได้เกือบจะตลอดเวลา, เด็กแก่แดดอยู่ประถมแต่ควงสาวไม่ซ้ำหน้า, ผู้ใหญ่ที่โดนกาลเวลากัดกินตัวตนเดิมจนเกิดคำถามว่า คุณยังมีความเป็นตัวคุณสมัยวัยรุ่นอยู่มั้ย, รวมไปถึงยากูซ่า คนทำงานใต้ดิน คนทำธุรกิจโลกมืดต่างๆ และอีกมากมาย
แต่ถึงแม้ตัวละครจะน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่ตัวเรื่องดูจะขยี้ไม่สุดเท่าที่ควร ทั้งเรื่องเหตุผลของการกระทำของตัวละครบางตัว, การ Build อารมณ์ตอนที่ตัวละครเกิดมีจุดเปลี่ยนทางความคิด หรือการกระทำที่เราเข้าใจแหละว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่ดูไม่เป็นผู้ใหญ่ซักเท่าไหร่ ซึ่งจุดสุดท้ายนี่จะไปโทษตัวละครมันก็ไม่ได้ล่ะนะ เพราะถือว่ามันก็ตัดสินใจได้ตามวัยของมันอยู่
เพียงแต่ถ้าเราไม่อินไปกับการกระทำของตัวละครแล้ว
มันจะส่งผลให้ความรู้สึกร่วมต่อชะตากรรมของตัวละครน้อยลง
จนส่งผลให้ไม่อินเท่าที่ควรน่ะสิ
Score: 7.5/10
องค์ประกอบของเนื้อเรื่อง:
ตัวมาโคโตะ ชินไคนั้น ผุดไอเดียของเรื่องนี้มาจากวันหนึ่งในขณะที่ทำงานเรื่อง Your Name นี่แหละครับ
วันนั้นชินไคมองเห็นเมฆก่อนใหญ่ เมื่อเมฆลอยผ่านไปและมองเห็นท้องฟ้าสีครามสดใส จิตใจของผู้กำกับสุดเหงาก็ผ่อนคลายลงอย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่งสิ่งนี้แหละ กลายมาเป็นธีมหลักของเรื่องครับ
สภาพอากาศ มีผลต่อใจคนอย่างไม่น่าเชื่อ
เพียงได้มองฟ้าใสที่แสนสวยงาม จิตใจคนที่หมองหม่นก็กลับมาสดใสได้เหมือนท้องฟ้านั่นแล้ว
การสร้างเรื่องราวขึ้นมาจาก Concept ง่ายๆนี้ เอาตรงๆนับว่าสร้างสรรค์แบบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
และในเมื่อท้องฟ้าสดใส ทำให้จิตใจสดใสตาม
ผมว่ามันเป็นการเลือกที่ฉลาดนะที่ทำให้เนื้อเรื่องของ Weathering With You เต็มไปด้วยมุมมืด
ตั้งแต่ต้นเรื่อง คุณจะได้เจอกับเด็กหนีออกจากบ้าน ที่จ้างให้ตายก็ไม่กลับไป สังคมที่เงินเป็นปัจจัยสำคัญ รถโฆษณา หาผู้หญิงขายบริการ ยากูซ่าที่ทำธุรกิจมืด มุมอับของเมืองหลวงที่ดูมืดหม่น มนุษย์ที่คอยหาเด็กสาวไปขายบริการ การปลอมแปลงเอกสาร และอื่นๆอีกมากมาย
ลืมภาพ โตเกียว ย้า~~~~~!!!!!!!!!!!!!! สุดสวยงาม และชวนฝันของมิตสึฮะ นางเอก Your Name ไปได้เลย
โตเกียวใน Weathering With You นี่ลบภาพความฝันนั้นจนหมดสิ้น
จนเจ้า โฮดากะ ถึงกับโอดครวญกับความโหดร้ายของเมืองหลวงเลยทีเดียว (และน่าจะตรงกับสิ่งที่หลายๆคนเผชิญด้วย)
ที่ผมบอกว่าเป็นการเลือกที่ฉลาด เพราะเราจะเห็นแสงสว่างได้ชัดเจนที่สุด เมื่อสิ่งรอบข้างมันมืดหม่นสุดๆนี่แหละ ช่วงกลางเรื่องนี่สังเกตได้ชัดเลย
นอกจากนี้ เหมือน Your Name เลยคือเรื่องนี้นำความเชื่อโบราณญี่ปุ่นมาใช้เป็นธีมหลักด้วยครับ
Hare Onna หรือสาวปางห้ามฝน มีความสามารถในการหยุดฝนได้ ซึ่งตัว Hare Onna ก็คือฮินะนั่นเอง และ Hare Onna นั่น มักจะมาพร้อมกับ Ame Otoko หรือหนุ่มเรียกฝน
ซึ่งแม้ในเรื่องจะไม่ได้กล่าวถึง Ame Otoko ตรงๆ แต่จากการที่ตัวโฮดากะมักปรากฏตัวพร้อมกับฝน เราจึงสามารถอนุมานได้กลายๆว่าเจ้าตัวนี่แหละ เปรียบเสมือน Ame Otoko ในเรื่อง
ตามความเชื่อโบราณของ Hare Onna นั้น เชื่อกันว่า เมื่อใช้พลังมากเกินไป จะเกิดผลข้างเคียงต่อตัวเอง
ซึ่ง Concept นี้ในเรื่องก็มีเช่นกัน แต่เนื่องจากสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่สปอยในส่วนนี้ ฉะนั้น ไปดูกันเองนะคร้าบ :)
จริงๆแล้วถ้าจะบอกว่าการทำให้ฟ้าแจ่มในของฮินะ ทำให้เกิดผลข้างเคียง
สิ่งที่มนุษย์เราทำในชีวิตประจำวันทุกวันนี้ ก็เปรียบได้กับการควบคุมสภาพอากาศให้ร้อน จนส่งผลให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายเร็วขึ้นกว่าเดิมเหมือนกันนะ
ในเรื่องเนี่ย การที่ฮินะช่วยทำให้ฟ้าแจ่มใส ทำให้คนมองฟ้าใสกลับมามีจิตใจเบิกบาน และทำให้คนทั่วไปทำกิจวัตรประจำวันได้เนี่ย
เหมือนเป็นการบอกกลายๆนะว่า ชีวิตคนเราต้องพึ่งสภาพอากาศมากเลย
ฉะนั้นมันเหมือนเป็นการส่งข้อความว่าเราควรช่วยกันอนุรักษ์โลกด้วยการลดภาวะโลกร้อนนะ :D
โดยรวมแม้องค์ประกอบเนื้อเรื่องจะฟังดูธรรมดา แต่ก็นับว่าน่าสนใจมากทีเดียว
Score: 8.5/10
การดำเนินเรื่อง:
เมื่อมองดูคะแนนที่ผมให้ในพาร์ทอื่นๆแล้ว คิดว่าทุกคนน่าจะพอเดาได้นะครับว่าทำไมคะแนนของเรื่องถึงหดเหลือ 8
การดำเนินเรื่อง ซึ่งควรจะเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของหนัง คือจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้ครับ
ตัวหนังเปิดฉากแรกมาได้ชวนขนลุกอยู่นะ แต่หลังจากนั้นกลับเล่าเรื่องของตัวโฮดากะ และชีวิตช่วงแรกในโตเกียวได้เร็วจนเกินไป ดูแล้วไม่มีความไหลลื่น เหมือนเร่งจังหวะมากเกินไป หนีออกจากบ้านทำไม ใช้ชีวิตช่วงเงินยังไม่หมดในโดเดียวยังไง (ส่วนนี้จริงๆเล่า แต่เล่าเร็วมาก) นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำเลยแป๊บเดียวเงินหมดไปนอนข้างถนนแล้ว
อย่างไรก็ดี หลังจากผ่านตรงนั้นมาจนถึงช่วงกลางของหนัง
นับว่าเป็นช่วงที่กลมกล่อมที่สุดของเรื่อง อารมณ์มันจะไปคล้ายพาร์ทสนุกของ Your Name คือมีทุกอารมณ์ ทั้งสุข เศร้า สนุก ตลก มันส์ ชวนติดตาม ทุกซาวน์ประกอบและเพลงในช่วงนี้เรียกได้ว่าดีงามตามท้องเรื่อง
แต่เมื่อหนังเริ่มขมวดปมเข้าสู่ Climax
ต้องเรียนตามตรงว่ามันไม่ดีเท่าที่ควร
ช่วงไคลแม็กซ์ มันเริ่มมาจากการตัดสินใจอย่างนึงของคู่พระนาง ที่ตัดสินใจหนีสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ ตรงนี้ถึงแม้เราจะเข้าใจ แต่หลายคนก็ยังมีความรู้สึกบางส่วนที่คิดว่า ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นอยู่ คือดิ้นรนมันก็โอเคนะ แต่ดิ้นรนกับสิ่งที่หนีไปก็ต้องเจออยู่ดี มันยังไงๆอยู่
หลังจากนั้นจะมีซีนที่ตัวโฮดากะกับฮินะต้องแยกจากกันครับ ซึ่งคราวนี้โฮดากะจะต้องดิ้นรนต่อสิ่งที่ยากจะเอาชนะ ที่เป็นประสบการณ์เหนือธรรมชาติละ เป้าหมายของโฮดากะในคราวนี้ก็ตามเทรลเลอร์ครับ "ผมแค่อยากเจอเธออีกครั้ง!"
พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ส่งเมสเสจถึงคนดูว่า "คุณจะยอมเดิมพันสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อเป้าหมายของคุณได้แค่ไหน" พอมาถึงจุดนี้ ไม่มีการตัดสินใจแบบไหนที่ถูกหรือผิดละ มันไม่เหมือนในตอนแรกที่การตัดสินใจดูไม่เป็นผู้ใหญ่จนบางคนอาจตะขิดตะขวงใจ คือพอถึงพาร์ทนี้ โฮดากะจะตัดสินใจทำอะไร คนดูก็จะเอาใจช่วยเต็มที่ละ (พูดถึง การไปเจอฮินะเนี่ย ถ้าใครเคยดูผลงานเก่าของชินไค มันจะไปคล้ายกับช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่อง เหนือเมฆา ที่เห่งสัญญาของเราครับ)
แต่ปัญหามันอยู่ที่การเล่าเรื่องในส่วนอื่นนี่แหละ ถึงแม้เราจะเอาใจช่วยโฮดากะเต็มที่ แต่การเล่าเรื่องมันดูเป็นเส้นตรงและคาดเดาได้จนเกินไปครับ เนื้อเรื่องดำเนินไปตามที่เราคิด ไม่มีการหักมุม แม้จะมีการบีบอารมณ์ แต่มันก็ไม่ได้บีบคั้นจนเราต้องเอาใจช่วยตัวละครมากขึ้น ยกตัวอย่างการบีบอารมณ์ที่ไม่ดีพอก็ตรงการเปลี่ยนการตัดสินใจของตัวละครตัวนึงที่ตลอดเรื่องทิ้งปมปัญหาของตัวละครตัวนี้ไว้เป็นระยะ แต่พอตัวละครตัวนี้เปลี่ยนแนวคิด เราก็แค่เข้าใจได้ว่าทำไมถึงเปลี่ยน แต่ไม่ได้มีการบีบคั้นอารมณ์ความรู้สึกมากนัก ไม่ได้มี Flashback ถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้ตัดสินใจแบบที่ว่า อะไรแบบนี้
Build-up โดยรวมของการไปเจอฮินะอีกครั้งของตัวโฮดากะ แม้จะทำได้โอเคในระดับนึง แต่พอถึงจุดไคลแม็กซ์ที่สุดของเรื่อง มันกลับดูง่ายเกินไป อารมณ์เหมือนเราลืมของที่บ้านก็เลยขับรถกลับมา เข้าบ้าน หยิบของ จบ อะไรประมาณนั้น
แม้ผมจะชอบประเด็นตอนท้ายเรื่องที่เหมือนสื่อว่า ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นยังไง เราก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป แต่เหตุผลข้างต้นนี้เอง ทำให้ช่วงสรุปจบตอนท้ายเรื่องไม่ได้รู้สึกมี Impact เท่าที่ควร โดยเฉพาะฉากของโฮดากะกับฮินะในตอนท้ายที่ควรตราตรึงใจมากกว่านี้ (ถ้าเทียบเป็นผลงานชินไคก็ Impact ประมาณ Garden of words ครับ)
ตรงนี้นับว่าน่าเสียดาย เพราะส่วนตัวผมคิดว่า ถ้ามีการเพิ่มเวลาหนัง เพื่อขยายความในหลายๆจุด เรื่องมันน่าจะกินใจกว่านี้
Score: 6/10
Final score: 8/10
อย่างไรก็ดี Weathering with you ก็ยังถือเป็นหนังอนิเมชั่นที่คู่ควรแก่การรับชมครับ ถ้าคุณไม่ติดอะไรกับการดำเนินเรื่องมาก แค่เข้าไปฟังเพลง เสพภาพ ก็คุ้มแล้ว องค์ประกอบของเรื่องเองก็น่าสนใจพอประมาณ ฉะนั้นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่คุณเสียไปเพื่อดูหนังเรื่องนี้ ไม่เสียเปล่าแน่นอน
ส่วนตัวผมแล้ว ในฐานะที่ชอบหนังของ มาโคโตะ ชินไคเป็นการส่วนตัว
แม้ผมจะไม่ได้ชอบเรื่องนี้แบบสุดๆ แต่ผมคิดไว้ว่าจะดูซ้ำอีกรอบครับ
ยกตัวอย่าง เคสของ Your Name นี่ พอเราอ่านนิยาย, มังงะ และนิยายภาคเสริม เราจะได้รู้ถึงเหตุผลของการกระทำของตัวละครมากขึ้น ได้รู้ถึงองค์ประกอบของเรื่องอีกหลายอย่างที่ไม่ได้เล่าในเรื่อง
พออ่านจบหมดแล้วกลับไปดูหนังอีกรอบ
จริงๆมันทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆ มองหนังได้ลึกขึ้น และทำให้เรารักหนังได้มากขึ้นด้วย (ส่วนตัวคือประทับใจกับ Your Name มากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอยิ่งอ่านแล้วกลับไปดูเลยยิ่งอิน)
เรื่องนี้ผมเองก็กะจะอ่านมังงะบางส่วน และไลท์โนเวล ก่อนจะไปซ้ำอีกรอบครับ
ไม่แน่ ประเด็นหลายๆอย่างอาจจะเคลียร์ขึ้น และผมอาจจะกลายเป็นรักเรื่องนี้ไปเลยก็ได้
ไว้ถ้าผมทำแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ :)
#WeatheringWithYou #ฤดูฝันฉันมีเธอ #天気の子
SPOILER ALERT!!!!!
ส่วนนี้จะเป็นการสปอยนิดหน่อยนะครับ
ในเรื่องมี ทาคิคุง และ มิตสึฮะจาก #YourName ด้วย
โดยทาคิคุง จะโผล่มาในฉากที่โฮดากะและฮินะไปช่วนคุณย่าของทาคิหยุดฝนเพื่อให้จัดเทศกาลโอบ้งได้
ส่วนมิตสึฮะโผล่มาหลังจากที่ทาคิคุงพูดกับโฮดากะว่า งั้นก็ต้องซื้อของขวัญวันเกิดให้เธอ(ฮินะ)สิ
แล้วโฮดากะก็ไปซื้อแหวนจากร้านที่มิตสึฮะยืนขาย ให้ฮินะ
จริงๆมี ซายากะ กับ เท็ตซี่ จาก Your Name ในเรื่องด้วยนะ โผล่มาในช่วง Climax มองสภาพอากาศผ่านหน้าต่าง แต่ผมไม่ทันสังเกต ตอนที่ดู
ซึ่งการเอาตัวละครจากหนังเรื่องก่อนมาใส่ในเรื่องด้วย เป็นสิ่งที่ผมชอบนะ (จริงๆตอน YourName ก็มีอาจารย์ยูคิโนะ จาก Garden of Words)
มันทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวของชินไคยุคหลังๆดูต่อเนื่องเป็นจักรวาลเดียวกันดี และการได้เห็นตัวละครที่เรารักจากหนังเรื่องก่อน มีความสุขดีในเรื่องนี้ มันก็อบอุ่นหัวใจดีเหมือนกันนะ ^^
#YourName #君の名は #หลับตาฝันถึงชื่อเธอ
โฆษณา