5 ก.ย. 2019 เวลา 06:37 • การศึกษา
ความแตกต่างของ EFL และ ESL
1
การให้นิยาม หรือ การมีความเข้าใจ ในความแตกต่างระหว่าง ภาผาาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ (English as a Foreign Language :EFL) และ ภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่ 2 (English as a Second Language: ESL) มีส่วนช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกกระบวนการและวิธีการเรียนภาษาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้ผู้สอนได้วางแผนการสอน เลือกวิธีการสอนและ ใช้กระบวนการสอนที่ถูกต้องเพื่อนำไปสู่การเรียนการสอน ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
อ้างอิงจากหนังสือ Fundamental Concepts of Language Teaching , Stern (1983) ได้กล่าวถึงความแตกต่างของทั้ง EFL และ ESL ในหลายประเด็นกล่าวคือ หน้าที่ของภาษา (language functions) จุดประสงค์ในการเรียน (learning purposes) สภาพแวดล้อมของภาษาอังกฤษในที่ที่ทำการเรียนการสอน (language environment) และ กระบวนการเรียน (learning methods)
Stern ได้นิยามไว้ว่า ภาษาต่างประเทศ หมายถึง ภาษาที่ถูกใช้ในประเทศอื่น ซึ่งเรียนเพื่อใช้มนการสื่อสารกับเจ้าของภาษา แต่ ภาษาที่ 2 คือ ภาษาใดที่ทำหน้าที่เช่นเดียวกันกับภาษาแม่
Shu Dingfang (1994) มองว่าความแตกต่างระหว่าง ภาษาต่างประเทศ กับภาษาที่สองในเชิง สิ่งแวดล้อมของภาษา (language environment) และ ปัจจัยเชิงประสิทธิภาพในการสื่อสาร และ สรุปว่า EFL หมายถึง ภาษาอังกฤษที่เรียนหรือสอน หรือ ใช้ในประเทศที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาราชการ แต่ ESL หมายถึง ภาษาอังกฤษที่อยู่ในฐานะเดียวกันกับภาษาแม่ ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
Yoko Iwai (2011) นิยามไว้คือ EFL คือ คนที่เรียนภาษาอังกฤษในประเทศที่ไม่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก หรือ พาษาราชการ แต่ ESL หมายถึง คนที่เรียนภาษาอังกฤษในประเทศที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ในอย่างเป็นทางการ
ในประเทศไทยนั้น มีภาษาไทยเป็นภาษาราชการ และ ภาษาอังกฤษในประเทศไทย ไม่มีการใช้อย่างแพร่หลาย เหมือนในหลายประเทศในอาเซียนเช่น มาเลเชีย ฟิลิปปินส์ หรือ สิงคโปร์ ดังนั้น หากพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อมของภาษาแล้ว ภาษาอังกฤษในประเทศไทย อยู่ในฐานะภาษาต่างประเทศ หรือ EFL เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว คนไทย หรือ ผู้เรียนชาวไทย ก็จะมีโอกาส เรียนรู้ภาษาส่วนใหญ่ในห้องเรียน หรือ การเรียนจากระบบการศึกษาทั้งทางการของรัฐและเอกชน
การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในฐานะ ภาษาที่สอง ที่เป็นการเข้าใจผิดว่า คนไทยเมื่อจะเรียนภาษาอังกฤษควรจะใช้กระบวนการเรียนเดียวกัน กับการเรียนภาษาไทย หรือ ภาษาแม่ คือ การ เริ่มจากการฟังให้มาก แล้ว จะเข้าใจได้เอง นั้นจึงเป็นความเชื่อที่ผิด และ เป็นกระบวนการเรียนที่ผิด นอกจากนี้ คนไทยที่พูดภาษาอังกฤษได้ ก็เข้าใจว่าตนเอง เรียนได้เองจากการฟัง โดยลืมไปว่า ปัจจัยในการทำให้พูดได้นั้น ล้วนแต่มาจากการที่คนไทยเข้าเรียนในระบบเป็นเวลากว่า 10 ปี เพื่อเรียพื้นฐาน และ จึงนำมาต่อยอดภายหลังจากการใช้ภาษาในการฟังและพูด แต่มิได้เพียงแต่การเรียจากการฟังเท่านั้น
ความเชื่อที่ผิด ๆ ในการเรียนภาษาในประเทศไทย จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และ ควรจะให้มีการถกเถียงและ อภิปราย เพราะ เนื่องจาก ครูผู้สอนชาวต่างประเทศที่มีอิทธิพลต่อสังคมไทยนั้น กำลัง ทำให้คนไทยเข้าใจผิด เรื่องของการเรียนภาษา ตลอดจนผู้นำทางความคิดของคนไทยหลายคน ยังนำความคิดในระดับที่ผิด
ในโอกาสต่อไปจะได้เขียนเพื่อตอบคำถามต่อไปนี้
1. เรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีธรรมชาติได้หรือไม่
2. เรียนภาษาอังกฤษนานเท่าไรจึงจะพูดได้
3. การตลาดโรงเรียนสอนภาษาไทยประเทศไทย
4. ระบบการศึกษาไทย พังแล้วจริงหรือไม่
โฆษณา