5 ก.ย. 2019 เวลา 09:24 • ท่องเที่ยว
"ตามหาตุ๊กตาคนแคระที่ Wroclaw" ประเทศโปแลนด์ (Poland) ครับ..
เมือง Wroclaw, Poland
ณ สถานีรถประจำทางกรุงเบอร์ลิน (Berlin) ประเทศเยอรมัน (Germany)
"Is this a bus to go to 'Wro-Claw'?" ผมถามแหม่มร่างใหญ่ที่ยืนอยู่หน้ารถบัสคันหนึ่งตรงชานชาลารถประจำทาง
"What city?" เธอถามกลับและผมก็ตอบกลับด้วยความรวดเร็ว "Wro -Claw"...
แหม่มตอบผมด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงเยอรมันที่ฟังห้วนๆว่า "Never heard of!!!"
"เ....ย" ผมคิดในใจด้วยความสุภาพ🤣🤣🤣
"I am sorry ... I mean a city in Poland which is called 'W-R-O-C-L-A-W'" ผมพูดต่อทันทีโดยพูดชื่อเมืองแบบสะกดตัวอักษรทีละตัวเพราะสำเนียงผมคงผิดแน่ๆ
"Oh... 'Vrohts-Wahf'......Yes, it is this one" แหม่มเยอรมันตอบ และในที่สุดผมก็ได้ขึ้นรถไปเมือง Wroclaw ที่น่าจะออกเสียงประมาณว่า "วรอต-สะ-วาฟ" ครับมันเป็นเมืองที่ออกเสียงยากมากครับ ดังนั้นบทความนี้ผมจะเขียนเป็น Wroclaw ง่ายกว่านะครับ
1
ตำแหน่งของ Wroclaw จาก Google
นั่งรถประมาณ 4 ชั่วโมงจากเบอร์ลินก็ถึงเมือง Wroclaw...ซึ่งเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมผสมระหว่างเยอรมัน โบฮีเมีย (Bohemia) หรือปัจจุบันคือสาธารณรัฐเช็กและแบบโปแลนด์ ชึ่งก็ทำให้เมืองดูสวยแปลกตาดีครับ
เมือง Wroclaw
โปเเลนด์เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจเช่นกันครับครับ โดยดินแดนแถบนี้มีหลายชนชาติอยู่รวมกันมาหลายพันปีแล้วแต่ชาวสลาฟ (Slavic people) ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวโปแลนด์ก็เริ่มเข้ามาอยู่บริเวณนี้มากขึ้นราวศตวรรษที่ 5
แต่อาณาจักรของชาวโปแลนด์น่าจะเริ่มเป็นที่รู้จักกันในช่วงศตวรรษที่ 10 โดยราชวงศ์ Piast (Piast Dynasty)
แผนที่โปแลนด์ช่วงราชวงศ Piast จาก wikipedia
จากนั้นอาณาจักรโปแลนด์ของราชวงศ์ Piast ก็เริ่มอ่อนแอลงมากในช่วงปลายศตวรษที่ 13 และต้นศตวรรษที่ 14 เนื่องจากการบุกของพวกมองโกล (Mongols) และตามมาด้วยการระบาดของกาฬโรคครั้งใหญ่ (Black death) ซึ่งทำให้อาณาจักรอ่อนแอจนมีการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ผู้ครองอำนาจ
แต่แล้วในปลายศตวรรษที่ 14 อาณาจักรโปแลนด์ได้มีการรวมกันกับอาณาจักรลิทัวเนีย (Lithuania) โดยการแต่งงานระหว่าง Grand Duke Jogaila ของลิทัวเนีย กับ ราชินี Jadwiga ของโปแลนด์และอาณาจักรโปแลนด์-ลิทัวเนียขึ้นโดยราชวงศ์ Jagiellonian และต่อมาได้พัฒนาการกลายเป็นเครือจักรภพโปแลนด์และลิทัวเนีย (Polish-Lithuanian Commonwealth)
Polish-Lithuanian commomwealth จาก wikipedia
เครือจักรภพโปแลนด์และลิทัวเนียได้คงความยิ่งใหญ่กว่า 400 ปี แต่ต่อมาเมื่ออาณาจักรมหาอำนาจใหม่ที่ล้อมรอบโปแลนด์อย่างอาณาจักรเยอรมัน (German Empire) อาณาจักรรัสเซีย (Russia Empire) และออสเตรีย-ฮังการี (Austro-Hungarian Empire) ได้มีความแข็งแกร่งขึ้นก็ได้เข้ามาริดรอนอำนาจรวมถึงยึดและรุกรานดินแดนของโปแลนด์ จนกระทั่งปี 1795 อาณาจักรโปแลนด์ก็หายสาบสูญไปจากแผนที่โลก โดยดินแดนได้ถูกแบ่งไปเป็นของเยอรมัน รัสเซีย และ ออสเตรีย
แผนที่ยุโรปในปี 1800
เมือง Wroclaw เป็นเมืองใกล้ชายแดนระหว่างโปแลนด์ เยอรมัน และสาธารณเช็กก็เลยเป็นเมืองที่เคยตกเป็นทั้งของโปแลนด์ เชค (โบฮีเมีย) ฮังการี และเยอรมัน ไปๆมาๆ และนั่นคืสาเหตุให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมผสมผสานครับ
เคยไปทั้งหน้าหนาวและหน้าร้อน
แต่การมา Wroclaw ครั้งนี้นอกจากจะมาดูบ้านเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่น่ารักเเล้ว ผมยังตั้งใจว่าจะมาตามหาและดูตุ๊กตาคนเเคระ (Wroclaw Dwarfs) ตัวเล็กๆชื่อดังที่เขาบอกกันว่ามีอยู่ทั่วเมืองแต่ต้องคอยสังเกตุเอานะครับ
1
ตุ๊กตาคนแคระ
นอกจากบ้านเมืองที่นี่จะสวยงามและตึกรามบ้านช่องก็ดูสวยเก๋ไก๋สมคำร่ำลือ การได้เดินตามหาตุ๊กตามันก็สนุกดีนะครับและตุ๊กตาคนแคระสำริดที่นี่ก็หาเจอได้ง่ายมากเพราะมีอยู่ตามมุมตึกและที่ต่างๆทั่วไปของเมือง ผมว่าตุ๊กตาคนแคระพวกนี้มันเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้กับเมืองนี้เลยทีเดียวครับ..
และอีกอย่างตุ๊กตาเองก็มีหน้าตาน่ารักและก็มีอิริยาบถต่างๆกัน ครับซึ่งทำให้ดูไม่น่าเบื่อและน่ารักดีครับ...
บ้านเมืองใน wroclaw
หลังจากอาณาจักโปแลนด์หายไปตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งก็เป็นเวลาร้อยกว่าปีประเทศโปแลนด์ก็ได้เกิดขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แม้นว่าอาจจะมีบางช่วงอาจมีรัฐโปแลนด์เกิดขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ เช่นในช่วงนโปเลียนแต่ก็เป็นเพียงรัฐหุ่นเชิด
การเกิดให้ใหม่ของโปแลนด์ก็เป็นเพราะเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 และอังกฤษกับฝรั่งเศสต้องการสร้างประเทศกันชนไว้และนั่นคือโอกาสที่จะนำประเทศโปแลนด์กลับมาบนแผนที่โลกอีกครั้ง
แต่การกลับมาบนแผนที่โลกเพียง 20 ปีเศษ ประเทศโปแลนด์ก็ถูกกองทัพนาซีของเยอรมันเข้ายึดและสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้นครับ
ภาพโปแลนด์ในสงครามโลกครั้งที่ 2จาก Bloomberg
เนื่องจากช่วงสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 โซเวียตได้มาช่วยปลดแอกโปแลนด์จากเยอรมัน นั่นเป็นสาเหตุ ให้โปแลนด์แม้จะเป็นประเทศอิสระแต่ก็เป็นประเทศที่อยู่ใต้อิทธิพลของสหภาพโซเวียตและกลายเป็นคอมมิวนิสต์ในเวลาต่อมา
นั่นเป็นสาเหตุให้ตุ๊กตาคนแคระเกิดขึ้น!!!
หลังจากโปแลนด์เป็นประเทศคอมมิวนิสต์มาหลายสิบปี พอถึงช่วงปี 1980 ก็มีกระบวนการใต้ดินต่อต้านคอมมิวนิสต์เกิดขึ้นมากมายแต่กระบวนที่ชื่อ Orange Aletrnative ที่นำโดย Waldemar Fydrych ที่ได้สร้างสัญลักษณ์ภาพวาดคนแคระที่เป็นรูปวาดอันน่ารักนี้เป็นเครื่องหมายของการต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์และเครื่องหมายนี้ก็เริ่มต้นที่เมือง Wroclaw นี่เอง
จริงๆแล้วเหตุที่เลือกภาพวาดเป็นรูปคนเเคระก็เพียงเพราะต้องการเลือกภาพที่ไม่เป็นจุดเด่นให้กับรัฐบาลคอมมิวนิสต์สังเกตุครับ แต่หารู้ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่โด่งดังในเวลาต่อมา
สัญลักษณ์ของจริงที่เหลืออยู่ ภาพจาพ wikipedia
และหลังจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์ล่มสลายและโปแลนด์ได้กลายเป็นประชาธิปไตย ก็เลยมีคนเอาภาพวาดตุ๊กตาคนแคระนี้มาทำเป็นตุ๊กตาสำริดที่มีทั่วเมืองให้เป็นสัญลักษณ์ที่รำลึกถึงการต่อต้านคอมมิวนิสต์นั่นเอง และตอนนี้คาดว่ามีเป็นร้อยตัวทั่วเมือง Wroclaw เลยครับ
แต่ผมเจอไม่ครบนะครับแค่ดูเอาสนุกๆ
ตุ๊กตาคนแคระ
แต่ที่แน่ๆการมาที่นี่และการได้เดินดูตุ๊กตาคนแคระมันก็ทำให้ผมนึกถึงสงครามเย็นซึ่งจริงๆ จบไปไม่นานมากนักและโปแลนด์ก็พึ่งมาป็นประเทศประชาธิปไตยเมื่อประมาณ 30 ปีนี้เอง แต่ประเทศนี้ก็สามารถเปลี่ยนจากตัวเองจากประเทศยากจนในยุโรปจนกลายเป็นร่ำรวยได้
ถึงจะยังไม่ใช่ประเทศที่รุ่งเรืองเหมือนอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันแต่ก็ถือว่ากลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยแล้วและเศรษฐกิจตอนนี้ยังดีกว่าหลายๆ ประเทศในยุโรปด้วยซ้ำไปรวมถึงเยอรมันและอังกฤษ
คนแคระ
ทำให้นึกถึงประเทศไทยบ้านเรานิดๆว่าทำอย่างไรเราถึงจะเจริญให้เร็วได้บ้าง...🤔🤔🤔
Wroclaw
อ๋อนึกออกละครับ🤔😮😮... ประเทศไทยอาจจะเจริญเร็วแน่ๆๆถ้าผมได้เป็นนายกรัฐมนตรี🤣🤣🤣🤣🤣 พูดเล่นนะครับ...
แต่เอาจริงๆแล้วประเทศเราก็น่าอยู่ไม่แพ้ใครครับโดยเฉพาะเรื่อง "คน" จากการเดินทางมาหลายประเทศผมว่าคนไทยเรายังถือว่าเป็นชาติที่คนมีน้ำใจและอะลุ่มอล่วยอันดับต้นๆ ของโลกเลยนะครับ.....ถึงไม่รวยเงินทองแต่รวยน้ำใจจริงๆ ครับ😁😁👍👍
ฝากกดไลค์ และ follow ด้วยนะครับ
#wornstory
1
ref. for recheck: wikipedia, Bloomberg, Telegraph UK
wroclaw..
โฆษณา